บรรดาคนดังๆ หันมาเล่นสเกตบอร์ดกันมากมาย ในทางกลับกัน นักสเกตบอร์ดหลายคนกระโจนลงจากแผ่นไม้สี่ล้อ หันมาเอาดีทางอื่นก็มีนะ
ไมค์ วัลลีย์
นักสเกตบอร์ดทุกคนต้องรู้จัก ไมค์ วี. นักเซิร์ฟสเกตที่โด่งดังมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 80s, 90s, ถึง 00s โดยได้ชื่อว่าเป็นนักสเกตบอร์ดที่มีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์
ไมค์ แขวนบอร์ด และเปลี่ยนทรงผมจากสกินเฮดมาไว้ผมยาว แต่ยังใช้ชื่อ ไมค์ วี. ในวงการดนตรีพังก์ร็อก กับวง ไมค์ วี แอนด์ เดอะ แรตส์ ก่อนที่จะไปเป็นนักร้องนำให้วงแบล็กแฟล็ก หลังจากที่เข้าไปเป็นผู้จัดการวงมาสักพักใหญ่ แล้วไปกดดันให้อดีตนักร้องนำ อย่าง รอน เรเยส ออกจากวงไปแล้วเข้ามาทำหน้าที่แทน
เจสัน ลี
เมื่อออกจากโลกของการสเกตบอร์ด ใครจะไปรู้ว่า เจสัน ลี มาไกลถึงฮอลลีวูด
หลังจากวิดีโอโฆษณาบอร์ด ที่บรรจุลีลาการเซิร์ฟสเกตของหนุ่มน้อยวัย 20 ออกมาในปี 1991 ทำให้เขากลายเป็นที่จับตาของแมวมอง และได้รับบทบาทแรกในเรื่อง Mallrats ของเควิน สมิท ตามด้วย Chasing Amy และ Dogma แต่เรื่องที่ทำให้ เจสัน ลี แจ้งเกิด คือ Almost Famous ที่ได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยม ของสมาคมนักแสดงอเมริกัน (SAG Award)
ทุกวันนี้ เจสัน เป็นทั้งนักแสดง คนเขียนบท ผู้กำกับ และผู้สร้าง
เอ๊ด เทมเพิลตัน
ชื่อเสียงของ เอ๊ด เทมเพิลตัน ในวงการสเกตบอร์ดไม่ต้องพูดให้มากความ ทว่า ทุกวันนี้ ผู้ก่อตั้งทอย แมชชีน ออกมาเอาดีในสายศิลปะและการเป็นช่างภาพแทน
ในวงการสเกตบอร์ด เขาแจ้งเกิดได้ดีในวิดีโอโชว์ลีลาเล่นสเกตบอร์ดแบบเฟี้ยวฟ้าว ไม่ต่างจากเจสัน ลี โดยมีวิดีโอ Welcome to Hell กับ Emerica's This Is Skateboarding ของทอย แมชชีน เป็นหลักฐาน
หลังปี 2000 เอ๊ดเปลี่ยนบทบาทมาอยู่หลังกล้องถ่ายรูป แม้จะไม่ได้ศึกษามาอย่างจริงจัง แต่ก็ออกหนังสือภาพ Teenage Smokers ออกมา จนได้รับรางวัลจากอิตาเลียน เซิร์ช ฟอร์ อาร์ต ถึง 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2013 เขาเปิดโรงเรียนสอนถ่ายภาพ เทมเพิลตัน พร้อมออกหนังสือภาพ และเปิดนิทรรศการภาพถ่ายมากมาย กลายเป็นสร้างชื่อมากกว่าชีวิตในโลกสเกตบอร์ดไปอีก
ร็อบ ไดเออร์เดค
การเป็นพิธีกรรายการทีวี ทำให้ไม่ห่างไกลจากโลกของการเป็นนักสเกตบอร์ดมากสักเท่าไหร่
ร็อบ ไดเออร์เดค เป็นอีกคนที่แจ้งเกิดจากวิดีโอโชว์ลีลาเซิร์ฟสเกต โดยเขาเริ่มต้นเป็นนักสเกตบอร์ดมืออาชีพตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 90s และโด่งดังที่สุดจากวิดีโอ ดีซี ปี 2003 ซึ่งในเรื่องเขามีคู่หูเป็นบอดี้การ์ดหุ่นล่ำ นามว่า บิ๊ก แบล็ก ออกมาร่อนสเกตบอร์ด อาละวาดกลุ่มรักษาความปลอดภัย นอกสนามสเกต
