เอเยนซี - นักท่องเที่ยวเจอภัยร้าย ตกเป็นเป้ามิจฉาชีพจีนหวังรวยทางลัด ชี้แดนมังกรยังเป็นสวรรค์ท่องเที่ยว แม้มีข่าวฉาวนักท่องเที่ยวโดนดีอื้อ แต่ยังปลอดภัยกว่าประเทศอื่น
5 มี.ค. เซี่ย เทา หนุ่มชาวจีนถังแตก ตัดสินใจจี้รถโดยสารท่องเที่ยว ในเมืองซีอัน เมืองเอกของมณฑลส่านซี เมื่อขึ้นไปอยู่บนรถได้สำเร้จ เซี่ยเปิดเสื้อนอกของเขาออก โชว์ระเบิดที่ติดตรึงกับตัวของเขา เหตุการณ์ดำเนินไปได้สักระยะหนึ่งท่ามกลางความหวาดกลัวของนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน เซี่ย เอ่ยปากขอโทษเป็นภาษาอังกฤษ “I’m sorry” ก่อนที่เขาจะถูกตำรวจจีนวิสามัญฯ
เหตุการณ์จี้ตัวประกันเมื่อเดือนมี.ค. ทำเอารัฐบาลจีนแทบแย่ เนื่องจากอีกไม่กี่เดือนจีนจะเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปักกิ่ง นักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลกต่างหลั่งไหลมายังแดนมังกร เพื่อชมความงามของอาณาจักรที่มีประวัติศาสตร์และอารยธรรมกว่า 5,000 ปี ทว่า “ใครจะเป็นผู้รับรองความปลอดภัยของพวกเขา?”
ด้วยการควมคุมข่าวการเมืองและความมั่นคงอย่างเข้มข้น ทำให้สถิติอาชญากรรมต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกเก็บอยู่ในหีบ อย่างไรก็ตามข่าวและคำร่ำลือจากประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวชี้ตรงกันว่า “นักท่องเที่ยวต่างชาติกำลังเป็นเป้าหมายสำคัญของอาชญากร”
เพราะการแข่งขันทางเศรษฐกิจได้ปล้นทิ้งคนส่วนหนึ่งไว้เบื้องหลัง เมื่อชีวิตเต็มไปด้วยหนี้สิน ขาดคนเหลียวแล พวกเขาจึงตัดสินใจปล้นนักท่องเที่ยว หวังรวยทางลัด
ที่เซี่ยงไฮ้นักท่องเที่ยวรายหนึ่ง ถูกโจรใช้มีดจี้คอหอย ก่อนที่จะปล้นเงินของเขาไป อีกรายหนึ่งถูกแท็กซี่โกงเงิน จากที่ต้องจ่ายค่าโดยสารปกติราว 7 เหรียญสหรัฐฯ เขาถูกแท็กซี่มหาภัยขูดไปถึง 1,000 เหรียญสหรัฐฯ ที่ร้ายไปกว่านั้น กระทั่งนักมวยชื่อดังอย่าง ริคกี้ แฮตตัน ยังถูกอันธพาลจีน 4 นายรุมฉกโรเล็กซ์มูลค่า 8,000 เหรียญไปดื้อๆ
อย่างไรก็ตามเซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง ยังเป็นเมืองที่ปลอดภัย เมื่อเทียบกับมหานครใหญ่ๆในต่างประเทศ บทลงโทษสำหรับอาชญากรรมต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติค่อนข้างรุนแรง การสอดส่งโดยตำรวจ และอาสาสมัครค่อนข้างรัดกุม นอกจากนี้พลเมืองจีนยังไม่ได้รับอนุญาตให้ครอบครองอาวุธปืน
อย่างไรก็ตามความเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ และขบวนการนคราภิวัตน์ (Urbanization) ทำให้ประชากรทั่วสารทิศหลั่งไหลสู่เมืองใหญ่ ส่งผลให้สถิติอาชญากรรมพลอยขยายตัวตาม
