xs
xsm
sm
md
lg

เช็กลิสต์ "เจ้าหญิงผู้แสนเศร้า" ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ซีรีส์แฉราชวงศ์อังกฤษดูเหมือนจะไม่จบง่ายๆ หลังจากเจ้าชายแฮร์รี ทรงกลับจากพระราชพิธีฝังพระศพสมเด็จพระอัยกา ดยุคแห่งเอดินบะระ ยังทรงกลับไป ‘ขาย’ เรื่องสัมภาษณ์ได้อีก


จะว่าไปแล้ว ไม่ใช่เพียง เมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์เท่านั้น ที่อยู่ในตำแหน่ง ‘เจ้าหญิงผู้แสนเศร้า’ ในโลกนี้มีเจ้าหญิงที่ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอีกมากมายหลายพระองค์


เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา เมแกน มาร์เคิล อาจจะอาศัยเดือนแห่งสิทธิสตรี ออกมาเปิดหน้าต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมเรื่องสีผิว ด้วยการให้สัมภาษณ์โอปราห์ วินฟรีย์ ถึงเหตุผลเบื้องหลังเบื้องลึกของ ‘เม็กซิต’ ซึ่งเรื่องที่เธอและเจ้าชายแฮร์รีออกมาแฉ มีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อ แต่ที่แน่ๆ มันสร้างแรงกระเพื่อมและรอยร้าวที่ไม่อาจประสานต่อราชวงศ์อังกฤษ


แน่นอนว่า สถาบันใหญ่อย่างราชวงศ์วินด์เซอร์ คงจะไม่สั่นคลอนง่ายๆ ระบบระเบียบตามโบราณราชประเพณี ย่อมจะคงดำเนินต่อไป แต่ความกระอักกระอ่วนใจ เรื่องราวที่ยากจะอธิบายก็คงปล่อยให้กาลเวลาเยียวยาต่อไป เหมือนเช่นกรณีการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา เคยเป็นปมแห่งวิกฤตศรัทธาของราชวงศ์อังกฤษมาแล้ว


ที่อีกฝั่งหนึ่งของโลก จักรพรรดินีมาซาโกะแห่งราชวงศ์เบญจมาศ และเจ้าหญิงลาติฟาแห่งดูไบ ก็ทรงอยู่ในตำแหน่ง ‘เจ้าหญิงเศร้า’

ย้อนไปในขณะยังเป็นสามัญชน จักรพรรดินีมาซาโกะ ทรงเป็นสตรีญี่ปุ่นการศึกษาสูง ทรงเรียนจบจากฮาร์วาร์ด และทรงมีงานการที่สดใสในกระทรวงต่างประเทศ ทว่า พระองค์ต้องทรงทิ้งทุกอย่างเพื่อที่จะอภิเษกสมรสกับเจ้าชายนารุฮิโตะ รวมทั้งอิสรภาพส่วนพระองค์


ตามโบราณราชประเพณี พระบิดาและพระมารดาสามัญชนของพระองค์ไม่อาจจะมาร่วมในพระราชพิธีอภิเษกสมรสได้ เจ้าหญิงมาซาโกะต้องทรงเก็บเนื้อเก็บตัวตั้งแต่ทศวรรษที่ 2000s ทำให้ทรงป่วยเป็นโรคภาวะการปรับตัวผิดปกติ (adjustment disorder) จากภาวะความกดดัน ทำให้เกิดความเครียด จนไม่สามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม ส่งผลต่อบุคลิกและสุขภาพของพระองค์มาจนถึงปัจจุบันนี้


ขณะที่ เจ้าหญิงลาติฟาแห่งดูไบ ก็ทรงถูกพระราชบิดา ชีคโมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล-มัคตูม จับตัวกลับประเทศไปอย่างไม่เต็มพระทัย หลังจากที่ทรงติดตามเจ้าหญิงฮายาแห่งจอร์แดน พระชายาองค์สุดท้าย ซึ่งเป็นพระมารดา หนีมาประทับในเซฟเฮาส์ที่อังกฤษ หลังจากที่เจ้าหญิงฮายาทรงระแคะระคายว่า เจ้าครองนครดูไบทรงทรมานพระธิดาของพระองค์อย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นคดีฟ้องร้องที่ใหญ่โตมากในประวัติวัติศาสตร์ ที่ศาลประเทศอังกฤษ ในปี 2018


เจ้าหญิงลาติฟา ที่ทรงถูกจับตัวกลับไป ก็หายเข้ากลีบเมฆ ไร้ข่าวคราว จนกระทั่งนักเรียกร้องสิทธิมนุษยชน ต่างก็ออกมาเรียกร้องให้ปล่อยตัวเจ้าหญิงให้เป็นอิสระ ในแคมเปญ #ฟรีลาติฟา

สำหรับเมแกน ที่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ถูกเหยียดผิวจากสมาชิกราชวงศ์ ทำให้เกิดความกดดันจนรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย เธอจึงต้องก้าวออกมามีชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ ด้วยการขอ ลงจากฐานันดรศักดิ์

เมแกน มาร์เคิล และจักรพรรดินีมาซาโกะ ทรงอยู่ในฐานะที่ ‘เลือกได้’ ทั้งคู่อาจจะตัดสินใจไม่อภิเษกกับเจ้าชายก็ได้ เช่นที่ เชลซี ดาวี อดีตคนรักของเจ้าชายแฮร์รีตัดสินใจไม่แต่งเข้าราชวงศ์

รายงานข่าวว่า จักรพรรดินีมาซาโกะ ทรงเคยทูลปฏิเสธจักรพรรดินารุฮิโตะหลายต่อหลายครั้ง ด้วยพระองค์ตระหนักว่า จะทรงต้องแลกกับอิสรภาพตลอดทั้งพระชนม์ชีพของพระองค์ และในตอนนี้ เจ้าหญิงไอโกะ พระธิดา ที่ทรงพบรักกับสามัญชน ก็ทรงมีปัญหาในการที่จะต้องออกไปใช้ชีวิตแบบสามัญชน


กำลังโหลดความคิดเห็น