ดีซี วิดีโอ ประสบความสำเร็จมาก ร็อบ และบิ๊ก แบล็ก ได้รับเชิญให้ไปเล่นในซีรีส ร็อบ แอนด์ บิ๊ก ของเอ็มทีวีที่ออกมาอย่างต่อเนื่องถึง 3 ซีซัน ร็อบได้สร้างสรรค์ซีรีส์ แฟนตาซี แฟคทรี ซึ่งเป็นการอาศัยความสามารถทางด้านสเกต เข้าไปขโมยซีนตามลานสเกตบอร์ดต่างๆ
นั่นเป็นที่มาของการเป็นพิธีกรรายการ ริดิคิวลัสเนส รายการวาไรตี้ทอล์กโชว์ ที่พูดคุยกับผู้คนวงการต่างๆ นอกเหนือจากแวดวงสเกตบอร์ด
สไปก์ จอนเซ
แม้ว่าจะไม่เคยเป็นนักสเกตบอร์ดมืออาชีพ เพราะแรกเริ่มเดมที สไปก์ จอนเซ เข้ามาในฐานะช่างภาพกีฬาสเกตบอร์ด จนสร้างชื่อว่าเป็นคนที่ถ่ายทำทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสเกตบอร์ดได้ดีที่สุดแห่งยุค
เขาสร้างหนังอินดี้เกี่ยวกับสเกตบอร์ด โดยถ่ายเอง เขียนบทเอง ตัดต่อเอง เรื่อง Mouse พร้อมสร้างแบรนด์สเกตบอร์ดยี่ห้อเดียวกับชื่อบริษัท เกิร์ลสเกตบอร์ด ร่วมกับไมค์ แคร์รอล และริค ฮาเวิร์ด ในที่สุดสไปก์ก็เลือกเอาดีในวงการภาพยนตร์
เขาเริ่มไปกำกับมิวสิกวิดีโอในทศวรรษที่ 1990s มีผลงานของวงแฟตบอย สลิม วีเซอร์ บีตซี บอยส์ โซนิค ยูท อาร์อีเอ็ม ฯลฯ และในปี 1999 สไปก์ ก็มีผลงานภาพยนตร์ อย่าง Being John Malkovic หนังที่ได้รับเสียงวิจารณ์มากเรื่องหนึ่ง ขณะที่อีก 10 ปีต่อมาก็มี Where The Wild Things Are ออกมาสร้างรายได้แตะระดับบอกซ์ออฟฟิศ และในปี 2013 ผลงานเรื่อง Her ก็ช่วยให้สไปก์คว้ารางวัลออสการ์ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง
นับว่าไม่เลวเลยทีดียว สำหรับคนที่เริ่มต้นจากการขอยืมกล้องวีเอชเอสของเพื่อนไปถ่านหนังเรื่องแรก
ไมค์ วัลลีย์
นักสเกตบอร์ดทุกคนต้องรู้จัก ไมค์ วี. นักเซิร์ฟสเกตที่โด่งดังมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 80s, 90s, ถึง 00s โดยได้ชื่อว่าเป็นนักสเกตบอร์ดที่มีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์
ไมค์ แขวนบอร์ด และเปลี่ยนทรงผมจากสกินเฮดมาไว้ผมยาว แต่ยังใช้ชื่อ ไมค์ วี. ในวงการดนตรีพังก์ร็อก กับวง ไมค์ วี แอนด์ เดอะ แรตส์ ก่อนที่จะไปเป็นนักร้องนำให้วงแบล็กแฟล็ก หลังจากที่เข้าไปเป็นผู้จัดการวงมาสักพักใหญ่ แล้วไปกดดันให้อดีตนักร้องนำ อย่าง รอน เรเยส ออกจากวงไปแล้วเข้ามาทำหน้าที่แทน
เจสัน ลี
เมื่อออกจากโลกของการสเกตบอร์ด ใครจะไปรู้ว่า เจสัน ลี มาไกลถึงฮอลลีวูด
หลังจากวิดีโอโฆษณาบอร์ด ที่บรรจุลีลาการเซิร์ฟสเกตของหนุ่มน้อยวัย 20 ออกมาในปี 1991 ทำให้เขากลายเป็นที่จับตาของแมวมอง และได้รับบทบาทแรกในเรื่อง Mallrats ของเควิน สมิท ตามด้วย Chasing Amy และ Dogma แต่เรื่องที่ทำให้ เจสัน ลี แจ้งเกิด คือ Almost Famous ที่ได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยม ของสมาคมนักแสดงอเมริกัน (SAG Award)
ทุกวันนี้ เจสัน เป็นทั้งนักแสดง คนเขียนบท ผู้กำกับ และผู้สร้าง
เอ๊ด เทมเพิลตัน
ชื่อเสียงของ เอ๊ด เทมเพิลตัน ในวงการสเกตบอร์ดไม่ต้องพูดให้มากความ ทว่า ทุกวันนี้ ผู้ก่อตั้งทอย แมชชีน ออกมาเอาดีในสายศิลปะและการเป็นช่างภาพแทน
