“น้ำชา” ตั้งโต๊ะแถลงแค่อยากเตือนภัยประชาชน ย้ำมีการลักพาตัวเกิดขึ้นจริง ยันได้รีเช็กข้อมูลมาอย่างดีแล้วก่อนโพสต์ มองเป็นเรื่องด่วนที่ตนควรจะเตือนประชาชน มากกว่ามานั่งคิดว่าโพสต์ไปแล้วจะมีผลอะไรกลับมา หลอนไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเพราะกลัวมาก และตนไม่ใช่โคนันที่ต้องตามสืบคดีต่อ
หลังจากที่เมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) “น้ำชา ชีรณัฐ ยูสานนท์” ได้โพสต์เตือนภัยเกี่ยวกับการลักพาตัวใจกลางเมืองแบบกลางวันแสกๆ ย่านทองหล่อลงในอินสตาแกรมของตนเอง โดยมีเนื้อหาว่า... “การ์ดคอนโดในซอยสุขุมวิท 39 (ซอยพร้อมจิต) ให้การว่า ตอนนี้มีหญิงสาวชาวต่างชาติถูกลักพาตัวไปจากถนนซอย 49, 39, 31 ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ระหว่างรอรถริมถนนบนฟุตปาท
สายข่าวกล่าวว่า ตำรวจกำลังขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากอาคารและคอนโดรอบๆ และเห็นรถคันหนึ่งขับวนไปมา รอช่วงจังหวะที่ไม่มีคนและดึงผู้หญิงเข้าไปในรถ ณ ตอนนี้มีหญิงสาวหายตัวไปแล้ว 4 คน เคสล่าสุดคือ 4 โมงเย็นเมื่อวาน (7 ธ.ค.) ความขนลุกคือคนร้ายปฏิบัติการตอนกลางวันแสกๆ 4 โมงเย็น
ตำรวจกำลังสืบสวนคดีนี้อยู่แต่ข่าวนี้ไม่ได้รับความสนใจจากสื่อเป็นอย่างมาก ยามคอนโดต่างๆ ในบริเวณนั้นกังวลใจเรื่องนี้มาก จึงอยากฝากสังคมและชาวเน็ตช่วยกันแชร์เรื่องนี้ด้วย
ถ้ามันเกิดขึ้นบนถนนสุขุมวิทกลางวันแสกๆ ได้ มันก็เกิดขึ้นทุกที่ในประเทศไทยได้” ทำให้คนในวงการบันเทิงเข้ามาคอมเมนต์แล้วก็แชร์ต่อมากมาย
ล่าสุดวันนี้ (9 ธ.ค.) ทางตำรวจก็ได้ออกมาแถลงข่าวว่าข้อมูลที่สาวน้ำชาโพสต์ออกไปนั้นมีการบิดเบือน เข้าใจคลาดเคลื่อน โดยระบุว่ามีเหตุลักพาตัวเกิดขึ้นจริง แต่เป็นผู้ชายเพียง 1 คน คือ นายเฉิน เล่ย หรือ ลูคัส อายุ 43 ปี สัญชาติจีน อาชีพนักธุรกิจ ถูกอุ้มหายตัวไปจาก ซอยสุขุมวิท 39 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2563 ซึ่งกลุ่มคนร้ายได้ติดต่อเรียกเงินค่าไถ่ 15 ล้านบาท
ส่วนน้ำชาโพสต์ในอินสตาแกรมว่ามีผู้หญิงถูกลักพาตัว 4 คน บริเวณสุขุมวิท 39 วันที่ 8 ธันวาคม ไม่เป็นความจริง น่าจะเป็นการสื่อสารข้อมูลผิดพลาด เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม และสืบสวนขยายผลจนจับกุมกลุ่มคนร้ายดังกล่าวได้ภายในวันที่ 8 ธันวาคม วันเดียวกับที่ดาราสาวนำเสนอข้อมูล
ซึ่งต่อมาน้ำชาก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงถึงเรื่องนี้ โดยเผยว่าตนขอเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนเตือยภัยว่ามีการลักพาตัวเกิดขึ้นจริง แต่เป็นผู้ชาย ซึ่งที่ตนโพสต์ไปแค่หวังดีอยากจะเตือนเพื่อนผู้หญิง เลยเขียนไปว่าเป็นผู้หญิง
“ข้อมูลได้มาจากเว็บไซต์นึงนะคะ ที่เป็นเว็บไซต์ที่คนต่างประเทศเขาเขียน เป็นบทความภาษาอังกฤษแล้วเราก็แปลมาอีกทีนึง แปลตามนั้นเลย แล้วพออ่าน เราเป็นผู้หญิงก็ตกใจ ทุกคนต้องตกใจ เราก็ตกใจ อยู่ๆ มาโดนอุ้มตอนกลางวันแสกๆ เราก็เลยโพสต์เพื่อที่จะเตือนให้ประชาชนทุกคนระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เด็ก คนแก่ อะไรก็แล้วแต่ (เว็บไซต์นั้นมีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน?) เราก็เป็นประชาชนคนนึง เราได้อ่านแล้วตกใจ ก็เลยแชร์ไปเป็นอุทาหรณ์ ให้ทุกคนระวังตัว ไม่ประมาทเท่านั้นเอง
