xs
xsm
sm
md
lg

“นภัสรา วัชโรทัย” สาวแอกทีฟ เต็มที่ในเส้นทางที่เลือก!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ใช้ชีวิตในแบบที่ชอบ” คือ Motto การใช้ชีวิตในแบบของ “จั้ก-นภัสรา วัชโรทัย” ลูกสาวคนสวยของ รัตนาวุธ-พิชญา วัชโรทัย ที่บางคนเห็นแล้วอาจตาร้อนผ่าว เพราะงานของเธอไม่เพียงนั่งทำงานจากที่ไหนก็ได้ แถมยังเป็นงานที่ได้สร้างอิมแพคให้สังคม แถมยังมีเวลาเหลือให้เลือกออกแบบไลฟ์สไตล์ในแบบที่ชอบ ชีวิตที่แฮปปี้สุดๆ แบบนี้ อาจไม่ง่ายที่จะเป็นเจ้าของ แต่วันนี้จั้กก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “ไม่มีใครหยุดเราได้ นอกจากตัวเราเอง”


อาจเพราะเธอมีความเชื่อที่แน่วแน่แบบนี้ จึงทำให้เมื่อจั้กค้นพบว่า เส้นทางในสายนักเคมีที่เคยใฝ่ฝัน ไม่ใช่สิ่งที่ตอบโจทย์อีกต่อไป จั้กเลยไม่ลังเลที่จะเบนเข็มของชีวิตมาสู่เส้นทางที่ใช่ ด้วยการพาตัวเองเข้ามาโลดแล่นในสายธุรกิจที่เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี กับบทบาทผู้จัดการประจำประเทศไทย (Country Manager) ดูแลแอปพลิเคชั่นเพื่อการเดินทางสาธารณะ อย่าง “รุมโบ้” (RUMBO) ที่เพิ่งเปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นแห่งที่ 3 ของโลก ต่อจากเม็กซิโกและเปรู

“สมัยเด็กจั้กชอบทำขนม ชอบน้ำหอม สนใจด้านเคมี เลือกเรียนสอบเข้า สาขาวิชาเคมีประยุกต์ (หลักสูตรนานาชาติ) คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พอเรียนจบก็ไปทำงานที่ PTTGC อยู่ปีครึ่ง ช่วง 6 เดือนก็สนุก แต่พอทำไปเรื่อยๆ เริ่มรู้สึกว่าสายงานนี้ไม่ตอบโจทย์ เพราะคิดว่าจุดแข็งของตัวเอง คือ การได้สื่อสารพบปะกับผู้คน แต่ด้วยเนื้องานที่ทำอยู่อาจจะไม่ได้มีโอกาสมากนัก ตอนนั้นมีความคิดอยู่แล้วว่าไปเรียนต่อปริญญาโท เลยเบนเข็มไปเรียนต่อด้าน Innovation Management and Entrepreneurship ที่มหาวิทยาลัย Brown ซึ่งถ้าย้อนไป 10 ปีที่แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องใหม่มาก คำว่า สตาร์ทอัป ยังไม่บูม บริษัทอย่าง Apple, Facebook ก็เพิ่งเริ่มมา จั้กเองตอนจะจบได้ทำโปรเจกต์เกี่ยวกับเทคโนโลยีสำหรับที่จอดรถ พอเรียนจบเลยมาทำธุรกิจแบบสตาร์ทอัปที่มี Venture Capital ของสหรัฐอเมริกามาลงทุน ทำอยู่ 3-4 ปีก่อนจะมีบริษัทที่จัดทำโครงสร้างที่จอดรถ มาซื้อไปตอนปี 2019​ ซึ่งเป็นจังหวะที่น้องชายจะไปเรียนต่อพอดี จั้กเลยถือโอกาสกลับมาเมืองไทย​”


ช่วงแรกที่กลับมาเมืองไทย จั้กยอมรับว่ายังจับทิศทางไม่ถูก ไปลองหาประสบการณ์หลายอย่าง จนเมื่อ 6 เดือนก่อน ได้มาร่วมงานกับ RUMBO ซึ่งเป็น Data Company ของแอฟริกาใต้ แต่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อังกฤษ โดย RUMBO ตั้งใจพัฒนาแอปพลิเคชั่นขนส่งสาธารณะ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) เพื่อให้คนเดินทางที่ใช้ระบบขนส่งมวลชน สะดวกขึ้นจากฟีเจอร์ต่างๆ ที่รวบรวมไว้ โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 ต่อจากเม็กซิโก เปรู ที่มีการเปิดตัวแอปฯ

