หลายๆ อย่างที่พิสูจน์ให้เห็นว่า มาเลีย โอบามา เป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เธอมีความเฉลียวฉลาดไม่แพ้กับพ่อและแม่เลย
มาเลียดำเนินรอยตามพ่อและแม่ โดยทั้งบารัค และมิเชล โอบามา ต่างก็จบการศึกษาจากสถาบันไอวีลีค อดีตคุณหนูหมายเลขหนึ่งสามารถสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่สอบเข้าได้ยากที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ โดยอัตราการรับเข้าเรียนเทียบกับผู้สอบได้เพียง 5% ต่อปีเท่านั้น
รายงานข่าวว่า อดีตประธานาธิบดีและอดีตสตรีหมายเลขหนึ่งบอกกับลูกว่า ไม่ต้องกดดันตัวเองให้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยดัง แต่เธอก็สอบเข้าเรียนกฎหมายที่ฮาร์วาร์ดได้ดังใจ
คุณหนูหมายเลขหนึ่งคนโตพูดภาษาสเปนได้ดีกว่าพ่อ ครั้งหนึ่งที่อดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ต้องเดินทางไปเยือนคิวบา ตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอมพอดี มาเลียก็เลยติดตามพ่อไปด้วย ทำให้เธอได้อาศัยความสามารถด้านภาษาสเปนช่วยเหลือบิดาประธานาธิบดีในโอกาสเยือนคิวบาครั้งแรกในรอบ 90 ปี
บารัค โอบามา เคยให้สัมภาษณ์ช่องเอบีซีว่า “ภาษาสเปนของเธอดีกว่าผมมาก คิดว่าความรู้ภาษาสเปนของผมอยู่ระดับ ป.2 เท่านั้นเอง”
มาเลียใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการไปฝึกงานในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงมาดริด ประเทศสเปน หรือฝึกกับบริษัทหนังและรายการทีวีในอเมริกา ล่าสุดสาวน้อยวัย 22 มีชื่อขึ้นเครดิตในฐานะคนร่วมเขียนบทซีรีส์แนวตลก/มิวสิคัลของแอมะซอน ไพรม์ ร่วมกับ โดนัลด์ โกลเวอร์ ซึ่งแสดงให้เห็นความสามารถด้านครีเอทีฟของเธออีกอย่าง
นอกจากฉลาดแล้ว มาเลียยังมีจิตวิทยาในการจัดการกับปัญหาต่างๆ ให้คนรอบข้างสบายใจด้วย อย่างตอนที่เธอย้ายเข้าไปอยู่ในหอพักของฮาร์วาร์ด พ่อของเธอไม่สามารถติดตั้งโคมไฟง่ายๆ ได้ ขณะที่แม่และน้องสาวต้องเข้ามาช่วยจัดการทุกอย่าง มาเลียไม่ว่าอะไร จนกระทั่งพ่อกลับถึงบ้าน เธอส่งข้อความเป็นรูปหัวใจให้อดีตประธานาธิบดี
ทุกวันนี้เธอมีคนรู้ใจเป็นทายาทมหาเศรษฐีชาวอังกฤษ รอรี ฟาร์กูฮาร์สัน ซึ่งก่อนหน้านั้นมาเลียคอยเป็นกำลังใจให้น้องสาวเสมอ อย่างตอนที่ ซาชา โอบามา เกิดปิ๊งนักแสดง ไรอัน เรย์โนลด์ส เธอก็พยายามช่วยน้องสาวด้วยการโพสต์รูปตอนที่น้องพูดคุยกับนักแสดงในงานดินเนอร์ที่ทำเนียบขาวลงโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ เธอยังคอยสอนน้องเรื่องการเข้าสังคมกับหนุ่มๆ แบบที่พ่อแม่สอนไม่เป็นอีกด้วย