xs
xsm
sm
md
lg

กว่าจะเป็นอาสาสมัครโอลิมปิกปักกิ่ง 2008

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี-เวลา 6.20 น. ขณะที่พระจันทร์ยังลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า ผู้เข้าร่วมโครงการ”ปั้นอาสาสมัครโอลิมปิกปักกิ่ง” จำนวน 1,040 คน กำลังตั้งแถวในสนามกีฬาของมหาวิทยาลัยจี๋ลี่ ท้าอุณหภูมิ -10 องศาเซลเซียส เพื่อเตรียมวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าเป็นเวลา 20 นาที ก่อนรับประทานอาหารเช้า

อาสาสมัครในค่ายฝึกฝนฤดูหนาวเหล่านี้ ซึ่งมีอายุระหว่าง 17-54 ปี และส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษา นอกจากจะต้องเผชิญกับการฝึกอันเข้มงวดแล้ว พวกเขายังต้องออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างเอง รัฐบาลไม่มีงบอุดหนุนให้ ซึ่งปีนี้ จีนได้เตรียมอาสาสมัครถึง 100,000 คน เพื่อทำหน้าที่ในช่วงมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปักกิ่งและพาราลิมปิกส์เกม

“ฉันคิดว่า การได้เป็นอาสาสมัครโอลิมปิกปักกิ่งเป็นประสบการณ์และความทรงจำที่พิเศษมาก และมันเป็นสิ่งที่ฉันฝันมาตลอด” นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชิงหัวกล่าว

หลังเสร็จสิ้นการวิ่งออกกำลังกายในช่วงเช้า อาสาสมัครต้องเข้ารับการทดสอบ”ก่อนอาหารเช้า” และก่อนอาหารทุกมื้อรวมทั้งก่อนเข้านอน นั่นคือ ท่องประโยคและบทสนทนาภาษาอังกฤษที่ถูกสอนมา เช่น “Hello Mr. Johnson, welcome to Beijing”

หากอาสาสมัครหนึ่งในนั้นไม่ปฏิบัติตาม อาจทำให้สมาชิกทั้งหมดต้องอดอาหารมื้อนั้น หรือแม้แต่ไม่ได้กลับเข้าหอพักในคืนนั้น

“อันที่จริง ทุกคนต่างทุ่มเทกับการฝึกฝนมาก จึงยังไม่มีใครถูกลงโทษ”หลี่จิงหมิง เจ้าหน้าที่ฝึกอบรมของชั้นเรียนปฏิบัติการด้านสื่อห้องที่ 2 กล่าว ซึ่งเขามีหน้าที่สั่งให้อาสาสมัครในชั้นเรียนของเขาจำนวน 30 คน เรียงแถวอยู่หน้าโรงอาหารขนาด 2 ชั้น และสั่งให้อาสาสมัครตะโกนสโลแกนโอลิมปิกปักกิ่ง

นอกจากการฝึกฝนจะเข้มงวดแล้ว อาหารการกินที่นี่ไม่มีอะไรพิเศษ ชุดยูนิฟอร์มของค่ายก็บางมากและสวมใส่ไม่สบาย เครื่องทำความร้อนในหอพักก็ไม่ช่วยให้ความอบอุ่นแก่อาสาสมัครเท่าไหร่นัก แม้จะมีการแจกจ่ายผ้าห่มให้หลังจากที่อาสาสมัครหลายคนเป็นหวัดก็ตาม

ซึ่งหลี่จิงหมิงกล่าวแก้ว่า “แม้การฝึกอบรมจะค่อนข้างโหด แต่เจ้าหน้าที่ก็ใจดีและสุภาพกับอาสาสมัคร จะว่าไปแล้ว การฝึกยังโหดน้อยกว่าการฝึกทหารมาก”

ทั้งนี้ อาสาสมัครใช้เวลาเกือบครึ่งหนึ่งไปกับการเรียนภาษาอังกฤษ โดยมี หลี่หยาง ครูสอนภาอังกฤษชื่อดังในประเทศจีน ซึ่งมีแนวการสอนที่แหวกแนว สไตล์ ”Crazy English” เป็นผู้วางแผนและควบคุมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้แก่อาสาสมัครทั้งหมด นอกจากนี้ทางค่ายยังฝึกอบรมดูแลผู้พิการ และวิธีป้องกันการคุกคามทางเพศด้วย

“How-many-people-does-this-stadium-hold?” หลี่ยืนตะโกนเสียงดังฟังชัดอยู่บนเวที ขณะที่มือก็แตะไปที่หัว,หน้าอก และขา เพื่อระบุ ประธาน,กิริยา และกรรม ในประโยคนั้น และ “I hope you’ll like China and under stand China the way I do” และอาสาสมัคร 500 คนในชั้นเรียนจะพูดประโยคนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ถอนตัว


หลี่เจียหลิน หนึ่งในอาสาสมัครผู้เข้าร่วมค่ายสุดหิน ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 1 สัปดาห์ กล่าวว่า เพื่อนของเขาต่างทยอยถอนตัวออกจากโครงการฯไป ตั้งแต่เขาเข้าร่วมโครงการในปี 2006

“บางคนปฏิบัติตัวไม่ตรงตามที่โครงการต้องการ บางคนก็ติดเรียน ไม่ค่อยมีเวลามาฝึกอบรมก็เลยถอนตัวไป แต่ผมจะเข้าร่วมโครงการต่อไป แม้จะใช้เวลามากก็ตาม และแม้บททดสอบจะทำให้ผมเหนื่อยล้า ค่ายฝึกฝนจะโหดแค่ไหน ผมก็มีความสุขกับมัน และผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่จะได้เข้าร่วมมหกรรมกีฬาระดับโลกนี้”หลี่กล่าว

อย่างไรก็ดี ไม่ใช่อาสาสมัครทุกคนที่จะเผชิญกับบททดสอบสุดหินเหมือนหลี่เจียหลิน ซึ่งเข้าร่วมชั้นเรียนอบรมอาสาสมัครมาหลายร้อยชั่วโมงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา โดยอาสาสมัครทั่วไป ซึ่งราว 20% ยังไม่ได้ถูกคัดเลือก อาจเข้าฟังบรรยายไม่กี่ครั้ง และไม่ต้องเข้ารับการฝึกสุดโหดเหมือนในค่ายฝึกอบรมฤดูหนาว

“ผมประทับใจอาสาสมัครเหล่านี้มาก และเชื่อว่าคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้จะมีบทบาทที่สำคัญในสังคมต่อไปในอนาคตหลังจากที่พวกเขาผ่านเหตุการณ์สำคัญนี้ไป”จางจูหมิน รองผู้อำนวยการหน่วยงานอาสาสมัครของคณะกรรมการโอลิมปิกปักกิ่ง(BOCOG)กล่าวทิ้งท้าย.


กำลังโหลดความคิดเห็น