xs
xsm
sm
md
lg

“สองทศวรรษ ร้านตำรับไทย สมุนไพรไทย” ต้นแบบค้าปลีกสมุนไพรไทย เติบโตมั่นคง มุ่งมั่นพัฒนาสู่สากล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



>> “ร้านตำรับไทย สมุนไพรไทย” ร้านค้าปลีกสมุนไพรไทย ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยไว้มากที่สุดในประเทศไทย ก้าวสู่ปีที่ 20 อย่างมั่นคง สองทศวรรษไม่เคยหยุดพัฒนา ประกาศความสำเร็จเปิดไปแล้ว 120 สาขาทั่วประเทศ ได้รับการยอมรับทั้งจากภาครัฐและเอกชนให้เป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยวางรากฐานและเป็นต้นแบบวงการค้าปลีกสมุนไพรไทย ชูจุดแข็งด้านความปลอดภัยบนมาตรฐานความถูกต้อง ผนึกคู่ค้าเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นใจ ด้วยการเตรียมจดสิทธิบัตร 16 ประเทศทั่วโลก พร้อมร่วมสร้างสรรค์สังคมไทย และรับผิดชอบตอบแทนสังคมไทย ด้วยโครงการ “ชวน (ส่งรัก) กลับบ้าน สเปเชียลซีซั่น” และ โครงการ “ตำรับไทย ปั้น SME ไทย” และเตรียมเปิดศูนย์เรียนรู้ เพื่อให้ความรู้เรื่องสมุนไพรไทยอย่างถูกต้อง ควบคู่ไปกับเปิดร้านอาหารสมุนไพรไทย และเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง วางเป้าเปิดครบ 130 สาขา ในปี 2564 และ 300 สาขาในอีก 3 ปี


มหาคุณ เทพสุทิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตำรับไทย สมุนไพร จำกัด เล่าย้อนการก่อกำเนิด “ร้านตำรับไทย สมุนไพร่ไทย” ว่า “กว่าจะเดินมาถึงปีที่ 20 เราได้สั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เพื่อขับเคลื่อนร้านตำรับไทย สมุนไพรไทย โดยเริ่มต้นเป็นเพียงร้านเล็กๆ ซึ่งก่อตั้งขึ้นตอนอายุ 18 ปี จนมีการแตกกิ่งก้านสาขา ซึ่งเปิดไปแล้ว 120 สาขา ด้วยวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่น จึงทำให้ร้านตำรับไทย สมุนไพรไทย เป็นร้านสมุนไพรไทยเพื่อคนไทย ที่ได้รับการยอมรับสูงในปัจจุบัน ทั้งจากผู้บริโภคและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง”


มหาคุณกล่าวต่อไปว่า เมื่อเริ่มต้นธุรกิจการตอบรับยังไม่เป็นไปตามคาดหวังมากนัก แต่เมื่อเรายืนหยัดที่จะพัฒนาธุรกิจโดยมุ่งหวังที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้คนไทย สถานการณ์ก็เริ่มเปลี่ยนไป ในวันที่ก่อตั้งร้านตำรับไทย สมุนไพรไทย วันแรกจนถึงวันนี้หลายอย่างเปลี่ยนไปมาก จากเมื่อ 20 ปีที่แล้วที่คนยอมรับและเปิดใจกับสมุนไพรไทยกันน้อย โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยและมาตรฐานความถูกต้อง กลายเป็นคนไทยรับเอาสมุนไพรไทยมาเป็นเรื่องใกล้ตัว เปิดใจกับการใช้สมุนไพรไทยกันมากขึ้น เห็นคุณค่าของสมุนไพรไทย ไม่แพ้ของต่างชาติ

มหาคุณเผยด้วยว่า สำหรับปีที่ผ่านมาแม้สถานการณ์ในประเทศอาจจะดูไม่เอื้ออำนวยในการเติบโตด้านเศรษฐกิจมากนัก แต่ร้านตำรับไทย สมุนไพรไทย ได้เข้ามามีส่วนช่วยดูแลสุขภาพคนไทย ส่งผลให้มียอดขายเติบโตขึ้นในเกณฑ์ที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทยาฟ้าทะลายโจร ซึ่งจากเดิมเป็นเพียงสินค้า 1% จากกว่า 9,000 รายการที่จัดจำหน่ายในร้านตำรับไทย สมุนไพรไทย แต่ได้รับความสนใจทำให้ผลิตภัณฑ์จากฟ้าทะลายโจรมียอดขายเติบโตขึ้นมากกว่า 10 เท่า ส่งผลให้ภาพรวมมูลค่าทางการตลาดปี 2563 ของผลิตภัณฑ์จากฟ้าทะลายโจร โตขึ้น 6% หรือคิดเป็นมูลค่า 22.8 ล้านบาท



“ในโอกาสที่ดำเนินธุรกิจมาครบ 20 ปี ร้านตำรับไทย สมุนไพรไทย ประจักษ์พยานความสำเร็จ ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือ จำนวนสาขาของเราที่เติบโตอย่างมั่นคง โดยล่าสุดมีถึง 120 สาขา ทั่วประเทศ และตั้งเป้าขยายสาขาให้ถึง 130 สาขาในปี 2564 นี้ ส่วนระยะไกลออกไป เราวางเป้าหมายที่จะเปิดให้ครบ 300 สาขาในประเทศไทย ใน 3 ปี ในฐานะร้านค้าปลีกสมุนไพรไทย ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ไว้มากที่สุดในประเทศไทย และยังมุ่งก้าวต่อไปในระดับสากล ซึ่งจากการสำรวจตลาด ในต่างประเทศพบว่า ยังไม่มีร้านไหนที่รวมสินค้าสมุนไพรไทยไว้โดยเฉพาะ คาดว่าเมื่อเปิดตลาดจะสร้างมูลค่าทางการตลาดได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท”

มหาคุณยังเล่าถึงแผนการตลาดเชิงรุกว่า ได้เตรียมจะเปิดศูนย์การเรียนรู้เพื่อให้ความรู้เรื่องสมุนไพรไทย โดยจับมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ให้ความสนับสนุนองค์ความรู้ ซึ่งศูนย์การเรียนรู้นี้จะทำให้ลูกค้ารู้จักการดูแลตัวเองด้วยสมุนไพรไทย และร้านตำรับไทย สมุนไพรไทยมากขึ้น “ร้านเรามีความพร้อมด้านแพทย์แผนไทย ที่มีใบประกอบวิชาชีพโดยเฉพาะ มีความรู้ความเชี่ยวชาญ แนะนำการใช้สมุนไพรไทยที่สั่งสมมากว่า 20 ปี ถือว่าเราเป็นเจ้าเดียวที่มีแพทย์แผนไทยประจำอยู่ทุกสาขา จึงเป็นร้านค้าปลีกสมุนไพรไทยที่รวบรวมแพทย์แผนไทยไว้มากที่สุดในประเทศไทย ฉะนั้น ด้วยความพร้อมเราจึงตั้งใจจะสร้างศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรไทยขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ และทำให้ลูกค้ารู้จักร้านเรามากขึ้น โดยระหว่างนี้ได้เริ่มเผยแพร่ความรู้ผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจของร้านตำรับไทย ทั้งบทความและคลิปวิดีโอรายการ “ตำรับไทยน่ารู้ คู่หูสมุนไพร” ให้ความรู้เรื่องสมุนไทยแบบเข้าใจง่าย เข้าถึงง่าย และ “รายการหมอยาพาเข้าครัว” วาไรตี้ สอนการประกอบอาหารที่มีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบ รวมทั้งให้ความรู้เรื่องการใช้สมุนไพรไทยผ่านนิตยสารของสายการบินภายในประเทศอีกด้วย”



และอีกหนึ่งในแผนของเรา คือ การทำร้านอาหารโดยนำสมุนไพรไทยมาประกอบอาหาร ด้วยคอนเซ็ปต์การกินอาหารไปพร้อมสมุนไพร เพื่อให้ได้รับภูมิต้านทาน เราคิดไว้เพราะยังไม่มีใครทำเรื่องนี้จริงจัง ตัวอย่าง เมนู อาทิ เมี่ยงกลีบบัว น้ำเกษรบัว ผัดฉ่าปลาซู่ซ่า โดยทุกเมนูจะใส่เครื่องเคียงสมุนไพร เป็นเมนูที่เราสร้างสรรค์เอง เชฟของเราก็เป็นแพทย์แผนไทย ซึ่งมีความรู้และเชี่ยวชาญด้านสมุนไพรไทย แม้ว่าจะมีคนทำคล้ายเรา แต่เราเชื่อมั่นว่าแตกต่างด้วยการใช้สมุนไพรไทยที่คัดสรรคุณสมบัติมาอย่างดี โดยตั้งใจจะให้เป็นร้านอาหารไทยสไตล์โมเดิร์น บริการร้านอาหารไทยแท้ โดยคาดว่าหากสภาะวิกฤติโควิดคลี่คลายภายในปีนี้ จะได้เห็นร้านของเราในเวลาไม่เกิน 2 ปี และเรายังมีโครงการปั้น เวลเนสสปา ที่เชี่ยวชาญการใช้สมุนไพร ซึ่งแผนเดิมนั้นจะเริ่มใน 1-2 ปีนี้ แต่ต้องประเมินสถานการณ์ จากจุดแข็งที่ทั้ง 120 สาขา เรามีสมาชิกที่เป็นแบรนด์รอยัลตี้จำนวนมาก จะช่วยให้ธุรกิจนี้ไปได้ดีแน่นอน ที่สำคัญเรามีความพร้อมเรื่องแพทย์แผนไทย ที่มีมากถึง 150 คน และทุกคนมีใบประกอบโรคศิลป์ที่ได้มาตรฐานเชื่อถือได้

เมื่อถามถึงปัจจัยที่ช่วยให้การดำเนินธุรกิจเติบโตมั่นคงแข็งแรงนั้น มหาคุณเผยว่า “ในยุคที่สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ร้านตำรับไทย สมุนไพรไทย มุ่งมั่นอยู่เคียงข้างคนไทย ด้วยการขยายสาขาต่อเนื่อง เรามีแพทย์แผนไทยที่มีใบประกอบวิชาชีพประจำทุกสาขา มีสินค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอยู่ตลอด เพื่อตอบรับเทรนด์การรักสุขภาพ หมั่นตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่จัดจำหน่าย และจัดอบรมพนักงานทุกเดือน เพื่อรักษามาตรฐานการให้บริการ เราทำทุกอย่างนี้ ให้คนไทยมั่นใจได้ว่า สินค้าสมุนไพรไทยของไทย ปลอดภัย ใช้ดี และเหมาะกับคนไทยทุกคน”

“ในปี 2564 นอกจากเราจะมุ่งสร้างความมั่นใจให้แก่คนไทยแล้ว เรายังสร้างความมั่นใจให้แก่คู่ค้า ด้วยการเดินหน้าจดสิทธิบัตรในต่างประเทศ โดยมีเป้าหมาย 16 ประเทศทั่วโลก อาทิ เวียดนาม อเมริกา จีน บรูไน พร้อมสร้างสรรค์สังคมไทย ด้วยการจัดโครงการรับผิดชอบต่อสังคม ในโครงการชวน (ส่งรัก) กลับบ้าน สเปเชียล ซีซั่น และโครงการตำรับไทย ปั้น SME ไทย โดยปั้นรายใหม่ ให้ความรู้ผู้ประกอบการที่สนใจ จะมาเป็นผู้จำหน่ายสมุนไพรไทย ควรรอบรู้เรื่องใด โดยให้คำแนะนำตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำ รวมถึงปูทางการดำเนินธุรกิจให้มีความมั่นคง โปร่งใส และเติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย” มหาคุณกล่าวทิ้งท้าย





กำลังโหลดความคิดเห็น