วอลล์สตรีท เจอร์นัล – ดีบีเอส กรุ๊ป ธนาคารรายใหญ่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซื้อกิจการธนาคารไต้หวัน เพื่อเป็นฐานรุกสู่ภาคการเงินจีนแผ่นดินใหญ่
ดีบีเอสจากสิงค์โปร์ ธนาคารใหญ่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อพิจารณาจากมูลค่าของสินทรัพย์ ได้รับเลือกจากรัฐบาลไต้หวันให้เป็นผู้ครอบครองกิจการธนาคารพาณิชย์เป่าหัว (BOWA Bank) หลังจากการประมูลเมื่อวันพฤหัสบดี (31 ม.ค.) ล้มเหลว
ตามข้อตกลง รัฐบาลไต้หวันจะจ่ายค่าชดเชยให้แก่ดีบีเอสเป็นเงินจำนวน 44,500 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (1,390 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อครอบครองกิจการของธนาคารเป่าหัว ซึ่งมีหนี้สินมากกว่าสินทรัพย์เมื่อรัฐบาลเข้ามาควบคุมเมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว
เมื่อดีบีเอสเข้ามาเทคโอเวอร์เป่าหัว แบงก์ยักษ์จากแดนลอดช่องจะครอบครองสินทรัพย์ทั้งหมดของเป่าหัว ได้แก่ หนี้สินที่เป็นสินทรัพย์ดีมูลค่า 66,300 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน เงินฝาก 92,300 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน สาขา 39 แห่งและหน่วยบริการธุรกิจ 3 แห่งในไต้หวัน รวมทั้งลูกค้าเงินฝากมากกว่า 750,000 ราย โดยสาขาทั้งหมดจะกลายเป็นสาขาของดีบีเอสในไต้หวัน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของดีบีเอสเป็นการปูทางสู่ดินแดนที่มีเศรษฐกิจและภาคการธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย นายสี่ว์เหวินฮุย ประธานดีบีเอสกล่าวว่า “ไต้หวันเป็นตลาดที่น่าดึงดูดและเป็นส่วนสำคัญในแผนยุทธศาสตร์รุกตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ของธนาคาร” โดยดีบีเอสตั้งใจที่จะขยายกิจการเข้าไปในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่อย่างสมดุล เพื่อเป็นสื่อกลางให้แก่กระแสการค้าและการลงทุนที่กำลังเติบโตระหว่างฮ่องกง ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่
ธนาคารต่างชาติ เช่น ซิตี้ แบงก์, สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด, เอบีเอ็น แอมโร และเอชเอสบีซี ต่างซื้อกิจการธนาคารในไต้หวัน เพื่อหาช่องทางขยายกิจการของตนโดยจับกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็ก ซึ่งส่วนใหญ่มีธุรกิจอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่
จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่าไต้หวันเป็นแหล่งลงทุนโดยตรงจากต่างชาติใหญ่อันดับ 5 ของประเทศจีนระหว่างมกราคมถึงพฤศจิกายนปี 2007 และในปีเดียวกันไต้หวันได้เปรียบดุลการค้าจีนและฮ่องกงรวมกันมูลค่า 70,600 ล้านเหรียญสหรัฐ