“RUMBO แตกต่างจากแอปฯ ขนส่งอื่นๆ รวมทั้ง กูเกิล แมพ ตรงที่ RUMBO เป็นแอปฯ แรกของเมืองไทย ที่ครอบคลุมทั้งทางบกและทางน้ำ ตั้งแต่รถไฟฟ้า รถใต้ดิน รถเมล์ ไปจนถึงรถกระป๊อ รถสองแถว รถตู้ เรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา เรือโดยสารข้ามฟาก ฯลฯ ​มีฟีเจอร์แจ้งเตือนเวลามีเหตุไม่ปกติที่กระทบกับการเดินทาง ทำให้ติดขัด อย่าง เรียลไทม์ รวมไปถึงมีฟีเจอร์แนะนำเส้นทางเลี่ยงให้แก่ผู้เดินทาง และยังสามารถคำนวณระยะเวลาและค่าโดยสารในการเดินทางได้แบบครบจบในแอปฯ เดียว” จั้กเล่าอย่างออกรสก่อนเสริมว่านอกจากวิสัยทัศน์ของบริษัทที่มุ่งมั่นจะสร้างอิมแพคให้สังคม จะตอบโจทย์จั้กแล้ว RUMBO ยังเป็นบริษัท Remote First Company หรือเป็นบริษัทที่ไม่มีออฟฟิศ ทำให้ต้องทำงานแบบ Work Remote 100% อีกด้วย

“ถึงจะทำงานจันทร์ถึงศุกร์เหมือนพนักงานประจำทั่วไป แต่ด้วยนโยบายของบริษัทกลายเป็นว่า จั้กสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ เวลาทำงานก็ยืดหยุ่น เพราะต้องทำงานกับทีมที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก บางครั้งเริ่มงานบ่ายเลิกงานเที่ยงคืน เพราะต้องทำงานข้ามไทม์โซน แต่ก็แฮปปี้ บางวันถ้ามาอยู่เกาะ สามารถไปดำน้ำตอนเช้าแล้วค่อยมาประชุมตอนบ่ายก็ยังได้”


อย่างไรก็ตาม แม้วิธีการทำงานจะยืดหยุ่น ทุกอย่างแทบจะอยู่บนโลกออนไลน์ แต่สำหรับจั้กไม่มีคำว่า เหงา เพราะเธอมีกิจกรรมมากมายให้ทำในแต่ละวัน ถ้าอยู่กรุงเทพฯ จั้กบอกว่าชอบเข้ายิมไปเวทเทรนนิ่ง เพื่อฟิตร่างกายให้พร้อม สำหรับกิจกรรมยามว่างที่เธอชอบทำเวลาออกต่างจังหวัด โดยเฉพาะ กีฬาผาดโผน อย่าง ปีนผา เซิร์ฟบอร์ด ดำน้ำ ซึ่งตอนนี้เรียนไปจนถึงขั้นไดร์ฟ มาสเตอร์แล้ว แต่ถ้าพูดถึงกีฬาที่คิดถึงสุดๆ ต้องยกให้ สโนว์บอร์ด เพราะด้วยสถานการณ์ที่ไม่อำนวยเลยต้องหากิจกรรมอื่นแทน อย่าง ไคท์เซิร์ฟ แก้ขัดไปก่อน

“จั้กชอบกิจกรรมแนวนี้ นอกจากความสนุก ทุกครั้งที่ได้เล่นยังรู้สึกสดชื่น มีพลัง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ด้วยไลฟ์สไตล์การทำงานและการใช้ชีวิตของเราเป็นแบบนี้ บางครั้งคนรอบตัวอาจจะไม่เข้าใจ คิดว่าเราไม่ทำงาน (หัวเราะ) แต่จริงๆ แล้วเราทำงานในแบบนี้ ซึ่งต่อให้ไปเข้าออฟฟิศ แต่งานในความรับผิดชอบเราต้องเสร็จ เทคนิคของจั้กคือ แต่ละวันจั้กจะมี To-do List ไว้เลยว่า ต้องอะไรบ้าง งานไหนต้องทำก่อนหลัง และจะต้องทำเสร็จเมื่อไหร่”


นอกจากกิจกรรมยามว่างที่ดูเหมือนจะเข้ามาเติมเต็มชีวิตให้มีรสชาติ อีกหนึ่งสีสันในชีวิตที่ขาดไม่ได้ของจั้กคือ น้องหมาดัชชุนที่มีชื่อเท่ๆ ว่า ทาร์ซาน

“จั้กตั้งชื่อตามหนังทาร์ซานค่ะ จริงๆ เป็นหมาของคุณแม่ ตั้งใจซื้อมาเป็นเพื่อนกับบีเกิลที่บ้าน แต่ดันไม่ถูกกัน จั้กเลยเอามาเลี้ยงเอง เพราะชอบหมาอยู่แล้ว ตอนนี้กลายเป็นคู่ซี้ไปไหนไปกัน พาไปดูทุกที่ เพราะเวลามาต่างจังหวัด จั้กก็ขับรถมาเองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ในแง่การเดินทางไม่มีปัญหา จะยากหน่อยก็เวลาหาโรงแรม เพราะไม่ใช่ทุกที่ที่จะให้น้องหมาเข้าได้ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะถ้าไม่มีทาร์ซานมาด้วย จั้กคงเหงามากแน่ๆ” จั้กทิ้งท้าย








กำลังโหลดความคิดเห็น