เรื่องเงินๆ ทองๆ กำลังเข้ามาเป็นตัวปัญหา ขวางกั้นพิธีวิวาห์ระหว่างเจ้าหญิงมาโกะ พระธิดาในเจ้าฟ้าชายอากิชิโนะแห่งญี่ปุ่น กับแฟนหนุ่มสามัญชน เคอิ โคมูโระ โดยเสด็จพ่อรัชทายาทแห่งราชวงศ์เบญจมาศ ทรงมีรับสั่งให้พระธิดาตรองดูอีกทีว่าพระองค์จะสามารถละทิ้งฐานันดรศักดิ์ไปใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชนคนธรรมดาได้จริงๆ หรือไม่ ในขณะที่มีข่าวเรื่องว่าที่สามีหนี้สินล้นพ้นตัว
เจ้าฟ้าชายอากิชิโนะ ทรงออกมาแสดงความห่วงใย และมีรับสั่งให้พระธิดาไปไตร่ตรองเรื่องการแต่งงานให้ดีอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หากเป็นสิ่งที่เจ้าหญิงมาโกะทรงมีพระประสงค์จริงๆ พระองค์ก็จะไม่ทรงขัดขวาง แต่ก็ทรงบอกให้พระธิดานึกถึงความคาดหวังของพสกนิกรเอาไว้ด้วย
เจ้าหญิงมาโกะ และเคอิ ประกาศหมั้นหมายกันมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2018 และตั้งใจจะจัดพิธีวิวาห์ในเดือนกุมภาพันธ์ปีถัดมา แต่ก็ถูกเลื่อนมาเรื่อยๆ
ลือกันว่า มาจากข้อพิพาทเรื่องเงินจำนวน 4 ล้านเยน ระหว่างมารดาของเคอิกับสามีเก่าของเธอ โดยเขาให้เธอยืมเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อเป็นค่าเรียนมหาวิทยาลัยของเคอิ แต่แม่ว่าที่สามีเจ้าหญิงมาโกะเข้าใจว่า เป็นการให้เพราะพิศวาส ทำให้ไม่มีความคิดจะใช้คืน
เจ้าฟ้าชายอากิชิโนะ และเจ้าฟ้าหญิงกิโกะ พระชายา ทรงพบปะสนทนากับมารดาของเคอิ โคมูโระบ่อยครั้ง แต่ทั้งสองพระองค์ก็ไม่ทรงวางพระทัย ที่จะให้พระธิดาต้องออกเรือนไปอย่างไม่เหมาะสม
แม้ว่าจะไม่มีกรณีเงิน 4 ล้านเยนนี้ ทว่า อนาคตของเจ้าหญิงมาโกะก็ยังคงน่าเป็นห่วงอยู่ดีในสายพระเนตรของทั้งสองพระองค์ ด้วยกฎมณเฑียรบาลของญี่ปุ่นที่หากเชื้อพระวงศ์สตรีแต่งงานกับสามัญชนก็จะต้องทรงละทิ้งฐานันดรศักดิ์ไปทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง
ถึงแม้สำนักราชวังญี่ปุ่นจะมีเงินทุนให้ก้อนหนึ่ง (ราว 150 ล้านเยน) แต่เจ้าหญิงต้องนำไปซื้อบ้านอยู่เอง ในประเทศที่บ้านราคาแพงที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง แล้วชีวิตที่เหลือจะไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่
“จริงๆ แล้ว ก็เป็นเงินจำนวนมากพอสมควร แต่เมื่อพูดถึงยุคสมัยนี้แล้วก็ไม่มากเท่าไหร่” จุน โอคูมูระ นักวิเคราะห์จากสถาบันเมจิบอกว่า สมัยที่เจ้าหญิงอายาโกะ และเจ้าหญิงโนริโกะ พระธิดาในเจ้าชายทาคามาโดะแต่งกับสามัญชนไปเมื่อปี 2014 และ 2018 ก็ได้เงินทุนจำนวนเท่ากันนี้ เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่เจ้าหญิงซายาโกะ พระขนิษฐาของสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ปัจจุบัน แต่งกับสามัญชนไปเมื่อปี 2005
ย้อนไปในทุกๆ ครั้งที่มีกรณีเจ้าหญิงญี่ปุ่นตัดสินใจละทิ้งฐานันดรศักดิ์เพื่อที่จะไปแต่งงานกับสามัญชน ปัญหาด้านการเงินก็ได้มีการหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นทุกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้อาจด้วยเพราะข่าวลือเรื่องหนี้สิน 4 ล้านเยนดังกล่าวด้วยที่นำเข้าผสมปนเปกันไปอีก
เคอิ ในวัย 29 ซึ่งพบรักกับเจ้าหญิงมาโกะที่มหาวิทยาลัยโตเกียว ก่อนที่เขาจะเพิ่งบินไปศึกษาทางด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮม ในนิวยอร์ก สหรัฐฯ หลังจากเพิ่งเริ่มทำงานในตำแหน่งเล็กๆ ของสำนักงานกฎหมายได้เพียงไม่นาน
ดูเหมือนหน้าที่การงานและฐานะการเงินของเคอิจะยังไม่ค่อยมั่นคงเอาเลย นอกจากนี้ยังพวกความกดดันในฐานะที่เป็นพระคู่หมั้นของพระธิดาเจ้าชายรัชทายาทของญี่ปุ่นเข้าไปอีก
“ถ้าจะให้ดี เคอิ จะต้องรับทำงานหาประสบการณ์ในสำนักงานกฎหมายที่อเมริกาก่อนสัก 3-4 ปี ถึงจะเหมาะที่จะกลับมาทำงานแบบมีหน้ามีตาที่ญี่ปุ่น” นักวิเคราะห์จากสถาบันเมจิคนเดิมบอกว่า หากเขาตัดสินใจเช่นนั้นก็ถือว่าเป็นการดีต่อเจ้าหญิงมาโกะ ที่แต่งงานแล้วจะได้หลบไปมีชีวิตแบบไม่ต้องมีสื่อขาเมาท์ชาวญี่ปุ่นมาตามทำข่าว แต่เจ้าหญิงอาจจะต้องเสี่ยงชีวิตหากไม่จ่ายเงินจ้างบอดี้การ์ด เพราะในอดีตเจ้าหญิงซูกะ เคยถูกลักพาตัวมาแล้ว
คำตอบสุดท้ายอยู่ที่ตัวเจ้าหญิงมาโกะเอง ว่าจะทรงเลือกแบบไหน?