จากการประท้วงใหญ่ของเนปาลที่ซึ่งทำให้นายกรัฐมนตรี “เค.พี. ชาร์มา โอลี” ต้องพ้นจากเก้าอี้ ด้วยการจุดประเด็นกระแสเด็กเนโป (Nepo Kids) ซึ่งเป็นกระแสบนโซเชียลมีเดียที่เปิดเผยวิถีชีวิตอันหรูหราของลูกหลานนักการเมือง อวดความรวย โชว์ไลฟสไตล์ จากเงินที่นักการเมืองหลายคนกำลังปล้นสะดมประเทศ
หนึ่งในวิดีโอที่กลายเป็นไวรัลคือ “โซกัต ทาปา” ลูกชายของ “บินตู กุมาร์ ทาปา” ที่ประดับต้นคริสต์มาสด้วยสินค้าหรูเมื่อปีที่แล้ว อีกวิดีโอหนึ่งแสดงให้เห็นลูกชายของนักการเมืองอีกคนกำลังเพลิดเพลินกับการเดินทางท่องเที่ยวราคาแพงและอวดรถหรู ทั้งที่ข้อมูลอย่างเป็นทางการ นักการเมืองมีรายได้ประมาณ 9,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น แต่พวกเขาสามารถใช้ชีวิตหรูหราแบบนี้ได้อย่างไร
ล่าสุดกระแสความไม่พอใจที่คล้ายกันก็เกิดขึ้นที่ฟิลิปปินส์ ที่ประชาชนต้องเผชิญกับน้ำท่วมถนนนานหลายสัปดาห์ จนต้องใช้เรือเพื่อเดินทางไปโรงเรียน สำนักงาน และโรงพยาบาล เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซากแม้ว่าจะมีการจัดสรรเงินหลายพันล้านเปโซให้กับโครงการควบคุมน้ำท่วมก็ตาม
โซเชียลมีเดียกลายเป็นช่องทางระบายความโกรธแค้นของผู้คน ไม่ว่า TikTok, Facebook Reddit หรือ X ล้วนถูกใช้เป็นพื้นที่วิจารณ์ก่นด่า เมื่อประธานาธิบดี “เฟอร์ดินันด์ ‘บองบอง’ มาร์กอส จูเนียร์” ยอมรับว่าโครงการควบคุมน้ำท่วมหลายโครงการมีอยู่จริงแค่บนกระดาษ โดยกว่า 70 เปอร์เซ็นต์สูญหายไปกับการทุจริตคอร์รัปชัน ผู้มีอำนาจถูกปลดออก ผู้รับเหมาที่ถูกกล่าวหาว่าจ่ายสินบนก็กำลังถูกดำเนินคดี หนึ่งในนั้นคือคู่รักที่มีชื่อเสียงคู่หนึ่งที่มักนำรถยนต์หรูและทรัพย์สินมาโอ้อวดบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งภาพเหล่านั้นกลับกลายเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการประท้วง บริษัทของพวกเขาถูกขึ้นบัญชีดำ และกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของวุฒิสภา
เป้าหมายใหม่ที่สาธารณชนโกรธแค้นคือ ลูกหลานของนักการเมืองและผู้รับเหมา ซึ่งถูกเรียกว่า “เด็กเนโป” วิถีชีวิตฟุ่มเฟือยของพวกเขาที่บันทึกผ่านเสื้อผ้าดีไซเนอร์ เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และวันหยุดพักผ่อนสุดหรู ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยแฮชแท็กเยาะเย้ย ประชดประชันว่าต้องขอบคุณผู้เสียภาษีที่สนับสนุนเครื่องแต่งกายและการท่องเที่ยวสุดหรูของพวกเขา
กระแสต่อต้านไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น เจ้าหน้าที่ของกระทรวงโยธาธิการ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดในโครงการลับ รายงานว่าถูกก่อกวนบนท้องถนน การประท้วงมีกำหนดจัดขึ้นตรงกับวันครบรอบกฎอัยการศึก ซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจว่าเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตเคยโค่นล้มผู้นำประเทศมาแล้ว
ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ มีคำสั่งให้มีการซ้อมใหญ่อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะ “เปิดโปงเหล่านักฉ้อฉล” เขายังบอกให้ประชาชนประท้วงต่อไป แต่ขอให้อยู่ในความสงบ การสอบสวนจะทบทวนสัญญามูลค่าหลายแสนล้านเปโซ โดยบริษัทต่างๆ และสมาชิกรัฐสภาต่างต้องเผชิญกับการอายัดทรัพย์สินและการถูกสอบสวน