เอเชี่ยน วอลสตรีท เจอร์นัลด์ - ธนาคารทุนหนาแดนมังกร อาศัยช่วงที่บริษัทการเงินหลายแห่งเจอกระแสซับไพรม์ของสหรัฐฯ ถล่ม แห่ดาหน้ากระโดดสู่ตลาดใหม่ธุรกิจประกัน-ทรัสต์ ด้านนักวิเคราะห์เตือนธนาคารระวังเจอตอ เพราะยังด้อยประสบการณ์ และขาดการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ
ธนาคารเพื่อการสื่อสาร (Bank of Communications Co., หรือ BOCOM) ธนาคารอันดับ 5 ของจีนด้านสินทรัพย์เผย กำลังวางแผนลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทประกันและบริษัททรัสต์ท้องถิ่น อีกทั้งยังอยู่ในระหว่างเจรจาซื้อหุ้นของธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรปด้วย นอกจากนี้ BOCOM ยังได้ยื่นเรื่องต่อหน่วยงานผู้คุมกฎ ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนธุรกิจบัตรเครดิตกับ HSBC Holding ด้วย เจี่ยงเชาเหลียง ประธาน BOCOM กล่าว
ไม่ใช่แต่เพียงเจี่ยงเท่านั้นที่วางแผนรุกเจาะธุรกิจกลุ่มอื่น ธนาคารเพื่อการก่อสร้าง (China Construction Bank หรือ CCB) กัวซู่ชิง ประธาน CCB ธนาคารอันดับ 2 ของประเทศด้านสินทรัพย์กล่าวว่า CCB ตั้งเป้าพลิกโฉมใหม่รุกเจาะธุรกิจทรัสต์และประกันในปีนี้ โดยแย้มว่าธนาคารกำลังเจรจากับกลุ่มบริษัททรัสต์ ซึ่งรวมถึงบริษัท เหอเฝย ซิงไท่ ทรัสต์ เกี่ยวกับการเข้าไปลงทุนในหลักทรัพย์ นอกจากนี้ธนาคารยังได้ยื่นเรื่องต่อหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง เพื่อขออนุญาตเข้าไปลงทุนในบริษัทประกัน และมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะซื้อหุ้น แฮปปี้ ไลฟ์ อินชัวรันซ์ในปักกิ่งด้วย
เช่นเดียวกับ ธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China: BOC) ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างขั้นเริ่มต้นในการเจรจากับบริษัทต่างชาติจำนวนหนึ่งถึงความเป็นไปได้ในการเข้าซื้อหุ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า ธนาคารทั้งหลายควรย่างก้าวอย่างระมัดระวัง โดยชาร์ลีน จู นักวิเคราะห์จากฟิตช์ เรทติ้งส์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือด้านการเงินชื่อดังของโลก กล่าวว่า ธนาคารจีนหลายแห่งมีเงินทุนล้นเหลือ เนื่องจากผลกำไรที่เติบโตอย่างเด่นชัด และเม็ดเงินนับพันล้านที่ได้จากการระดมทุนผ่านไอพีโอ
แต่จูมองว่า ธนาคารอาจเผชิญกับความเสี่ยงมากมาย เนื่องจากยังขาดประสบการณ์ในธุรกิจใหม่ที่พวกเขาต้องการเจาะเข้าไป อีกทั้งพวกเขายังจำเป็นต้องเคลื่อนไหวอย่างมีแบบแผน และค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งต้องพัฒนาศักยภาพในการบริหารจัดการความเสี่ยงให้ดีกว่านี้ด้วย
ทั้งนี้ HSBC Holding เป็นเจ้าของหุ้น 19% ใน BOCOM โดยเจี่ยงประธาน BOCOM กล่าวว่า เขาจะไปพบกับผู้บริหารระดับสูงของ HSBC ในฮ่องกงสัปดาห์หน้า เพื่อคุยเกี่ยวกับแผนการออกบัตรเครดิต และประเด็นอื่นๆ นอกจากนี้ เจี่ยงกล่าวว่า ธนาคารวางแผนที่จะถือหุ้นใหญ่ในบริษัทประกันแห่งหนึ่ง แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดของบริษัทแห่งนั้น รวมทั้งชื่อของบริษัทหลักทรัพย์ที่ BOCOM ตั้งใจเข้าไปลงทุนด้วย
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคมทีผ่านมา สื่อท้องถิ่นได้รายงานข่าวว่า BOCOM กำลังวางแผนที่จะซื้อหุ้นของบริษัทไชน่า ไลฟ์-ซีเอ็มจี อินชัวรันซ์ ในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน 50-50 ระหว่าง ไชน่า ไลฟ์ อินชัวรันซ์ และ คอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย โดยหยางเชา ประธานบริษัทไชน่า ไลฟ์ กล่าวเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า บริษัทกำลังเจรจาจำหน่ายหุ้นให้แก่ผู้ซื้อที่มีศักยภาพดีจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมถึง BOCOM ด้วย
