“บิ๊กตู่” ซัดม็อบชุมนุมได้ แต่ต้องรับผิดชอบสังคม ตร.ลุยถอดเทป เอาผิดผู้ขึ้นปราศรัย 11 ราย บนเวทีม็อบราชประสงค์ 24 มี.ค. เล็งฟันคดี 112 เป็นรายคน อัยการเลื่อนคดี “มายด์” พร้อมแกนนำม็อบชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนี ไป 13 พ.ค.นี้
วานนี้ (25 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่บริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ว่า ไม่อยากให้เกิดผลกระทบทั้งฝ่ายผู้สนับสนุน และไม่สนับสนุน ควรจะมีความรับผิดชอบต่อสังคมกันบ้าง จะชุมนุมอะไรต่างๆ ก็ตามอย่าให้คนอื่นเดือดร้อน จะอ้างว่าเป็นประชาธิปไตยมันก็ไม่ใช่ เพราะประชาธิปไตยต้องไม่ใช่แบบนี้ จะต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
“จะชุมนุมกัน รัฐบาลไม่ได้ห้าม ขอให้แจ้งมา และชุมนุมอยู่กับที่ จำนวนพอสมควร ไม่ใช่เพิ่มเติมไปเรื่อยๆ และเคลื่อนย้ายไปโน่น นี่ ในต่างประเทศเขาไม่มีแบบนี้ แต่ก็ต้องขอความร่วมมือ พอใช้กฎหมายก็มีปัญหาทุกที ไม่ใช้ก็ไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ถอดเทปเอาผิดม็อบ 24 มี.ค.
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ช่วงเย็นวันที่ 24 มี.ค.ว่า พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม และถอดเทปคำปราศรัยของกลุ่มบุคคล 11 รายที่ขึ้นปราศรัย ขณะนี้ทราบชื่อแล้ว 10 ราย ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ออกเลขคดีเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะขยายผลไปยังกลุ่มการ์ด กลุ่มผู้ร่วมชุมนุม กลุ่มรถเครื่องขยายเสียง และกลุ่มบุคคลอื่นที่มีส่วนร่วมในการชุมนุมครั้งนี้ นอกจากนี้ จากการตั้งจุดตรวจค้นโดยรอบพื้นที่ของการชุมนุมดังกล่าว พบว่ามีผู้กระทำผิดโดยนำใบกระท่อม น้ำกระท่อม (สี่คูณร้อย) และวัตถุผิดกฎหมายเข้ามาในที่ชุมนุม
“สำหรับคดีมาตรา 112 จะพิจารณาเป็นรายบุคคลไป ต้องดูเนื้อหาการปราศรัยว่ากล่าวพาดพิง เกิดความเสียหายหรือไม่ รวมถึงผู้ถือป้ายที่มีข้อความผิดกฎหมาย มีทีมตำรวจคอยตรวจสอบบันทึกภาพและเสียงเป็นหลักฐาน จากนั้นจะออกหมายเรียกแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ส่วนกรณีสื่อมวลชนถ่ายทอดสดภาพและเสียงนั้น ถ้ามีเจตนาทำผิดกฎหมาย ก็ถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน” พล.ต.ต.ปิยะ ระบุ
“สนธิญา”ร้องปราศรัยจาบจ้วง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสนธิญา สวัสดี ปรึกษากมธ.กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายการขึ้นปราศรัยในการชุมนุมครั้งนี้ เพื่อยื่น พ.ต.อ.ณรงค์ชัย น้อยศรี ผกก.ฝอ.5 บก.อก.บช.น. ให้ดำเนินตรวจสอบบุคคลที่ขึ้นปราศรัยบนเวทีว่าเข้าข่ายหมิ่นสถาบันเบื้องสูงอย่างร้ายแรงหรือไม่ และตรวจสอบกรณีสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่องหนึ่ง ได้ถ่ายทอดสดการปราศรัย โดยไม่กลั่นกรองเนื้อหา ก่อนที่ พ.ต.อ.ณรงค์ชัยจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชา พิจารณาต่อไป
“มายด์-พวก” รายงานตัวพร้อมหน้า
