ดิ อัลเลียม แบงค็อก (The Allium Bangkok) ห้องอาหารที่นำเสนอเมนูชั้นสูงจากฝั่งตะวันตก ซึ่งมีกลิ่นอายของความร่วมสมัย ภูมิใจนำเสนอเมนูใหม่ โดย “เรมี เวอริเย่” (Remi Verrier) เชฟชาวฝรั่งเศสประจำห้องอาหาร ผู้ใช้เวลาร่วม 6 เดือน เพื่อสร้างสรรค์สูตรอาหารซึ่งสะท้อนตัวตนของเขาต่อความหลงใหลในอาหารฝรั่งเศส และอยากสร้างช่วงเวลาที่ดีที่สุดให้กับผู้รับประทานทุกท่าน ด้วยประสบการณ์จากการทำงานในวงการอาหารฝรั่งเศสมาอย่างยาวนาน
เชฟเรมียังคงเน้นไปที่การชูวัตถุดิบหลักในจานซึ่งคัดสรรมาจากอย่างพิถีพิถันทั้งจากต่างประเทศ และในประเทศไทย ทั้งยังเพิ่มความสนุกลงไปด้วยแนวคิดแบบ แชริ่ง (Sharing) หรือการแบ่งปันอาหารระหว่างเพื่อน คนรัก และครอบครัว ซึ่งสามารถสร้างความทรงจำที่ดีได้ตลอดมื้อ
สำหรับไฮไลท์จากเมนูใหม่ของเชฟเรมี เริ่มด้วย บีฟ ทาร์ทาร์ (Beef Tartare) ซึ่งเป็นเมนูคุ้นเคยสำหรับคนรักอาหารฝรั่งเศส แต่ ดิ อัลเลียม แบงค็อก ได้ยกระดับจานนี้ให้พิเศษกว่าเดิม โดยเชฟจะใช้เนื้อวัววากิวที่เลี้ยงในโคราชมาเป็นส่วนผสมหลัก เคล็ดลับความอร่อยของจานนี้อยู่ที่ไข่แดงจากไข่เป็ดฟาร์มคลองไผ่ ซึ่งเลี้ยงแบบปล่อยอิสระ (Free-Range) โดยต้องหมักไข่แดงไว้ข้ามคืนเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่เข้มข้น ทำหน้าที่ผสานทุกรสชาติในจานนี้ได้อย่างลงตัว
อีกจานที่ทำหน้าที่เรียกน้ำย่อยได้ดีก็คือ บาร์บีคิวปลาหมึก (Squid BBQ) ช่วยสร้างความสดชื่นก่อนเข้าจานหลัก เชฟเรมีใช้เวลาที่เดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศคิดค้นเมนูนี้ขึ้นมา โดยจับคู่ปลาหมึกของไทย กับสัมผัสอันนุ่มละมุนของอโวคาโด เสริมด้วยโหระพากลิ่นหอม และน้ำสลัดหมึกดำที่ให้รสเปรี้ยวแบบสดชื่น ความเด้งกรอบของเนื้อปลาหมึก และความเข้ากันกับวัตถุดิบอื่นๆ จะทำให้คนรักอาหารทะเลต้องติดใจจานนี้
ส่วนจานหลักสุดสร้างสรรค์ในเมนูใหม่ ได้แก่ ดั๊ก ทูร์เนอโดร์ (Duck Tournedos) ซึ่งนำเสนอศิลปะการทำอาหารฝรั่งเศสได้อย่างยอดเยี่ยม เชฟเลือกใช้เนื้อส่วนอกของเป็ดพันธุ์บาร์บารี่ (Barbary Duck) ที่เลี้ยงในประเทศไทย ปรุงด้วยเทคนิกอันหลากหลาย ให้สัมผัสที่แตกต่างกันในจานเดียว ส่วนแรกจะนำไปจี่ในกระทะจนได้ความสุกกำลังดี อีกส่วนจะทำไปยัดไส้ด้วยฟัวกราส์เป็ดในสไตล์รอสซินี (Rossini Style) รับประทานคู่กับพูเรแครอท เสิร์ฟมาพร้อมกับเห็ดดุกเซลล์ และขนมปังบรียอชกรอบ ทอปด้วยเอสพูม่ามันหวาน
อีกจานที่เป็นดาวเด่นของ ดิ อัลเลียม แบงค็อก คือ สเต็กสันในเนื้อวากิว (Wagyu Beef Tenderloin) โดยเชฟเลือกใช้เนื้อวัวท้องถิ่นจากโคราช เสิร์ฟมาพร้อมกราแตงมันฝรั่งสูตรคุณยาย และซอสบอร์โดเลซสูตรดั้งเดิม สะท้อนปรัชญาในการทำอาหารของเชฟเรมีได้อย่างลึกซึ้งว่า เขาเคารพทั้งขนบในการทำอาหารฝรั่งเศส และสูตรอาหารของครอบครัวในเวลาเดียวกัน ส่งผลให้เกิดเมนูอันเป็นเอกลักษณ์ สร้างบรรยากาศให้เหมือนนั่งรับประทานอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสได้อย่างแท้จริง
สำหรับห้องอาหาร ดิ อัลเลียม แบงค็อก เป็นส่วนหนึ่งของ Epicurean Hub ศูนย์รวมห้องอาหาร 4 สัญชาติ บนชั้น 3 โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.30-14.30 น. สำหรับมื้อกลางวัน และตั้งแต่เวลา 18.00–22.00 น. สำหรับมื้อค่ำ สามารถแสดงสมาชิกคลับ แมริออท และสมาชิกแมริออท บอนวอย เพื่อรับส่วนลด และสิทธิประโยชน์อื่นๆ หรือคลิก www.thealliumbangkok.com และโทรศัพท์ 0-2650-8800