ยอดขายรถแบรนด์จีนตกฮวบผู้บริโภคชี้ต้องพัฒนาคุณภาพ

ซีน่าเน็ต - ในช่วงที่ผ่านมามีการสำรวจจากบริษัทแมคคินซีย์ที่ระบุว่ามาจากการสอบถามความเห็นของคน 6,000 คน ว่ามีชาวจีน 53% ที่ชมชอบแบรนด์ของจีน โดยเฉพาะรถยนต์จีนที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทว่า จากตัวเลของความเป็นจริงพบว่าในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ยอดขายของรถยนต์เชอรี่ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ 20% รถตัวหลักที่ใช้ตีตลาดขายได้ 10,000 กว่าคันจากที่เคยขายได้ 14,000 คัน รถเอ1 ที่เคยขายได้ 2,434 คันก็ลดลงเหลือเพียง 1,000 คัน หรืออย่าง จี๋ลี่ อีกบริษัทรถแบรนด์จีนชื่อดังในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ก็มียอดขายทั้งสิ้น 95,623 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.7% ในขณะที่รถยนต์จีนแบรนด์อื่นๆก็ตกลงในสัดส่วนที่ต่างกัน

ผลสำรวจแรกกับตัวเลขยอดขายที่ขัดแย้งกันเช่นนี้ ทำให้เกิดการไปทำแบบสำรวจ เพื่อสอบถามจากผู้ที่ใช้รถจริงโดยได้ผลออกมาว่า มี 37% เท่านั้นที่ยินยอมซื้อรถยนต์แบรนด์จีน โดยมีถึง 86% ที่คิดว่ารถจีนยังควรปรับปรุงในด้านของความประณีต คุณภาพและความปลอดภัยให้ดีขึ้น

เห็นได้จากตัวอย่างของสุภาพสตรีท่านหนึ่งที่ให้ความเห็นว่า แต่เดิมก็คิดจะซื้อรถคันเล็กๆของจีนสักคัน ทว่าในภายหลังพบว่าเนื้องานไม่ค่อยประณีต จึงหันไปซื้อรถ Spark คันขนาดพอเหมาะคันหนึ่งแทน

ในขณะคุณหม่าอีกหนึ่งผู้ที่ตอบแบบสอบถาม ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “รถแบรนด์จีนมักจะต้องเอาเข้าอู่ซ่อมรถบ่อยๆ พอนึกถึงปัญหาที่จะเกิดจากกรณีนี้ก็รู้สึกปวดหัว แม้ว่าในด้านความรู้สึกอยากจะสนับสนุนแบรนด์ของประเทศ แต่เวลาซื้อจริงคงจะไปซื้อจากบริษัทร่วมทุนมากกว่า”

อย่างไรก็ตามแม้ว่าคุณภาพและความประณีตในการผลิตของรถจีนยังมีปัญหาอยู่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงที่ผ่านมาคุณภาพ ดีไซน์ และความปลอดภัยของรถจีนได้พัฒนาไปเป็นอย่างมาก จากเดิมที่เคยแต่ผลิตเลียนแบบ มาเป็นวิจัยและผลิตได้เอง นอกจากนั้นธุรกิจรถยนต์ที่ผลิตในจีนก็ยังไปได้อีกไกล จากปัจจัยนโยบายจากทางการต่างๆที่คอยค้ำยันเอาไว้ อาทินโยบายอุตสาหกรรมที่สนับสนุนให้แบรนด์จีนในด้านการสร้างรถอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นคณะรัฐมนตรียังได้เรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐต่างๆเป็นแบบอย่างในการใช้รถอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เป็นแบรนด์จีน