วันเดียวกัน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ "มายด์" พร้อมพวกผู้ต้องหา แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร รวม 13 ราย เดินทางมารายงานตัวตามที่อัยการนัดฟังคำสั่ง คดีชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ซึ่งถูกแจ้งข้อหาในความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และยุยงปลุกปั่นฯ มาตรา 116 และข้อหาอื่น
น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า ตนเองยังเข้มแข็ง สู้ต่อ ไม่ถอย พ่อกับแม่ก็ให้กำลังใจ ส่วนที่มีข่าวว่า อัยการจะเลื่อนนัดสั่งคดีนั้น ยังไม่มั่นใจ ต้องรอฟังอีกที ทุกคนในคดีจะมากันครบ เพราะทุกคนมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ มั่นใจในสิ่งที่ทำ
ด้าน น.ส.เบนจา อะปัญ แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวว่า หากไม่ได้รับการประกันตัว ก็จะให้มวลชนเดินหน้าต่อสู้กันต่อไป ตนเองก็จะสู้ เพียงแค่เปลี่ยนสถานที่ สำหรับการชุมนุมเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา พยายามจัดการชุมนุมให้มีความปลอดภัย และให้มวลชนมีส่วนร่วมกับกิจกรรม การต่อสู้ ยังเป็นภารกิจสำคัญนอกจากเรื่องเรียน และมองว่าอัยการ ควรยกเลิกการส่งฟ้อง
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงความคิดเห็น ที่มีต่อการชุมนุมของ กลุ่ม REDEMที่ไม่มีแกนนำ น.ส.เบนจา มองว่า เป็นการชุมนุมที่ให้คนหลายกลุ่มได้เข้ามาร่วม ตนเองก็ไม่เคยบอกว่าการมีแกนนำ หรือไม่มีแกนนำ ดี หรือไม่ดีอย่างไร มีความแตกต่างกันในด้านวิธีการ แต่แนวทางการต่อสู้คือเป้าหมายเดียวกัน
อัยการเลื่อนสั่งไป 13 พ.ค.
ภายหลังผู้ต้องหาเข้ารายงานตัวต่ออัยการ คดีชุมนุมสถานทูตเยอรมนีแล้ว นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า อัยการเลื่อนนัดสั่งคดีไปเป็น วันที่ 13 พ.ค.64 เวลา 09.00 น. เนื่องจากอัยการอยู่ระหว่างพิจารณาสำนวนคดี
หลังทราบการเลื่อนนัดคดี นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ ขอนแก่น กล่าวว่า นับเป็นสัญญาณที่ดี จะได้เคลื่อนไหวต่อ
น.ส.เบนจา อะปัญ กล่าวว่า ได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรม ทำตามกระบวนการทุกอย่างในการทวงถามความยุติธรรม
ขณะที่น.ส.ภัสราวลี หรือ มายด์ กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองมีส่วนต่อคดี ตนไม่กังวลต่อการถูกดำเนินคดีเพิ่ม เชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำ ขณะนี้ทุกคนไม่กังวลว่าจะถูกขัง หรือไม่ แต่กังวลจะสู้ได้อย่างเต็มที่ข้างนอกมากน้อยแค่ไหน
จวกคนเขียนบทใจดำอำมหิต
อีกด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงเนื้อหาที่ น.ส.ภัสราวลี หรือ มายด์ ปราศรัย้มเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ตอนหนึ่งว่า ได้เฝ้าติดตามการปราศรัยของ น.ส.ภัสราวลี บนเวที ถือว่าน้ำเสียง ลีลาการปราศรัยของหนู อยู่ในขั้นสุดยอดคนหนึ่ง เสียอย่างเดียวคือสาระที่ปราศรัย มีการบิดเบือนเยอะมาก ที่สำคัญสิ่งที่ยังขยายผลข้อเรียกร้องให้พระมหากษัตริย์ มีการปรับปรุงแก้ไข 3 ข้อ ฟังดูแล้วรุนแรงมาก และโกหกบิดเบือนสังคมให้เข้าใจผิดด้วย เสียดายมากที่ น.ส.ภัสราวลี ไม่ยอมทำการบ้านเสียก่อน ก่อนที่จะอ่าน คนเขียนบทให้ก็ใจร้ายอำมหิตย ส่ง น.ส.ภัสราวลี ไปสังเวย โดยไม่มีข้อเท็จจริง เพียงเพื่อหวังปลุกระดมเท่านั้น
