เอเอฟพี--กระแสแข็งค่าของเงินหยวนที่พุ่งสูงมาตลอด ดูจะชะงักงันอยู่ที่ระดับ 7.0 ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ สร้างความฉงนแก่เหล่านักนักวิเคราะห์ว่า มันเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลจีน หรือว่าเป็นเพียงภาวะหยุดนิ่งในกระแสแข็งค่าของหยวนเท่านั้น
หยวนเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ได้แข็งค่าขึ้นรวม 18% นับตั้งแต่จีนยกเลิกตรึงค่าเงินกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนกรกฎาคม 2005 กระทั่งทะลุระดับจิตวิทยา 7.0 หยวน ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 10 เมษายน แต่หลังจากนั้น หยวนก็ขยับขึ้นนิดเดียวเท่านั้น
ด้านกลุ่มนักวิเคราะห์ดูมีความเห็นต่างกันในการมองสาเหตุการแข็งค่าของหยวน ซึ่งดีดตัวสูงขึ้นมากกว่า 6% ในช่วงสี่เดือนถึงเดือนมีนาคมนี้ แต่แล้วกลับชะงักไปเฉยๆ อย่างไรก็ตา ม สาเหตุหนึ่ง ดูจะมาจากความกังวลของรัฐบาล ต่อเรื่องผลกำไรการส่งออกของกลุ่มผู้ส่งออก
ทั้งนี้ การแข็งค่าหยวนในช่วงที่ผ่านมานั้น เป็นไปท่ามกลางเสียงบ่นเป็นหมีกินผึ้งจากวอชิงตัน หาว่าค่าหยวนนั้น ต่ำค่าเกินไป สร้างความได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรมแก่ผู้ส่งออกจีน และเป็นตัวการสร้างความไม่สมดุลแก่การค้าระหว่างสองชาติ
“การแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วของหยวนนั้น หั่นกำไรของนักธุรกิจ บางรายถึงขั้นเจ็ง ปิดกิจการ และโละคนงานเป็นเบือ” จ้าว สีจวิน นักเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยประชาชนกล่าว
สาเหตุการอีกประการ ที่ทำค่าหยวนชะลอตัวลง ก็คือกระแสทุนเก็งกำไร หรือเงินร้อน ซึ่งสร้างความปวดหัวอย่างเหลือหลายแก่ผู้นำจีน ที่กำลังกุมขมับเครียดอยู่กับการหยุดภาวะเงินเฟ้อ
เงินร้อนที่ทะลักท่วมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ได้สร้างความลำบากยิ่งขึ้นแก่ธนาคารกลางจีน ในการซับสภาพคล่องล้นเกิน ที่เป็นเชื้อเพลิงโหมอย่างดีในการโหมกระพือเงินเฟ้อ ที่แตะระดับ 8% ในไตรมาสแรก ทำลายสถิตระดับสูงในรอบเกือบ 12 ปี
จากตัวเลขทางการจีนระบุปริมาณทุนเก็งกำไร ทะลักเข้าจีนมากถึง 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างช่วงสามเดือนแรกของปี
“หยวนพุ่งเร็วเกินไปในช่วงไตรมาสแรก และเงินร้อนก็ทะลักท่วมเข้ามามาก ดังนั้น ธนาคารกลางก็น่าจะออกมาควบคุม โดยธนาคารไล่กวาดซื้อดอลลาร์ ที่ทะลักเข้าจีน เพื่อชะลอการแข็งค่าหยวน แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในก้าวต่อไปนั้น ไม่มีใครรู้หรอก” หลิน จือจวิน นักค้าอัตราแลกเปลี่ยน ประจำฝูโจว ซีตี้ คอมเมิร์ชเชียล แบงก์ชี้
เหอ ฟ่าน นักเศรษฐศาสตร์ประจำสถาบันบัณฑิตยสถาน คลังสมองหมายเลขหนึ่งของจีน บอกว่าการทำให้หยวนค่อยๆแข็งค่าขึ้นนั้น ยิ่งกระตุ้นพวกเก็งกำไร รัฐบาลจะต้องแก้ปัญหาถึงรากหญ้า โดยการปล่อยอัตราแลกเปลี่ยนหยวนลอยตัวอย่างเสรีเป็นการชั่วคราว ซึ่งจะหยุดการคาดการณ์ข้างเดียวของตลาด เกี่ยวกับการแข็งค่าหยวน
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์จากนักเศรษฐศาสตร์แห่งค่ายเจพี มอร์แกนในฮ่องกง โดยนายแฟรงค์ กงเผยการวิจัยในวันจันทร์ (28 เม.ย.) ชี้ความเป็นไปได้มากทีเดียวว่าจีนจะปรับค่าหยวนครั้งใหญ่ ระหว่าง10%-15% เขาบอกว่า “รัฐบาลกำลังชั่งน้ำหนักเรื่องนี้อยู่ ทำให้ค่าเงินหยวนหยุดชะงักเป็นการชั่วคราวในสัปดาห์ที่แล้วหรืออีกระยะหนึ่ง”
แต่นายจ้าวกลับไม่เห็นด้วย แย้งว่ารัฐบาลจะต้องระวังอย่างมากในการทำอะไรอย่างดุเดือด “ผมไม่คิดว่าจะมีการปรับทีเดียวครั้งใหญ่ เพราะมันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเลย หากพวกเขาทำเช่นนั้นละก็ ผู้คนก็จะคาดการณ์ต่อไปว่ามันจะต้องมีอีก และในที่สุด ก็ไม่ได้หยุดกระแสเก็งการปรับค่าเงิน
หยวนเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ได้แข็งค่าขึ้นรวม 18% นับตั้งแต่จีนยกเลิกตรึงค่าเงินกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนกรกฎาคม 2005 กระทั่งทะลุระดับจิตวิทยา 7.0 หยวน ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 10 เมษายน แต่หลังจากนั้น หยวนก็ขยับขึ้นนิดเดียวเท่านั้น
ด้านกลุ่มนักวิเคราะห์ดูมีความเห็นต่างกันในการมองสาเหตุการแข็งค่าของหยวน ซึ่งดีดตัวสูงขึ้นมากกว่า 6% ในช่วงสี่เดือนถึงเดือนมีนาคมนี้ แต่แล้วกลับชะงักไปเฉยๆ อย่างไรก็ตา ม สาเหตุหนึ่ง ดูจะมาจากความกังวลของรัฐบาล ต่อเรื่องผลกำไรการส่งออกของกลุ่มผู้ส่งออก
ทั้งนี้ การแข็งค่าหยวนในช่วงที่ผ่านมานั้น เป็นไปท่ามกลางเสียงบ่นเป็นหมีกินผึ้งจากวอชิงตัน หาว่าค่าหยวนนั้น ต่ำค่าเกินไป สร้างความได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรมแก่ผู้ส่งออกจีน และเป็นตัวการสร้างความไม่สมดุลแก่การค้าระหว่างสองชาติ
“การแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วของหยวนนั้น หั่นกำไรของนักธุรกิจ บางรายถึงขั้นเจ็ง ปิดกิจการ และโละคนงานเป็นเบือ” จ้าว สีจวิน นักเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยประชาชนกล่าว
สาเหตุการอีกประการ ที่ทำค่าหยวนชะลอตัวลง ก็คือกระแสทุนเก็งกำไร หรือเงินร้อน ซึ่งสร้างความปวดหัวอย่างเหลือหลายแก่ผู้นำจีน ที่กำลังกุมขมับเครียดอยู่กับการหยุดภาวะเงินเฟ้อ
เงินร้อนที่ทะลักท่วมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ได้สร้างความลำบากยิ่งขึ้นแก่ธนาคารกลางจีน ในการซับสภาพคล่องล้นเกิน ที่เป็นเชื้อเพลิงโหมอย่างดีในการโหมกระพือเงินเฟ้อ ที่แตะระดับ 8% ในไตรมาสแรก ทำลายสถิตระดับสูงในรอบเกือบ 12 ปี
จากตัวเลขทางการจีนระบุปริมาณทุนเก็งกำไร ทะลักเข้าจีนมากถึง 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างช่วงสามเดือนแรกของปี
“หยวนพุ่งเร็วเกินไปในช่วงไตรมาสแรก และเงินร้อนก็ทะลักท่วมเข้ามามาก ดังนั้น ธนาคารกลางก็น่าจะออกมาควบคุม โดยธนาคารไล่กวาดซื้อดอลลาร์ ที่ทะลักเข้าจีน เพื่อชะลอการแข็งค่าหยวน แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในก้าวต่อไปนั้น ไม่มีใครรู้หรอก” หลิน จือจวิน นักค้าอัตราแลกเปลี่ยน ประจำฝูโจว ซีตี้ คอมเมิร์ชเชียล แบงก์ชี้
เหอ ฟ่าน นักเศรษฐศาสตร์ประจำสถาบันบัณฑิตยสถาน คลังสมองหมายเลขหนึ่งของจีน บอกว่าการทำให้หยวนค่อยๆแข็งค่าขึ้นนั้น ยิ่งกระตุ้นพวกเก็งกำไร รัฐบาลจะต้องแก้ปัญหาถึงรากหญ้า โดยการปล่อยอัตราแลกเปลี่ยนหยวนลอยตัวอย่างเสรีเป็นการชั่วคราว ซึ่งจะหยุดการคาดการณ์ข้างเดียวของตลาด เกี่ยวกับการแข็งค่าหยวน
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์จากนักเศรษฐศาสตร์แห่งค่ายเจพี มอร์แกนในฮ่องกง โดยนายแฟรงค์ กงเผยการวิจัยในวันจันทร์ (28 เม.ย.) ชี้ความเป็นไปได้มากทีเดียวว่าจีนจะปรับค่าหยวนครั้งใหญ่ ระหว่าง10%-15% เขาบอกว่า “รัฐบาลกำลังชั่งน้ำหนักเรื่องนี้อยู่ ทำให้ค่าเงินหยวนหยุดชะงักเป็นการชั่วคราวในสัปดาห์ที่แล้วหรืออีกระยะหนึ่ง”
แต่นายจ้าวกลับไม่เห็นด้วย แย้งว่ารัฐบาลจะต้องระวังอย่างมากในการทำอะไรอย่างดุเดือด “ผมไม่คิดว่าจะมีการปรับทีเดียวครั้งใหญ่ เพราะมันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเลย หากพวกเขาทำเช่นนั้นละก็ ผู้คนก็จะคาดการณ์ต่อไปว่ามันจะต้องมีอีก และในที่สุด ก็ไม่ได้หยุดกระแสเก็งการปรับค่าเงิน