นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกของ“หลุยส์ เตชะอุบล”ที่ดูสวยหวานสไตล์เกาหลี จนมักถูกทักบ่อยๆ ว่าหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับ “โกมุนยอง” นางเอกซีรีส์เกาหลี It's Okay to Not Be Okay จะชวนให้สะดุดตาแล้ว ตัวตนของผู้บริหารหญิงเก่งคนนี้ยังมีอะไรที่น่าค้นหา ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดที่ดูแมนขัดกับลุค รวมทั้งวิสัยทัศน์และความเป็นนักสู้ ที่พาให้เธอขึ้นแท่นเป็นนักธุรกิจหญิงเก่งที่น่าจับตามองแห่งยุค
เหตุที่เธอมีนิสัยแมนๆ นั้นคงเป็นเพราะ “หลุยส์” เป็นลูกสาวคนเดียว ท่ามกลางพี่ชายและน้องชายอีก 3 คนของ “อรวรรณ-สดาวุธ เตชะอุบล” ประธานกรรมการ บริษัท คันทรี กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด หลังจากเรียนจบปริญญาตรีพาณิชยศาสตร์ด้านการเงินและระบบสารสนเทศ (เกียรตินิยม) จากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย และปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจและการเงิน สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ (เกียรตินิยม) เธอสั่งสมประสบการณ์ในการทำงานด้านการลงทุนและการบริหารอยู่หลายปี ปัจจุบันเธอเป็นประธานคณะกรรมการ บริษัท ไทรทัน เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
“หลุยส์เลือกออกมาทำธุรกิจของตัวเองตอนที่เข้ามาลงทุนในบริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง เพราะเห็นว่ามีศักยภาพที่ดี แข็งแรง สามารถพัฒนาไปได้อีกไกล โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับวิศวกรรมเฉพาะทาง (Specialist Engineering) อย่างธุรกิจน้ำมันและก๊าซ งานวางระบบรางรถไฟ และการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ข้อดีของการเน้นงานรับเหมาที่มีความยากและใช้ทักษะสูงทำให้ Profit margin จะสูงกว่างานก่อสร้างทั่วไป เพราะมีผู้เล่นไม่กี่เจ้า และเราเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดนั่นเอง”
อีกธุรกิจที่หลุยส์เข้าไปลงทุนและบริหารคือ บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จํากัด ธุรกิจอาหารและบรรจุภัณฑ์ (food and package) ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจอาหารแปรรูปแช่แข็ง และผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน "อีซี่โก" (EZYGO) ผลไม้อบแห้ง ซึ่งส่งออกไปยังหลายประเทศ และเชนฟาสต์ฟูดที่อยู่คู่คนไทยมานานอย่าง A&W