“กลายเป็นหนู (น.ส.ภัสราวลี) กล่าวให้ร้ายพระมหากษัตริย์ ชนิดบิดเบือนมากๆ หนูอย่าไปต่อว่ามาตรา 112 นะ กฏหมายไม่ได้รังแกหนู แต่หนูทำตัวเอง แบบผิดแล้วผิดอีก เสียดายความสามารถของหนูมาก ถ้าได้รับการชี้แนะที่ดี หนูจะมีอนาคตที่ดีกว่านี้แน่นอน” นพ.วรงค์ ระบุ
สอบมือโพสต์ข่มขืนลูกนายกฯ
กรณี นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทนายความประจำสำนักกฎหมาย อ.อัมพร ณ ตะกั่วทุ่ง และเพื่อน ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากน.ส.ธัญญา และ น.ส.นิฏฐา จันทร์โอชา บุตรสาวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่ใช้ทวิตเตอร์ นามว่า @jojoshamlet ที่โพสต์ข้อความว่า "น้องๆ ก็จำไว้ลูก เจอลูกสาวประยุทธ์ที่ไหน อย่าลืมรุมข่มขืนด้วยเธอ" ทั้งนี้ จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยไม่มีการยอมความใดๆทั้งสิ้น
ภายหลัง พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รอง ผกก.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง รับแจ้งความไว้ เมื่อวันที่23 มี.ค.ที่ผ่านมา และวันที่ 24 มี.ค. ได้ออกหมายเรียกผู้ใช้ทวิตเตอร์ดังกล่าว เป็นชายไทย อายุประมาณ 40 ปี พักอาศัยอยู่ย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ ให้มาพบพนักงานสอบสวน ที่ สน.นางเลิ้ง ในวันที่ 29 มี.ค. 64 ในเวลา 10.00 น.
ต่อมาเวลาประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 24มี.ค. เพจ “Street Hero Project” รายงานว่า ผู้ต้องหาถูกนำตัวไปยัง บก.ปอท. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) แล้ว โดยทางพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้ติดต่อขอหลักฐานทางคอมพิวเตอร์จากแอดมินเพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าผู้ต้องหาเป็นคนโพสต์ข้อความเองจริง ไม่ได้ถูกตัดต่อภาพตามที่เจ้าตัวอ้าง ด้วยการดูย้อนหลังตามเว็บ Cache ได้
วานนี้ (25 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่บริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ว่า ไม่อยากให้เกิดผลกระทบทั้งฝ่ายผู้สนับสนุน และไม่สนับสนุน ควรจะมีความรับผิดชอบต่อสังคมกันบ้าง จะชุมนุมอะไรต่างๆ ก็ตามอย่าให้คนอื่นเดือดร้อน จะอ้างว่าเป็นประชาธิปไตยมันก็ไม่ใช่ เพราะประชาธิปไตยต้องไม่ใช่แบบนี้ จะต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
“จะชุมนุมกัน รัฐบาลไม่ได้ห้าม ขอให้แจ้งมา และชุมนุมอยู่กับที่ จำนวนพอสมควร ไม่ใช่เพิ่มเติมไปเรื่อยๆ และเคลื่อนย้ายไปโน่น นี่ ในต่างประเทศเขาไม่มีแบบนี้ แต่ก็ต้องขอความร่วมมือ พอใช้กฎหมายก็มีปัญหาทุกที ไม่ใช้ก็ไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ถอดเทปเอาผิดม็อบ 24 มี.ค.