ธนาคารเพื่อการสื่อสาร (Bank of Communications Co., หรือ BOCOM) ธนาคารอันดับ 5 ของจีนด้านสินทรัพย์เผย กำลังวางแผนลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทประกันและบริษัททรัสต์ท้องถิ่น อีกทั้งยังอยู่ในระหว่างเจรจาซื้อหุ้นของธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรปด้วย นอกจากนี้ BOCOM ยังได้ยื่นเรื่องต่อหน่วยงานผู้คุมกฎ ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนธุรกิจบัตรเครดิตกับ HSBC Holding ด้วย เจี่ยงเชาเหลียง ประธาน BOCOM กล่าว
ไม่ใช่แต่เพียงเจี่ยงเท่านั้นที่วางแผนรุกเจาะธุรกิจกลุ่มอื่น ธนาคารเพื่อการก่อสร้าง (China Construction Bank หรือ CCB) กัวซู่ชิง ประธาน CCB ธนาคารอันดับ 2 ของประเทศด้านสินทรัพย์กล่าวว่า CCB ตั้งเป้าพลิกโฉมใหม่รุกเจาะธุรกิจทรัสต์และประกันในปีนี้ โดยแย้มว่าธนาคารกำลังเจรจากับกลุ่มบริษัททรัสต์ ซึ่งรวมถึงบริษัท เหอเฝย ซิงไท่ ทรัสต์ เกี่ยวกับการเข้าไปลงทุนในหลักทรัพย์ นอกจากนี้ธนาคารยังได้ยื่นเรื่องต่อหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง เพื่อขออนุญาตเข้าไปลงทุนในบริษัทประกัน และมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะซื้อหุ้น แฮปปี้ ไลฟ์ อินชัวรันซ์ในปักกิ่งด้วย
เช่นเดียวกับ ธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China: BOC) ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างขั้นเริ่มต้นในการเจรจากับบริษัทต่างชาติจำนวนหนึ่งถึงความเป็นไปได้ในการเข้าซื้อหุ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า ธนาคารทั้งหลายควรย่างก้าวอย่างระมัดระวัง โดยชาร์ลีน จู นักวิเคราะห์จากฟิตช์ เรทติ้งส์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือด้านการเงินชื่อดังของโลก กล่าวว่า ธนาคารจีนหลายแห่งมีเงินทุนล้นเหลือ เนื่องจากผลกำไรที่เติบโตอย่างเด่นชัด และเม็ดเงินนับพันล้านที่ได้จากการระดมทุนผ่านไอพีโอ
แต่จูมองว่า ธนาคารอาจเผชิญกับความเสี่ยงมากมาย เนื่องจากยังขาดประสบการณ์ในธุรกิจใหม่ที่พวกเขาต้องการเจาะเข้าไป อีกทั้งพวกเขายังจำเป็นต้องเคลื่อนไหวอย่างมีแบบแผน และค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งต้องพัฒนาศักยภาพในการบริหารจัดการความเสี่ยงให้ดีกว่านี้ด้วย
ทั้งนี้ HSBC Holding เป็นเจ้าของหุ้น 19% ใน BOCOM โดยเจี่ยงประธาน BOCOM กล่าวว่า เขาจะไปพบกับผู้บริหารระดับสูงของ HSBC ในฮ่องกงสัปดาห์หน้า เพื่อคุยเกี่ยวกับแผนการออกบัตรเครดิต และประเด็นอื่นๆ นอกจากนี้ เจี่ยงกล่าวว่า ธนาคารวางแผนที่จะถือหุ้นใหญ่ในบริษัทประกันแห่งหนึ่ง แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดของบริษัทแห่งนั้น รวมทั้งชื่อของบริษัทหลักทรัพย์ที่ BOCOM ตั้งใจเข้าไปลงทุนด้วย
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคมทีผ่านมา สื่อท้องถิ่นได้รายงานข่าวว่า BOCOM กำลังวางแผนที่จะซื้อหุ้นของบริษัทไชน่า ไลฟ์-ซีเอ็มจี อินชัวรันซ์ ในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน 50-50 ระหว่าง ไชน่า ไลฟ์ อินชัวรันซ์ และ คอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย โดยหยางเชา ประธานบริษัทไชน่า ไลฟ์ กล่าวเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า บริษัทกำลังเจรจาจำหน่ายหุ้นให้แก่ผู้ซื้อที่มีศักยภาพดีจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมถึง BOCOM ด้วย