"ปีนี้เรามีแผนเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตอาหารกล่องอีซี่โกอีก 3 เท่าตัว จากเดิมวันละ 80,000 กล่องเป็น 3-4 แสนกล่อง พร้อมกันนี้ ยังมีแผนขยายสาขา A&W ซึ่งแม้สัดส่วนรายได้จะไม่ได้สูง แต่เรามองเห็นโอกาส หลุยส์อยากจะ Revamp ให้แบรนด์ A&W ที่หลังๆ อาจจะดูเงียบๆ ไป ให้กลับมาอีกครั้ง เพราะเชื่อในศักยภาพของแบรนด์ที่ค่อนข้างแข็งแรง คนไทยรู้จักเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ที่สำคัญ ยังมีจุดขายไม่เหมือนแบรนด์อื่น พร้อมกับเปิดแบรนด์อาหารใหม่เอาใจสายรักสุขภาพด้วยการนำเสนอเมนู Plant-Based และขอใบอนุญาตสารสกัดกัญชงเพื่อนำมาใช้"
แม้จะดูเหมือนกำลังนั่งบริหารสองธุรกิจที่มีความต่างกันสุดขั้ว แต่ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ออกมาลงทุนทำธุรกิจของตัวเอง หลุยส์กลับมองว่าแม้รูปแบบธุรกิจอาจจะแตกต่าง แต่วิธีการบริหารไม่ว่าธุรกิจไหนก็เหมือนกัน
"หลุยส์ว่าทุกธุรกิจก็เหมือนกันหมด มีลูกค้า มีพนักงาน เพียงแต่วิธีการบริหารหรือสื่อสารกับพนักงานก่อสร้าง กับการขายแฮมเบอร์เกอร์อาจจะไม่เหมือนกัน แต่ในฐานะผู้บริหาร หลุยส์ดูแลใช้หลักการเดียวกัน คือใช้ใจในการบริหาร หลุยส์เชื่อว่าถ้าเราให้ใจเขา เขาก็จะให้ใจเรา ถ้าเราคิดว่าเราเป็นพนักงาน เราอยากได้อะไรเราก็พยายามให้ในสิ่งนั้น อย่างช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ที่ไทรทันเราไม่ได้เอาพนักงานออกเลย และไม่ลดเงินเดือนใคร เพราะหลุยส์คิดว่าพนักงานลำบากมากกว่าเรา ที่สำคัญโควิด-19 ไม่ได้อยู่ตลอดไป วันหนึ่งสถานการณ์ก็จะกลับมาปกติ เพราะฉะนั้นหลุยส์มองว่าเราไม่มีความจำเป็นต้องลดเงินเดือนพนักงาน 10% เพื่อเซฟต้นทุนบริษัท 10% เพื่อให้จากขาดทุน 200 ล้าน เหลือ 100 ล้าน หรือพยายามทำให้กำไร 1,000 ล้าน แทนที่จะกำไรแค่ 800 ล้าน" หลุยส์เล่าอย่างออกรส
อย่างไรก็ตาม แม้จะจริงจังกับงาน แถมยังเป็นคุณแม่ลูกสามแล้ว แต่หลุยส์ยังดูแลตัวเองได้ดี เพราะถ้าไม่เฉลยว่ากำลังจะเข้าหลักสี่แล้ว หลายคนคงไม่เชื่อ "วิธีดูแลตัวเองของหลุยส์คือ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนเยอะๆ เล่นกีฬา ซึ่งหลุยส์เล่นเกือบทุกอย่างนะ แต่ไม่เน้นแนวเอ็กซ์ตรีม ที่ชอบเล่นกีฬาเพราะสมัยเรียนที่ออสเตรเลีย ที่โรงเรียนจะมีทีมนักกีฬาผู้หญิง เราก็เล่นทั้งรักบี้ บาสเกตบอล แต่พอกลับมาเมืองไทยไม่มีเพื่อนไปเล่น เราก็หันมาเล่นโยคะ พิราทีส ขี่จักรยาน สคูบา"
อีกหนึ่งงานอดิเรกที่ชื่นชอบคือ ท่องเที่ยว "ชอบมาก ไปไหนก็ได้ ขอให้ได้ไป จะภูเขา ทะเลก็ไป เพราะถึงงานจะทำให้ได้เดินทาง แต่จะไม่ใช่ทริปที่ได้ทำงานพ่วงเที่ยว อาจจะเพราะโลเกชันที่ไปต้องไปทำงานจริงๆ ดังนั้น สำหรับหลุยส์ถ้าไปทำงานคือทำงาน เที่ยวคือเที่ยว"