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ช่วงเย็นวันที่ 24 มี.ค.ว่า พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม และถอดเทปคำปราศรัยของกลุ่มบุคคล 11 รายที่ขึ้นปราศรัย ขณะนี้ทราบชื่อแล้ว 10 ราย ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ออกเลขคดีเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะขยายผลไปยังกลุ่มการ์ด กลุ่มผู้ร่วมชุมนุม กลุ่มรถเครื่องขยายเสียง และกลุ่มบุคคลอื่นที่มีส่วนร่วมในการชุมนุมครั้งนี้ นอกจากนี้ จากการตั้งจุดตรวจค้นโดยรอบพื้นที่ของการชุมนุมดังกล่าว พบว่ามีผู้กระทำผิดโดยนำใบกระท่อม น้ำกระท่อม (สี่คูณร้อย) และวัตถุผิดกฎหมายเข้ามาในที่ชุมนุม
“สำหรับคดีมาตรา 112 จะพิจารณาเป็นรายบุคคลไป ต้องดูเนื้อหาการปราศรัยว่ากล่าวพาดพิง เกิดความเสียหายหรือไม่ รวมถึงผู้ถือป้ายที่มีข้อความผิดกฎหมาย มีทีมตำรวจคอยตรวจสอบบันทึกภาพและเสียงเป็นหลักฐาน จากนั้นจะออกหมายเรียกแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ส่วนกรณีสื่อมวลชนถ่ายทอดสดภาพและเสียงนั้น ถ้ามีเจตนาทำผิดกฎหมาย ก็ถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน” พล.ต.ต.ปิยะ ระบุ
“สนธิญา”ร้องปราศรัยจาบจ้วง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสนธิญา สวัสดี ปรึกษากมธ.กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายการขึ้นปราศรัยในการชุมนุมครั้งนี้ เพื่อยื่น พ.ต.อ.ณรงค์ชัย น้อยศรี ผกก.ฝอ.5 บก.อก.บช.น. ให้ดำเนินตรวจสอบบุคคลที่ขึ้นปราศรัยบนเวทีว่าเข้าข่ายหมิ่นสถาบันเบื้องสูงอย่างร้ายแรงหรือไม่ และตรวจสอบกรณีสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่องหนึ่ง ได้ถ่ายทอดสดการปราศรัย โดยไม่กลั่นกรองเนื้อหา ก่อนที่ พ.ต.อ.ณรงค์ชัยจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชา พิจารณาต่อไป
“มายด์-พวก” รายงานตัวพร้อมหน้า
วันเดียวกัน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ "มายด์" พร้อมพวกผู้ต้องหา แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร รวม 13 ราย เดินทางมารายงานตัวตามที่อัยการนัดฟังคำสั่ง คดีชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ซึ่งถูกแจ้งข้อหาในความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และยุยงปลุกปั่นฯ มาตรา 116 และข้อหาอื่น
น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า ตนเองยังเข้มแข็ง สู้ต่อ ไม่ถอย พ่อกับแม่ก็ให้กำลังใจ ส่วนที่มีข่าวว่า อัยการจะเลื่อนนัดสั่งคดีนั้น ยังไม่มั่นใจ ต้องรอฟังอีกที ทุกคนในคดีจะมากันครบ เพราะทุกคนมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ มั่นใจในสิ่งที่ทำ
ด้าน น.ส.เบนจา อะปัญ แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวว่า หากไม่ได้รับการประกันตัว ก็จะให้มวลชนเดินหน้าต่อสู้กันต่อไป ตนเองก็จะสู้ เพียงแค่เปลี่ยนสถานที่ สำหรับการชุมนุมเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา พยายามจัดการชุมนุมให้มีความปลอดภัย และให้มวลชนมีส่วนร่วมกับกิจกรรม การต่อสู้ ยังเป็นภารกิจสำคัญนอกจากเรื่องเรียน และมองว่าอัยการ ควรยกเลิกการส่งฟ้อง
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงความคิดเห็น ที่มีต่อการชุมนุมของ กลุ่ม REDEMที่ไม่มีแกนนำ น.ส.เบนจา มองว่า เป็นการชุมนุมที่ให้คนหลายกลุ่มได้เข้ามาร่วม ตนเองก็ไม่เคยบอกว่าการมีแกนนำ หรือไม่มีแกนนำ ดี หรือไม่ดีอย่างไร มีความแตกต่างกันในด้านวิธีการ แต่แนวทางการต่อสู้คือเป้าหมายเดียวกัน
อัยการเลื่อนสั่งไป 13 พ.ค.