เมื่อปีที่แล้วสำนักข่าวจีนรายงานว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติรายหนึ่ง ถูกลักพาตัวไประหว่างท่องเที่ยวในมณฑลกุ้ยโจว และเหยื่อเคราะห์ร้ายก็ถูกปล่อยตัวในวันถัดมา ที่เมืองเซินเจิ้น หลังยอมจ่ายค่าไถ่เป็นเงิน 40,000 เหรียญสหรัฐฯ
กระทรวงพิทักษ์สันติราษฏร์รายงานว่า เมื่อปีที่แล้ว มีสถิติคดีโจรกรรมทั้งหมด 289,000 คดี รวมกับคดีวิ่งราวอีก 171,000 คดี เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรกว่า 1,300 ล้านคน ตัวเลขนี้ถือเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย รายงานของกระทรวงพิทักษ์สันติราษฏร์ยังระบุด้วยว่า “สถิ ติคดีฆาตกรรมและลักพาตัวลดลงราว 10% และ 1.5% ตามลำดับเมื่อเทียบกับปี 2006”
ยิ่งมหกรรมโอลิมปิกงวดมาเท่าไร ปักกิ่งยิ่งต้องเผชิญความท้าทายสำหรับการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว
แม้เหตุการณ์จับตัวประกันชาวออสซี่ในซีอัน จะจบลงโดยไม่มีนักท่องเที่ยวบาดเจ็บ แต่การใช้สไนเปอร์ซุ่มยิงคนร้าย หลังจากนั้นตำรวจจึงเข้าไปยิงซ้ำอีกที กำลังถูกตั้งคำถามว่า “จะหยุดยั้งภัยคุกคามในสังคมได้หรือ”
ยิ่งนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามามากเท่าไร ขุมทรัพย์มีชีวิตสำหรับมิจฉาชีพจีนยิ่งมากขึ้น
ราวต้นเดือนมี.ค. สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แก๊งแท็กซี่ในเซี่ยงไฮ้ หลอกต้มไถเงินค่าแท็กซี่ฝรั่งหลาย 10 ราย โดยไถไปรายละ 7,000 เหรียญสหรัฐฯต่อการโดยสารหนึ่งเที่ยว
ฟิลิป โจว พนักงานบริษัทท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้เผยว่า “ที่นี่คุณจะเจอเล่ห์เหลี่ยมสารพัดรูปแบบ นักท่องเที่ยวบางคนถูกหลอกเที่ยวคาราโอเกะ พอเจอบิลเข้าแทบผงะเพราะโดนชาร์จถึง 425 เหรียญสหรัฐฯต่อชั่วโมง”
นอกจากนี้ยีงมีมุขเด็ดอีกอย่างหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวตกหลุมพรางเข้าอย่างจัง ขณะเดินเล่นอย่างเพลินๆในเมือง คุณจะเจอกับชาวจีนบางคนที่ดูซื่อๆไม่มีพิษภัย เขาหรือเธอจะเข้ามาชักชวนให้คุณไปดื่มชาที่ร้านของพวกเขา พร้อมทั้งกล่อมคุณว่า อยากสนทนาฝึกภาษาอังกฤษด้วย เมื่อตกหลุมพลาง พลันที่คุณซดชาไปอึกแรก ก็เตรียมเป็นลมกับยอดใบเสร็จที่จะตามมาเช็คบิลทีหลังได้เลย
“อำนาจในการควบคุมสังคมจีนลดลง อาชญากรรมเหล่านี้เป็นผลจากความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และสังคม อย่างไรก็ตามถ้าให้ผมเลือกระหว่างร่วมงานโอลิมปิกที่ปักกิ่ง หรือ ลอส แองเจลิส ผมขอเลือกปักกิ่งดีกว่า อย่างน้อยจีนก็ยังปลอดภัยกว่าสหรัฐฯ” โรเบิร์ต บอร์ดฟุต ผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษา Economic and Political Risk กล่าว