หนึ่งในทริปที่หลุยส์ประทับใจไม่ลืมคือ ทริปแอฟริกา ซึ่งเธอแท็กทีมไปกับคุณพ่อ "2 ปีที่แล้วหลุยส์พาคุณพ่อไปฉลองวันเกิดที่แอฟริกา ไปกันสองคนพ่อลูก คุณพ่อชอบมาก ที่ไปแอฟริกาเพราะเป็นที่เดียวที่คุณพ่อไม่เคยไป หลุยส์เลยอยากพาไปตอนที่คุณพ่อยังแข็งแรง ได้เห็นคุณพ่อมีความสุขเราก็ดีใจ ทริปของเราไม่เน้นลุยมากเพราะคุณพ่อก็มีอายุแล้ว เราขับรถไปส่องสัตว์ เพราะหลุยส์กับคุณพ่อชอบสัตว์เหมือนกัน ที่บ้านมีฟาร์มเต่า มีนกเป็นพันตัว ส่วนที่บ้านหลุยส์เองก็เลี้ยงทั้งหมา แมว นก อย่างเวลาหลุยส์นั่งทำงานอยู่บ้าน นกจะบินมาเกาะไหล่ข้างละตัว ตอนนี้เลี้ยงอยู่สองตัว ตัวล่าสุดเอามาจากฟาร์มคุณพ่อ"
นอกจากนิสัยรักสัตว์ที่ได้มาจากคุณพ่อ สิ่งที่ลูกสาวคนเดียวได้มาจากคุณพ่อคือ ความอดทน และเลือดนักสู้ ถามว่าวันนี้อะไรคือเป้าหมายในการทำงานของสาวเก่ง เธอนิยามกว้างๆ ว่า อยากประสบความสำเร็จ เพราะประสบการณ์ในชีวิตสอนให้เธอรู้ว่าชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอน ต่อให้วางแผนมาดีแค่ไหน ก็ไม่ได้จะเป็นไปตามนั้น
"ชีวิตหลุยส์ไม่เคยมีแพลน เพราะแพลนทีไรก็ล้มเหลวตลอด หลุยส์ค้นพบว่าชีวิตคนเรามีหลายอย่างที่คาดไม่ถึง ทุกอย่างรอบตัวเราเปลี่ยนแปลงได้หมด เพราะฉะนั้น ตั้งแต่เล็กจนโตหลุยส์เลยเลือกที่ไม่วางแผนว่าจะทำอะไร เรียนอะไร หรือทำงานอะไร เลือกที่จะไปเรื่อยๆ มีโอกาสเรียนก็เรียน มีอะไรทำก็ทำ แม้แต่ตอนแต่งงาน พอมีลูกก็มีเลย หลุยส์มีลูกสามคนตั้งแต่ยังอายุไม่ถึง 30 ปี ตอนนี้ก็เลยสบายเพราะลูกก็เริ่มโตแล้ว คนโตอายุ 12 ปี คนเล็กอายุ 8 ขวบ พอหย่ากับสามีก็แบ่งกันดูแลลูก เพราะลูกๆ ก็จะไปๆ มาๆ"
หลุยส์ให้นิยามตัวเธอเองว่า เธอเป็นคนง่ายๆ ความสุขของเธอคือการทำงาน ดูแลลูก และมีเวลาให้กับตัวเอง "แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้ว จะเห็นว่าหลุยส์แทบไม่ออกงานสังคมเลย เพราะไม่ชอบและไม่มีเวลา แค่งานก็ทั้งวันแล้ว ไม่มีเวลาแต่งหน้าแต่งตัวเพื่อไปออกงาน ถ้ามีเวลาเหลือ หลุยส์ขอเอาเวลาไปนอน ไปออกกำลังกาย หรือใช้เวลากับลูกๆ ไม่คิดจะคบใคร ไม่ได้ต้องการอะไร ชีวิตเราผ่านอะไรมาเยอะ ทั้งดีใจ เสียใจ จนปลง มีอะไรทำไป แก้ปัญหาไป อยู่กับปัจจุบัน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด"
ทิ้งท้ายด้วยคำถามที่หลายคนอาจจะอยากรู้ ว่ารู้สึกอย่างไรที่มีคนทักว่าหน้าตาเหมือนนางเอกซีรีส์เกาหลี หลุยส์ตอบแบบทั้งขำและเขินนิดๆ ว่า "มีคนทักมาตลอด บางคนก็คอมเมนต์มาในไอจี หลุยส์คิดว่าตัวเองหน้าโหล (หัวเราะ) เพราะสำหรับหลุยส์ความสวยไม่ได้เป็นอะไรที่สำคัญ"