ในวงการสเกตบอร์ด เขาแจ้งเกิดได้ดีในวิดีโอโชว์ลีลาเล่นสเกตบอร์ดแบบเฟี้ยวฟ้าว ไม่ต่างจากเจสัน ลี โดยมีวิดีโอ Welcome to Hell กับ Emerica's This Is Skateboarding ของทอย แมชชีน เป็นหลักฐาน
หลังปี 2000 เอ๊ดเปลี่ยนบทบาทมาอยู่หลังกล้องถ่ายรูป แม้จะไม่ได้ศึกษามาอย่างจริงจัง แต่ก็ออกหนังสือภาพ Teenage Smokers ออกมา จนได้รับรางวัลจากอิตาเลียน เซิร์ช ฟอร์ อาร์ต ถึง 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2013 เขาเปิดโรงเรียนสอนถ่ายภาพ เทมเพิลตัน พร้อมออกหนังสือภาพ และเปิดนิทรรศการภาพถ่ายมากมาย กลายเป็นสร้างชื่อมากกว่าชีวิตในโลกสเกตบอร์ดไปอีก
ร็อบ ไดเออร์เดค
การเป็นพิธีกรรายการทีวี ทำให้ไม่ห่างไกลจากโลกของการเป็นนักสเกตบอร์ดมากสักเท่าไหร่
ร็อบ ไดเออร์เดค เป็นอีกคนที่แจ้งเกิดจากวิดีโอโชว์ลีลาเซิร์ฟสเกต โดยเขาเริ่มต้นเป็นนักสเกตบอร์ดมืออาชีพตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 90s และโด่งดังที่สุดจากวิดีโอ ดีซี ปี 2003 ซึ่งในเรื่องเขามีคู่หูเป็นบอดี้การ์ดหุ่นล่ำ นามว่า บิ๊ก แบล็ก ออกมาร่อนสเกตบอร์ด อาละวาดกลุ่มรักษาความปลอดภัย นอกสนามสเกต
ดีซี วิดีโอ ประสบความสำเร็จมาก ร็อบ และบิ๊ก แบล็ก ได้รับเชิญให้ไปเล่นในซีรีส ร็อบ แอนด์ บิ๊ก ของเอ็มทีวีที่ออกมาอย่างต่อเนื่องถึง 3 ซีซัน ร็อบได้สร้างสรรค์ซีรีส์ แฟนตาซี แฟคทรี ซึ่งเป็นการอาศัยความสามารถทางด้านสเกต เข้าไปขโมยซีนตามลานสเกตบอร์ดต่างๆ
นั่นเป็นที่มาของการเป็นพิธีกรรายการ ริดิคิวลัสเนส รายการวาไรตี้ทอล์กโชว์ ที่พูดคุยกับผู้คนวงการต่างๆ นอกเหนือจากแวดวงสเกตบอร์ด
สไปก์ จอนเซ
แม้ว่าจะไม่เคยเป็นนักสเกตบอร์ดมืออาชีพ เพราะแรกเริ่มเดมที สไปก์ จอนเซ เข้ามาในฐานะช่างภาพกีฬาสเกตบอร์ด จนสร้างชื่อว่าเป็นคนที่ถ่ายทำทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสเกตบอร์ดได้ดีที่สุดแห่งยุค
เขาสร้างหนังอินดี้เกี่ยวกับสเกตบอร์ด โดยถ่ายเอง เขียนบทเอง ตัดต่อเอง เรื่อง Mouse พร้อมสร้างแบรนด์สเกตบอร์ดยี่ห้อเดียวกับชื่อบริษัท เกิร์ลสเกตบอร์ด ร่วมกับไมค์ แคร์รอล และริค ฮาเวิร์ด ในที่สุดสไปก์ก็เลือกเอาดีในวงการภาพยนตร์
เขาเริ่มไปกำกับมิวสิกวิดีโอในทศวรรษที่ 1990s มีผลงานของวงแฟตบอย สลิม วีเซอร์ บีตซี บอยส์ โซนิค ยูท อาร์อีเอ็ม ฯลฯ และในปี 1999 สไปก์ ก็มีผลงานภาพยนตร์ อย่าง Being John Malkovic หนังที่ได้รับเสียงวิจารณ์มากเรื่องหนึ่ง ขณะที่อีก 10 ปีต่อมาก็มี Where The Wild Things Are ออกมาสร้างรายได้แตะระดับบอกซ์ออฟฟิศ และในปี 2013 ผลงานเรื่อง Her ก็ช่วยให้สไปก์คว้ารางวัลออสการ์ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง
นับว่าไม่เลวเลยทีดียว สำหรับคนที่เริ่มต้นจากการขอยืมกล้องวีเอชเอสของเพื่อนไปถ่านหนังเรื่องแรก