ซีน่าเน็ต – กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ทันทีเมื่อมีชื่อ “เส้าหลิน” ปรากฏเป็น 1 ใน 19รายนามบริษัทที่ยื่นของจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก่อนสิ้นเดือนมิ.ย. โดยการจดทะเบียนดังกล่าวแม้ไม่ใช่วัดเส้าหลิน แต่ก็เป็นบริษัทการท่องเที่ยวเส้าหลิน ที่ใช้ชื่อ “เส้าหลิน” เป็นแบรนด์ อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายเชื่อว่าวัดเส้าหลินกับบริษัทท่องเที่ยวเส้าหลิน ยากจะแยกแยะความเกี่ยวพันทางผลประโยชน์ออกจากกันได้
ในการประชุมปฏิบัติการของวิสาหกิจที่เตรียมจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2008 ของมณฑลเหอหนาน ได้มีการเปิดเผยออกมาว่า บริษัท เส้าหลิน ได้ยื่นเรื่องขอเสนอทำไอพีโอในตลาดหลักทรัพย์ก่อนสิ้นเดือนมิ.ย.ที่จะมาถึงนี้ ซึ่งจากรายงานข่าวพบว่า ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น มีข้อมูลบริษัทที่จะยื่นขอทำไอพีโอ 19 บริษัท และหนึ่งในนั้นมี “เส้าหลิน” อยู่ด้วย
ตามรายงานข่าวได้ระบุว่า บริษัทเส้าหลินที่จะจุดทะเบียนนั้น เป็นบริษัทท่อเที่ยวเส้าหลินแห่งซงซัน ไม่ใช่วัดเส้าหลินโดยตรง โดยที่การจดทะเบียนในครั้งนี้ ทางวัดเส้าหลินจะไม่เข้าไปถือหุ้น ซึ่งแหล่งข่าวได้เปิดเผยว่า วัดเส้าหลินเองมีโครงการที่จะนำเอาศูนย์การบำเพ็ญฌานนานาชาติเส้าหลินนั้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ข่าวการจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นของเส้าหลินซงซันนั้นมีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยในขณะนั้นเป็นข่าวที่ชี้ว่าจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในปี 2008 ทว่าในขณะนั้นทางวัดเส้าหลินเองก็ออกมาชี้แจงว่ายังไม่มีการสรุปผลที่แน่นอน
ทว่าภายหลังที่ข่าวได้ปรากฏออกมาจะกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์นั้น ก็มีหลายฝ่ายอย่างเช่นคุณเผยซงเสี่ยน เป็นคณะกรรมการประจำเมืองเติงเฟิงที่พยายามจะอธิบายว่า ส่วนที่จะจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นบริษัทท่องเที่ยวภายใต้ชื่อวัดเส้าหลิน แต่ไม่ใช่ตัววัดเส้าหลิน
นอกจากนั้น สิ่งที่ถูกเพ่งเล็งอีกประการก็คือ บริษัทท่องเที่ยวเส้าหลินนั้น มีคุณสมบัติที่จะจดทะเบียนหรือไม่ เนื่องจากอาจจะติดขัดประเด็นต่างๆเช่น การที่เดิมมีรายได้มาจากการเก็บค่าบัตรผ่านประตูในแหล่งท่องเที่ยวบางแห่ง อีกทั้งเป็นบริษัทใหม่ ที่ยังไม่ได้มีผลประกอบการที่ทำกำไรเกิน 3 ปี และมีคุณสมบัติที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่อไป ซึ่งต้องรอดูว่าประเด็นเหล่านี้จะมีผลเช่นไรในเดือนมิ.ย.ที่จะมาถึง
อย่างไรก็ตาม แม้ประเด็นดังกล่าวยังเป็นที่ถกเถียงกันโดยยังไม่มีข้อสรุป แต่ประเด็นหนึ่งที่ผู้คนวงในได้ให้ความเห็นไว้ว่า บริษัทท่องเที่ยวเส้าหลิน กับวัดเส้าหลินนั้น มีต้นตอจากที่เดียวกัน การที่จะแยกแยะเรื่องความเกี่ยวพันทางผลประโยชน์ออกจากกันนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ทั้งนี้ ก่อนหน้าในหนังสือพิมพ์หนันหัวเจ่าเป้า เจ้าอาวาสซื่อหย่งซิ่น จากวัดเส้าหลินได้เคยกล่าวไว้ว่า “ถึงแม้ว่าจะมีการใช้ชื่อวัดเป็นแบรนด์ บุกเบิกธุรกิจภาพยนตร์ อาหาร การรักษาพยาบาล และอื่นๆอีกมากมาย ทว่าเพื่อชื่อเสียงของวัดเส้าหลิน ในระยะสั้นจะยังไม่มีการนำเอา “วัดเส้าหลิน” ไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากขณะนี้ทางวัดยังมีเงินทุนหมุนเวียนที่เพียงพอ และการเข้าตลาดหลักทรัพย์ยังมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง”