ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ระลอกใหม่ในยุโรปต่างพุ่งสูงขึ้นในแทบทุกประเทศ จึงไม่น่าแปลกใจที่ตอนนี้จะมีข่าวเหล่าเชื้อพระวงศ์ในราชวงศ์ต่างๆ ของยุโรปกลายเป็นผู้ป่วยโควิดไม่เว้นแต่ละวัน โดยล่าสุดนั่นมี 3 พระองค์สำคัญของ 3 ประเทศที่เพิ่งกลับออกมาดำเนินพระราชกรณียกิจได้ไม่นาน พบปะผู้คนมากมาย เลยติดเชื้อโควิด ต้องพักรักษาตัว และเก็บพระองค์อยู่แต่ในที่ประทับ และต้องเลื่อนหมายงานต่างๆ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด
โดยเมื่อวานนี้ทางสำนักพระราชวังของเดนมาร์ก ได้ออกมาแจ้งข่าวว่า หลังจากสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ประมุขของประเทศวัย 81พรรษา ที่เพิ่งฉลองการครองราชย์ครบ 50 ปี ไปเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทรงมีอาการประชวรเล็กน้อย เลยเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 และผลออกมาเป็นบวก จึงได้เข้าประทับกักพระองค์อยู่ที่พระราชวังคริสเตียนที่ 9 ในกรุงโคเปนเฮเกน และงดพระราชกรณียกิจอย่างไม่มีกำหนด
ส่วนทางด้านสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 ของประเทศสเปน ก็ทรงมีผลการตรวจโควิด-19 เป็นบวกเช่นเดียวกัน โดยมีพระอาการประชวรเพียงเล็กน้อย และทรงงดพระราชกรณียกิจทั้งหมดและกักพระองค์อย่างน้อย 7 วัน และตอนนี้พระราชินีกับพระธิดาแม้จะมีผลการตรวจเป็นลบ แต่ก็อยู่ในระหว่างการเฝ้าสังเกต
และล่าสุดที่เพิ่งแถลงผลการตรวจให้ทราบช่วงกลางวันที่ผ่านมาคือ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์อังกฤษ ว่าทรงมีผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก ซึ่งพระองค์เคยได้รับเชื้อโควิดมาแล้วในช่วงการระบาดช่วงแรกๆ เมื่อประมาณเดือนมีนาคม ปี 2563 สำหรับครั้งนี้ทรงมีอาการประชวรเล็กน้อย และจะกักพระองค์อยู่ที่แคลแรนซ์เฮ้าส์ ที่ประทับ แต่ที่น่ากังวลคือเมื่อวันพุธที่ผ่านมาพระองค์เพิ่งจะเสด็จพระราชดำเนินไปปฏิบัติภารกิจที่บริติช มิวเซียม และได้พบปะกับพสกนิกรที่มารอรับเสด็จเป็นจำนวนมาก และอาจจะเกิดการแพร่ระบาดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ในกรุงลอนดอนได้