เอเจนซี—พญามังกรหวังฟื้นชีพอุปรากรจีน (งิ้ว) ปักกิ่ง ประกาศแผนนำร่องเพิ่มวิชางิ้วปักกิ่งในหลักสูตรดนตรีในโรงเรียนทั่วประเทศ แต่กลับเจอตอใหญ่ โดยเหล่าครูประสานเสียงต่อต้านสนั่น ชี้ไร้ประสบการณ์การถ่ายทอดวิชา และความสนใจในศิลปะที่ตายแล้ว
กลุ่มสื่อจีนอาทิสถานีโทรทัศน์กลางแห่งชาติ หรือซีซีทีวี, เดอะเป่ยจิง นิวส์,ไชน่าเดลี่ รายงานเมื่อวันจันทร์(25 ก.พ.)ว่า ในสัปดาห์นี้กระทรวงศึกษาจีนได้ประกาศแผนเปิดการเรียนการสอนอุปรากรจีนแบบประเพณีเก่าแก่ในโรงเรียนระดับมัธยมและประถมศึกษาราว 200 แห่ง ใน 10 มณฑล เพื่อพัฒนาความสนใจในเอกลักษณ์วัฒนธรรมเก่าแก่ของชาติแก่เด็กๆ แต่บรรดาครูออกโรงคัดค้านทันที โดยหลายคนวิตกเกี่ยวกับประสบการณ์การถ่ายทอดศิลปะการแสดงเก่าแก่นี้ และเงินทุนสนับสนุน นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันคึกคัก
“ปัญหาประการแรกคือ เรามีครูที่เชี่ยวชาญดนตรีการแสดงอุปรากรหลงเหลืออยู่อีกหรือ? ประการที่สอง... เราจะมีทุนสนับสนุนชั้นเรียนนี้ หรือไม่? ” คุณครูหลิว ฮุ่ยแห่งโรงเรียนประถมในหนันจิง กล่าว
ทั้งนี้ ศิลปะการแสดงงิ้วปักกิ่งที่มีอายุเก่าแก่ 200 ปี เป็นที่นิยมระหว่างยุคราชวงศ์จักรพรรดิกษัตริย์ และหายไปหลังจากที่ผู้นำคอมมิวนิสต์ซึ่งเมินดนตรีโบราณ ได้พิชิตอำนาจปกครองประเทศในปีค.ศ. 1949 และยิ่งในยุคหลังๆมานี้ ดนตรีป๊อปสมัยใหม่ ได้รุกเข้ามาครองใจหนุ่มสาวจีน
นอกจากนี้ กลุ่มครูในมณฑลกวางตุ้งที่ออกมาคัดค้าน ต่างชี้ว่าเด็กนักเรียนไม่สนใจการแสดงอุปรากรจีน พร้อมตั้งคำถามว่าทำไมหลักสูตรใหม่จึงจำกัดให้เปิดการเรียนการสอนเฉพาะงิ้วปักกิ่ง ทำไมไม่กำหนดหลักสูตรศิลปะการแสดงของท้องถิ่นอื่นๆ
“ขณะนี้ นักเรียนทุกคนต่างฟังเพลงป๊อป และพวกเขาก็ไม่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงิ้วปักกิ่งเลย” เว็บข่าวในกว่างตง รายงาน พร้อมชี้ว่า จะเป็นเรื่องง่ายกว่า หากรัฐบาลกลางกำหนดหลักสูตรการเรียนการสอนดนตรีเก่าแก่แบบประเพณีท้องถิ่นทางใต้
ชาวเน็ตคนหนึ่ง ใช้ชื่อว่า “ลิตเติ้ล มังกี้” แสดงความเห็นว่า “หากบังคับให้เด็กๆเรียน ก็จะเกิดผลในทางกลับกัน คือเด็กๆจะหมดความสนใจไปอย่างสิ้นเชิง”
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มพ่อแม่ในเจิ้งโจว เมืองเอกของมณฑลเหอหนันซึ่งเป็นที่ตั้งวัดเส้าหลิน พากันวิตกบ่นว่า ศิลปะการต่อสู้แบบเส้าหลิน ซึ่งเป็นวิชาบังคับของโรงเรียน จะกระตุ้นความรุนแรงในเด็ก
ทั้งนี้ ศิลปะการแสดงแบบประเพณีของจีน แบ่งย่อยไปตามท้องถิ่นต่างๆซึ่งต่างก็มีการแสดง ดนตรี การร้อง การแต่งกาย แตกต่างกันไปตามวัฒนธรรมท้องถิ่น มี 17 สาขาใหญ่ อาทิเช่น จิงจี้ว์หรืองิ้วปักกิ่งของนครหลวงปักกิ่ง, เยี่ยว์จี้ว์ซึ่งแพร่หลายทางภาคตะวันออกได้แก่เจ้อเจียง เซี่ยงไฮ้ เจียงซู ฝูเจี้ยน, คุนจี้ว์แพร่หลายในเจียงซู, ชวนจี้ว์ของซื่อชวน(เสฉวน), และศิลปะการแสดงประจำถิ่นของกว่างตงก็มีเอ้าจี้ว์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซินหัว อ้างโฆษกกระทรวงศึกษานายหวัง จวิ่น โต้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า กระทรวงไม่ได้กำหนดการสอนงิ้วปักกิ่งเป็นวิชาบังคับ โดยขณะนี้ ยังอยู่ในขั้นทดลอง และจะพิจารณากระแสตอบรับอีกครั้ง