รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.รับทราบรายงานสาธารณสุข แจง กรรมาธิการฯมาตรการรับมือโควิด-19 พร้อมดำเนินมาตรการที่สอดคล้องกับหลักการ
วันนี้ (23 ก.พ.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติเรื่องการศึกษามาตรการป้องกันการเกิดโรคระบาดหรือโรคติดต่อในประเทศไทย ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้มีข้อสังเกตที่สำคัญเช่น การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย การควบคุมราคาสินค้าผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ การเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับหากเกิดการระบาดระลอกใหม่ในอนาคต การส่งเสริมและกระตุ้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเกี่ยวกับสุขอนามัยในโรงเรียน การศึกษาวิจัยการใช้สมุนไพรไทยที่มีโอกาสใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รวมถึงการกำหนดแผนดำเนินการตามมาตรการด้านการป้องกันและการดูแลตนเองจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้มีความรัดกุมและมีมาตรฐาน
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีคำสั่งให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักรับหลักการและข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเมื่อพิจารณาแล้วมีความเห็นว่ารายงานฉบับดังกล่าวมีเนื้อหาสาระที่มีความถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 เช่น การยกระดับอนามัยส่วนบุคคล การสร้างความรอบรู้ในการดูแลสุขภาพตนเอง การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย เวชภัณฑ์ และทรัพยากรทางสาธารณสุข การพัฒนาฐานข้อมูลและแอปพลิเคชันเพื่อการเฝ้าระวังและติดตามกลุ่มเสี่ยงหรือผู้สัมผัสโรค การดูแลสุขภาพและภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ และการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มนักเรียนชั้นประถมศึกษา ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขจะได้นำไปพิจารณาในรายละเอียดร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปกำหนดเป็นนโยบายและแนวปฏิบัติต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้พิจารณาดำเนินการมาตรการต่างๆ เพิ่มเติม ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้ระบุไว้ในรายงานฉบับนี้อย่างชัดเจน แต่ก็มีความสอดคล้องกับหลักการหรือข้อสังเกตหลายประเด็น เช่น มาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศที่มีการระบาดต่ำมากโดยจะมีการลดระยะเวลาในการกักตัวให้สั้นลง แต่ยังคงระบบคัดกรองอย่างเข้มข้น และมีระบบกำกับติดตามนักท่องเที่ยวอย่างรัดกุม การเร่งกระบวนการศึกษาทดลองวัคซีนด้วยกระบวนการบริหารจัดการโครงการวิจัยที่มีประสิทธิภาพโดยสถาบันแห่งชาติและภาคี เพื่อให้ได้ผลการศึกษาที่มีความถูกต้อง และการปรับรูปแบบการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาด องค์ความรู้ และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป