เอเชียน วอลล์สตรีท – เชนฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่สุดในโลกแมคโดนัลด์ (McDonald’s Corparation) วางแผนรุกตลาดแดนมังกร คาดจะสามารถเปิดร้านสาขา 125 แห่งภายในปี 2008 นี้
โดยกลยุทธ์ที่แมคโดนัลด์เตรียมนำมาเจาะตลาดจีนคือการบริการในรูปแบบไดร์ฟ-ทรู(การขับรถเข้าไปซื้อโดยไม่ต้องลงจากรถ) เพื่อเป็นการตอบสนองการใช้ชีวิตของชาวจีน ที่นับวันจะยิ่งเร่งรีบขึ้นทุกขณะ อีกทั้งต้องแข่งขันกับคู่แข่งตลอดกาลอย่าง เคเอฟซีของบริษัทยัม แบรนด์ จำกัด (Yum Brand)ที่ทำยอดขยายสาขาได้มากกว่า ซึ่งทางแมคโดนัลด์เตรียมขยายเพิ่มมากขึ้นเป็น 125 แห่ง โดยได้เซ็นสัญญาร่วมกับ “ซิโนเปก” ปั๊มค้าปลีกน้ำมันรายใหญ่สุดของจีน เพื่อสร้างสาขาแบบไดรฟ์-ทรูในปั๊มซิโนเปกที่ตั้งอยู่ทั่วประเทศจีน
“ ไดร์ฟ-ทรูเป็นการบริการที่นับว่ามีศักยภาพมาก เพราะรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายกว่า 28 %มาจากการจำหน่ายแบบไดร์ฟทรู” เจฟฟรี่ สจวร์ต ซีอีโอของแมคโดนัลด์สาขาจีนกล่าว
การให้บริการแบบไดร์ฟ-ทรูหรือในภาษาจีนเรียกว่า “เต๋อ ไหล ซู่” หมายถึง การซื้อที่ได้รับสินค้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งในเวลา 2 ปีที่ผ่านมาบริการรูปแบบดังกล่าวชาวจีนให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยม อย่างไรก็ตามคู่แข่งสำคัญของแมคโดนัลด์อย่างเคเอฟซีได้เน้นการขยายสาขาแบบนั่งในร้านมากกว่า
ล่าสุดจากการสำรวจตลาดของสถาบันยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชันแนลรายงานว่า ในปี 2006 แมคโดนัลด์มีส่วนแบ่งตลาดเชนฟาร์สฟู้ดในจีนถึง 17.9 % เรียกว่าเป็นสถิติสูงสุดที่แมคฯเคยทำไว้ 8.7 % เมื่อปี 2004 ขณะเดียวกันยัม แบรนด์โตแบบก้าวกระโดดถึง 34.6 % จากเดิม 15.8 %
แม้ว่าตัวเลขจากการสำรวจจะต่างกันมาก แต่สำหรับแมคโดนัลด์ก็ไม่หวั่น เพราะการเปิดสาขาในจีนครั้งนี้ ได้งัดเอาบริการแบบเดลีฟเวอรี่มาเสนอให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อได้โดยผ่านช่องทางโทรศัพท์ ซึ่งได้เปิดตัวนำร่องใช้แล้วในเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้แผนการรุกตลาดจีนของแมคโดนัลด์ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะปัจจุบันเล็งที่จะแตกไลน์ธุรกิจแมค คาเฟ่(McCafe’)นำเสนอผลิตภัณฑ์ประเภทกาแฟพร้อมเบเกอรี่ ภายในฤดูใบไม้ผลินี้ ที่สนามบินนานาชาติปักกิ่ง ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับแมคโดนัลด์