ไชน่าเดลี่ - จากเหตุการณ์การก่อเหตุจลาจลในเมืองลาซาครั้งนี้ นำมาซึ่งความเสียหายของชีวิต และทรัพย์สินมากมาย ทางการจีนได้ออกมาระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งสิ้น 13 คนจากการถูกยิงและถูกไฟคลอก โดยสำนักข่าวไชน่าเดลี่เปิดเผยวานนี้ (20 มี.ค.) ว่าในจำนวนนี้ มีพนักงานสาวร้านขายเสื้อผ้า 5 คนต้องสังเวยชีวิต
ร้านขายเสื้อผ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองลาซา ของทิเบต และเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเมื่อวันศุกร์ที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยจัวหม่า พนักงานสาวของร้าน เธอเป็นเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้
จัวหม่าเล่าว่า “เราได้ยินเสียงร้องตะโกนลั่นบริเวณนั้น พวกกลุ่มผู้ประท้วงพยายามจะพังเข้าไปในร้านอื่นๆ พวกเราพากันร้องด้วยความตกใจ”
กลุ่มผู้ประท้วงพังเข้ามาในร้าน และเผาร้านของจัวหม่าด้วย มีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถหนีรอดเพลิงไหม้ครั้งนี้ออกมาได้ ส่วนเพื่อนๆ ของเธออีก 5 คน ถูกไฟคลอกตาย
เฉินเจี๋ย วัย 18 ปี เป็นเหยื่อ 1 ใน 5 ศพนี้ เธอมีพ่อที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ต้องดูแล พ่อของเฉินเจี๋ยเล่าว่า “ลูกสาวของฉันเป็นแม่บ้านแม่เรือนมาก พวกเรารักเธอทุกคน”
ระหว่างเกิดเหตุประท้วง เฉินเจี๋ย ได้ส่ง SMS ไปยังบุคคลที่เธอรักหลายคน มีใจความว่า “พ่อคะ เหตุการณ์ข้างนอกมันดูรุนแรงมาก เราหลบอยู่แต่ในร้าน ไม่ต้องห่วงหนูนะคะ บอกแม่กับน้องด้วยว่าให้อยู่แต่ในบ้าน รักษาตัวด้วยค่ะ”….และนี่ก็คือสาส์นสุดท้ายที่เฉินเจี๋ยส่งให้ครอบครัวของเธอ
ต่อการที่รัฐบาลจีนตัดสินใจใช้กำลังกำราบผู้ชุมนุมประท้วงชาวทิเบตที่ก่อเหตุความวุ่นวาย สร้างความเสียหายแก่ร้านค้าของชาวจีนฮั่นนั้น หลายประเทศแสดงตัวสนับสนุนการตัดสินใจของจีน โดยเมื่อวานนี้ กระทรวงต่างประเทศของ รัสเซีย เบลารุส และเวียดนาม ต่างสนับสนุนความพยายามของจีนในการยับยั้งกิจกรรมมุ่งทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในท้องที่ พร้อมแสดงความมั่นใจต่อศักยภาพของจีนในการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ปากีสถาน มอริทาเนีย ก็ได้ย้ำว่า พวกเขาต่อต้านความพยายามก่อวินาศกรรม หรือ ผลักดันให้โอลิมปิกปักกิ่งกลายเป็นประเด็นการเมือง เช่นเดียวกับสิงคโปร์ที่กล่าวว่าจะไม่ยอมให้การเมืองเข้ามาขัดขวางการแข่งขันกีฬาอย่างเด็ดขาด
ร้านขายเสื้อผ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองลาซา ของทิเบต และเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเมื่อวันศุกร์ที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยจัวหม่า พนักงานสาวของร้าน เธอเป็นเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้
จัวหม่าเล่าว่า “เราได้ยินเสียงร้องตะโกนลั่นบริเวณนั้น พวกกลุ่มผู้ประท้วงพยายามจะพังเข้าไปในร้านอื่นๆ พวกเราพากันร้องด้วยความตกใจ”
กลุ่มผู้ประท้วงพังเข้ามาในร้าน และเผาร้านของจัวหม่าด้วย มีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถหนีรอดเพลิงไหม้ครั้งนี้ออกมาได้ ส่วนเพื่อนๆ ของเธออีก 5 คน ถูกไฟคลอกตาย
เฉินเจี๋ย วัย 18 ปี เป็นเหยื่อ 1 ใน 5 ศพนี้ เธอมีพ่อที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ต้องดูแล พ่อของเฉินเจี๋ยเล่าว่า “ลูกสาวของฉันเป็นแม่บ้านแม่เรือนมาก พวกเรารักเธอทุกคน”
ระหว่างเกิดเหตุประท้วง เฉินเจี๋ย ได้ส่ง SMS ไปยังบุคคลที่เธอรักหลายคน มีใจความว่า “พ่อคะ เหตุการณ์ข้างนอกมันดูรุนแรงมาก เราหลบอยู่แต่ในร้าน ไม่ต้องห่วงหนูนะคะ บอกแม่กับน้องด้วยว่าให้อยู่แต่ในบ้าน รักษาตัวด้วยค่ะ”….และนี่ก็คือสาส์นสุดท้ายที่เฉินเจี๋ยส่งให้ครอบครัวของเธอ
ต่อการที่รัฐบาลจีนตัดสินใจใช้กำลังกำราบผู้ชุมนุมประท้วงชาวทิเบตที่ก่อเหตุความวุ่นวาย สร้างความเสียหายแก่ร้านค้าของชาวจีนฮั่นนั้น หลายประเทศแสดงตัวสนับสนุนการตัดสินใจของจีน โดยเมื่อวานนี้ กระทรวงต่างประเทศของ รัสเซีย เบลารุส และเวียดนาม ต่างสนับสนุนความพยายามของจีนในการยับยั้งกิจกรรมมุ่งทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในท้องที่ พร้อมแสดงความมั่นใจต่อศักยภาพของจีนในการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ปากีสถาน มอริทาเนีย ก็ได้ย้ำว่า พวกเขาต่อต้านความพยายามก่อวินาศกรรม หรือ ผลักดันให้โอลิมปิกปักกิ่งกลายเป็นประเด็นการเมือง เช่นเดียวกับสิงคโปร์ที่กล่าวว่าจะไม่ยอมให้การเมืองเข้ามาขัดขวางการแข่งขันกีฬาอย่างเด็ดขาด