ภายหลังผู้ต้องหาเข้ารายงานตัวต่ออัยการ คดีชุมนุมสถานทูตเยอรมนีแล้ว นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า อัยการเลื่อนนัดสั่งคดีไปเป็น วันที่ 13 พ.ค.64 เวลา 09.00 น. เนื่องจากอัยการอยู่ระหว่างพิจารณาสำนวนคดี
หลังทราบการเลื่อนนัดคดี นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ ขอนแก่น กล่าวว่า นับเป็นสัญญาณที่ดี จะได้เคลื่อนไหวต่อ
น.ส.เบนจา อะปัญ กล่าวว่า ได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรม ทำตามกระบวนการทุกอย่างในการทวงถามความยุติธรรม
ขณะที่น.ส.ภัสราวลี หรือ มายด์ กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองมีส่วนต่อคดี ตนไม่กังวลต่อการถูกดำเนินคดีเพิ่ม เชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำ ขณะนี้ทุกคนไม่กังวลว่าจะถูกขัง หรือไม่ แต่กังวลจะสู้ได้อย่างเต็มที่ข้างนอกมากน้อยแค่ไหน
จวกคนเขียนบทใจดำอำมหิต
อีกด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงเนื้อหาที่ น.ส.ภัสราวลี หรือ มายด์ ปราศรัย้มเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ตอนหนึ่งว่า ได้เฝ้าติดตามการปราศรัยของ น.ส.ภัสราวลี บนเวที ถือว่าน้ำเสียง ลีลาการปราศรัยของหนู อยู่ในขั้นสุดยอดคนหนึ่ง เสียอย่างเดียวคือสาระที่ปราศรัย มีการบิดเบือนเยอะมาก ที่สำคัญสิ่งที่ยังขยายผลข้อเรียกร้องให้พระมหากษัตริย์ มีการปรับปรุงแก้ไข 3 ข้อ ฟังดูแล้วรุนแรงมาก และโกหกบิดเบือนสังคมให้เข้าใจผิดด้วย เสียดายมากที่ น.ส.ภัสราวลี ไม่ยอมทำการบ้านเสียก่อน ก่อนที่จะอ่าน คนเขียนบทให้ก็ใจร้ายอำมหิตย ส่ง น.ส.ภัสราวลี ไปสังเวย โดยไม่มีข้อเท็จจริง เพียงเพื่อหวังปลุกระดมเท่านั้น
“กลายเป็นหนู (น.ส.ภัสราวลี) กล่าวให้ร้ายพระมหากษัตริย์ ชนิดบิดเบือนมากๆ หนูอย่าไปต่อว่ามาตรา 112 นะ กฏหมายไม่ได้รังแกหนู แต่หนูทำตัวเอง แบบผิดแล้วผิดอีก เสียดายความสามารถของหนูมาก ถ้าได้รับการชี้แนะที่ดี หนูจะมีอนาคตที่ดีกว่านี้แน่นอน” นพ.วรงค์ ระบุ
สอบมือโพสต์ข่มขืนลูกนายกฯ
กรณี นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทนายความประจำสำนักกฎหมาย อ.อัมพร ณ ตะกั่วทุ่ง และเพื่อน ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากน.ส.ธัญญา และ น.ส.นิฏฐา จันทร์โอชา บุตรสาวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่ใช้ทวิตเตอร์ นามว่า @jojoshamlet ที่โพสต์ข้อความว่า "น้องๆ ก็จำไว้ลูก เจอลูกสาวประยุทธ์ที่ไหน อย่าลืมรุมข่มขืนด้วยเธอ" ทั้งนี้ จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยไม่มีการยอมความใดๆทั้งสิ้น
ภายหลัง พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รอง ผกก.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง รับแจ้งความไว้ เมื่อวันที่23 มี.ค.ที่ผ่านมา และวันที่ 24 มี.ค. ได้ออกหมายเรียกผู้ใช้ทวิตเตอร์ดังกล่าว เป็นชายไทย อายุประมาณ 40 ปี พักอาศัยอยู่ย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ ให้มาพบพนักงานสอบสวน ที่ สน.นางเลิ้ง ในวันที่ 29 มี.ค. 64 ในเวลา 10.00 น.
ต่อมาเวลาประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 24มี.ค. เพจ “Street Hero Project” รายงานว่า ผู้ต้องหาถูกนำตัวไปยัง บก.ปอท. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) แล้ว โดยทางพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้ติดต่อขอหลักฐานทางคอมพิวเตอร์จากแอดมินเพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าผู้ต้องหาเป็นคนโพสต์ข้อความเองจริง ไม่ได้ถูกตัดต่อภาพตามที่เจ้าตัวอ้าง ด้วยการดูย้อนหลังตามเว็บ Cache ได้