เอเจนซี่-คาดตลาดหุ้นจีนปี 2008 กระเพื่อมแรงแต่ยังคงขยับขึ้นแตะระดับสูงสุด 7,000-8,000 จุด เตือนนักลงทุนระหวังความเสี่ยงจากแรงกระเพื่อมดังกล่าว
ศาสตราจารย์ เวินหยวนไข่ นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังของจีนผู้มีอิทธิพลในการปฏิรูปเศรษฐกิจจีน เจ้าของผลงาน”แนวโน้มใหญ่ของเศรษฐกิจจีน”อันเลื่องชื่อในปี 1984 ซึ่งแสดงมุมมองการอนาคตและการพัฒนาของจีนที่ส่งผลกระทบต่อคนชั่วรุ่นหนึ่ง และผลงานล่าสุดคือ”ตลาดกระทิง 10,000 จุด” ที่มีแนวคิดโดดเด่น และได้รับความสนใจและการยกย่องจากนักลงทุนอย่างกว้างขวาง คาดการณ์แนวโน้มและความเสี่ยงตลาดหุ้นจีน 2008 ว่า ดัชนีหุ้นจีนจะขึ้นแบบมีแรงกระเพื่อม และเป็นแรงกระเพื่อมที่รุนแรงเกิน 1,500 จุด ซึ่งแรงกว่าปีที่แล้วมาก
และคาดว่าแรงกระเพื่อมจะค่อนข้างรุนแรงในช่วงก่อนและหลังมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปักกิ่ง 2008 โดยปลายปีจะแตะ 7,000-8,000 และเมื่อวิเคราะห์ที่หุ้นแต่ละตัว การกระเพื่อมรุนแรงทำให้หุ้นมีราคาต่างกัน ก่อให้เกิดความเสี่ยงตามไปด้วย
อย่างไรก็ดี การกระเพื่อมของตลาดหุ้นเป็นหนึ่งในลักษณะเฉพาะของตลาดเกิดใหม่ ในฐานะที่ตลาดจีนเป็นหนึ่งในตัวแทนสำคัญของตลาดเกิดใหม่ แม้มีการขยายตัวถึง 2 เท่าในปี 2006 และ 2007 ส่วนหนึ่งจากการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจจีน แต่ในปี 2008 ไม่น่าเพิ่มขึ้นเท่าตัวอีก
นอกจากนี้ แนวโน้มตลาดกระทิงจีนในปีนี้จะไม่เปลี่ยนแปลง แต่ตลาดหุ้นจะมีความเสี่ยงมากขึ้น และปัจจัยที่กระทบตลาดหุ้นและเศรษฐกิจจีนมากที่สุดคือเงินเฟ้อ
ดังนั้นปีนี้จึงต้องลุ้นกันว่า รัฐบาลจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้หรือไม่ เนื่องจากในปีนี้เงินเฟ้อมีแนวโน้มขยายตัวรุนแรง และราคาน้ำมันระหว่างประเทศอาจพุ่งแตะ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หากราคาน้ำมันขยับขึ้นเร็วมากเกินไป เช่น 130 หรือ 150 เหรียญฯต่อบาร์เรล จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตค่อนข้างมาก และทำให้สถานการณ์เงินเฟ้อเลวร้ายลงไปอีก ดังนั้น ภารกิจสำคัญอันดับแรกของรัฐบาลคือการควบคุมเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ก่อนวันที่ 30 พฤษภาคมปีที่แล้ว ตลาดหุ้นจีนร้อนเดือดเต็มที่จนหวิดพังทลายเหมือนที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไต้หวันในปี 1992 นักลงทุนหลายแสนคนหมดตัว เศรษฐกิจไต้หวันซบเซาอยู่หลายปี
ดังนั้นจีนต้องพยายามเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น โดยศึกษาจากรูปการณ์ก่อนตลาดพังทลายคือ จะเกิดการเก็งกำไรขึ้นในตลาด จากนั้นราคาหุ้นจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นักลงทุนจะบ้าหุ้น เมื่อหุ้นพุ่งถึงจุดหนึ่งก็จะดิ่งตัวอย่างแรงจนตลาดพังทลาย นับว่าการควบคุมตลาดหุ้นด้วยการเข้าแทรกแซงช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลทำได้ค่อนข้างดี อย่างไรก็ดี เวินแนะว่า มาตรการที่ชาญฉลาดและมีหลักประกันดีพอจึงจะสามารถควบคุมการขึ้นลงรุนแรงของตลาดหุ้นได้ และควรค่อยๆปรับใช้
และหากตลาดหุ้นจีนปี 2008 ขยายตัวอย่างรุนแรง เวินเห็นว่า รัฐบาลควรใช้มาตรการภาษีมาควบคุม เช่น การเก็บภาษีจากกำไรจากการขายหลักทรัพย์เพื่อชะลอความร้อนแรงของตลาด และควรเพิ่มการควบคุมอย่างละเอียด เช่น การมุ่งเก็บภาษีจากนักลงทุนรายใหญ่ หรือผู้ที่ได้กำไรจากการขายหุ้นปีละ 2 ล้านหยวนขึ้นไป นอกจากนี้ ประชาชนทั่วไปควรได้รับการลดภาษี เพื่อแบ่งปันความร่ำรวยมาให้คนกลุ่มนี้.