ชาได้ไปปรึกษาพูดคุยกับเพื่อนตำรวจ แหล่งข่าวจากเพื่อนตำรวจ มันเป็นเหตุการณ์ที่ค่อนข้างจะวงใน เราก็เลยโพสต์ไป ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็อยากจะช่วยคนที่โดนอุ้ม และเตือนประชาชนที่ใช้ชีวิตแบบไม่ระมัดระวัง มันก็คือมีการลักพาตัว”
เผยเพื่อนตำรวจยืนยันว่ามีการลักพาตัวเกิดขึ้นจริง และยินดีให้ตนช่วยเป็นกระบอกเสียงกระจายข่าว
“ใช่ค่ะ แต่พอได้อ่านข่าวที่นำมากระพือต่อ และมาจากทาง สน.อะไรด้วย จริงๆ คนที่โดนอุ้มเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิงซึ่งอันนี้อาจจะเป็นข้อความ คือชาไม่รู้นะ อันที่ชาโพสต์เป็นอีกคดีนึง ชาก็ไม่รู้ คือชาเป็นแค่ประชาชนที่นำมาโพสต์ต่อ เพื่อเตือนทุกๆ คน เรื่องนี้ชาไม่ได้อะไรเลยทั้งสิ้น ชามีแต่หวังดี กับประชาชนเท่านั้นเอง
เหตุการณ์จริงคือผู้ชาย แต่ที่ชาเตือนคือผู้หญิง เพราะฉะนั้นถ้าคิดกลับกันมันน่ากลัวกว่าไหม ผู้ชายยังโดนหิ้วเลย แล้วผู้หญิงจะขนาดไหน ชามองว่ามันก็น่าคิดเหมือนกันเรื่องนี้ ตำรวจก็คือเพื่อนชา พอชาโพสต์เขาก็บอกว่าดีแล้วได้ช่วย เพราะชาก็ถือเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงเท่านั้นเองไม่ได้มีอะไร”
ไม่ทราบว่าหากตนโพสต์ข้อมูลการลักพาตัวไปจะทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ชีวิตหรือมีอันตรายได้ ลั่นตนก็อยู่ในจุดที่เสี่ยงเช่นกันในการนำข้อมูลมาเผยแพร่
“ชาไม่ได้ทราบค่ะ แต่ชาแค่โพสต์เพื่อเตือนทุกๆ คน ต่อให้ชาโพสต์หรือไม่โพสต์ ก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับเหยื่อ หรือถ้าชาโพสต์ก็ไม่รู้อีกเช่นกัน เขาอาจจะปล่อยเลยก็ได้ คือทุกอย่างมันเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ทั้งนั้น (เป็นการสุ่มเสี่ยงไหมในการโพสต์ข้อมูลนี้?) ชานี่แหละเสี่ยง (หัวเราะ) นี่ยังนอยด์ยังหลอนอยู่เลย คนที่เสี่ยงก็คือชา เพราะชาคือคนออกหน้าทั้งหมด
มันเสี่ยงแต่ชามองว่าชาขอออกไปเตือนคนดีกว่า เพราะทุกวันนี้ชาเชื่อว่ามีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมเยอะมาก ที่ไม่เป็นช่าว คนหายตัวไปอย่างที่ไม่มีเหตุผล ซึ่งอันนี้มันไม่มีใครกล้าออกมาพูด และชาก็ทราบสาเหตุว่าทำไมถึงไม่กล้าออกมาพูด ชารู้สึกว่าอย่างน้อยชาก็เป็นประชาชนคนนึงที่เป็นหูเป็นตาให้กับทุกคน เป็นคนสาธารณะที่น่าจะช่วยอะไรได้บ้าง”
ไม่ทราบข้อมูลที่ตนโพสต์เป็นคดีลักพาตัวนักธุรกิจจีนคดีเดียวกับที่ทางตำรวจออกมาแถลงข่าวหรือไม่ ย้ำเรื่องจริงคือมีคนโดนอุ้ม
“ชาไม่ทราบค่ะ ชาเป็นแค่ประชาชนที่นำออกมาโพสต์เพื่อเตือนทุกคนเท่านั้นเอง ชาไม่ทราบว่ามันมีอีกคดีไหม อย่างที่ชารีเช็กกับเพื่อนตำรวจมันก็ใช่ตามนั้นค่ะ เรื่องจริงก็คือคนโดนอุ้มถูกไหมคะ มันก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่ว่าอะไรที่มันบิดเบือนอะไรก็แล้วแต่ อันนี้ชาขอให้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแล้วกันว่ามันยังไงค่ะ”
ไม่ตอบหวั่งตำรวจจะมีการดำเนินคดีกลับไหมให้ข้อมูลมันบิดเบือน ลั่นตนหวังดีกับประชาชนจึงแจ้งเตือนประชาชน
“ออกมาเตือนก็ถือว่าชาได้ช่วยทุกคน ทุกคนที่ดูอยู่ตรงนี้ ทุกคนที่ออกไปเดินตามถนน ใครก็แล้วแต่ ชาถือว่าชาได้ทำหน้าที่ของชา แต่ว่าถ้าจะไปทำให้ฝั่งอื่นฝั่งใดที่เดือดร้อนชาก็ขออภัยด้วยค่ะ ชาไม่ได้ตั้งใจแต่ว่าที่ชาทำเพราะเจตนาดีทั้งนั้น คือต้องการออกมาเตือนประชาชนเท่านั้นเอง
ชาหวังดี คือชารู้สึกว่าพอชาได้ข่าวนี้มาเหมือนชาเป็นผู้ยืนดูให้เขาโดนอุ้มไป แล้วไม่เอาไปแจ้งความหรือไม่ไปบอกต่อให้คนอื่นระวัง แต่พอชาเห็นปุ๊บ ชาต้องการให้เขาได้รับความช่วยเหลือ คือพอรู้ปุ๊บ ทำปั๊บ โดนอุ้ม ขณะนั้นแล้ว ต้องมานั่งรออีกไหม ต้องผ่านไปกี่วัน ต้องรอให้เขาเสียชีวิตไปเลยเหรอ หรือต้องมีเหยื่อรายต่อไปเกิดขึ้นเหรอ ต้องรออีกกี่วัน มันต้องอีกวัน”
หลังจากเกิดเหตุการณ์ได้คุยกับเพื่อนตำรวจ ซึ่งข้อมูลที่ตนได้มาจากเว็บไซต์ก็ถูกลบหายไปแล้ว
“ก็มีการคุยค่ะ แต่บิดเบือนไหมก็ต้องเอามาจากแหล่งข่าวที่ชาเอามาอีกทีนึง ซึ่งเป็นข้อความที่มีอยู่จริง ซึ่งตอนนี้เปิดไปก็คือโดนบล็อกไปแล้ว ข้อความที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดโดนบล็อกไปแล้ว (มันแปลกๆไหม ทำไมโดนบล็อกไป ทางตำรวจแถลงว่าเราอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือเปล่า คิดว่ามีอะไรมากกว่านี้ไหม?) ชาไม่ทราบ ชาขอไม่ออกความเห็นดีกว่า
อย่างที่ชาบอกว่ามันอาจจะมีอีกคดีก็ได้ที่เรายังไม่รู้ แต่เป็นสิ่งที่ชาเอามาจากข้อความที่ฝรั่งเขาเขียนกันค่ะ ข้อมูลที่ชาได้มาเป็นแหล่งข่าวที่ฝรั่งเขาเขียน ก่อนที่คนไทยจะมาเขียนกันเอง เพราะว่าข่าวนี้มันพาดพิงถึงชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นไทยหรือฝรั่งก็คือคนๆ นึงที่โดนอุ้มไปมันเป็นเรื่องที่น่าคอนเซิร์น”
ย้ำตนได้มีการตรวจสอบเช็กข้อมูลอย่างถ้วนถี่แล้วก่อนโพสต์เตือนภัย
“ก็มีนะคะ แต่ถึงยังไงนะสิ่งที่ชาโพสต์ไป ประชาชนมีแต่ได้กับได้ เขาได้ระมัดระวังตัวมากขึ้น ต่อให้จะบิดเบือนหรือไม่บิดเบือน แต่สิ่งที่ชาโพสต์ไปเป็นการเตือนให้ทุกคนระวัง เหมือนเตือนให้เขาอย่าหกล้มก่อนที่เขาจะหกล้ม ซึ่งมันมีแต่ผลดี แล้วสิ่งที่ชาได้ชาเสี่ยงด้วยซ้ำที่มาอยู่ที่นี่ตอนนี้ แต่ชารู้สึกว่าชาเป็นประชาชนคนนึงที่ต้องปฎิบัติหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้กับทุกคนเท่านั้นเอง (เราได้รีเช็กกับการ์ดของคอนโดนั้นก่อนไหมว่ามีการอุ้มเกิดขึ้นจริง?) ไม่ขนาดนั้นค่ะ ชาไม่ใช่ตำรวจที่ต้องไปสืบสวนสอบสวน หน้าที่นั้นคือหน้าที่ที่เกินขอบเขตของประชาชนอย่างชา คงไม่ขนาดนั้น”
เผยข้อความย่อหน้าแรกที่ตนโพสต์เอามาจากเว็บไซต์ต่างประเทศ
“ใช่ค่ะ แปลมาจากภาษาอังกฤษหมดเลย มันเป็นเว็บที่ฝรั่งเขียนกัน ชาขอไม่เอ่ยชื่อ เหมือนว่าโดนลบออกไปแล้ว เป็นเว็บคอมมูนิตี้กลุ่มนักท่องเที่ยว ก่อนโพสต์ชาไม่ได้เช็กกับทาง สน.ทองหล่อก่อน อย่างที่บอกชาไม่ได้ต้องการที่จะขุดคุ้ย ชาไม่ได้มีเวลามาสืบสวนสอบสวน ชาไม่ใช่โคนัน ชาก็มีอะไรที่ชาต้องทำเหมือนกัน สิ่งที่ชาทำได้ตอนนั้นคือเตือนทุกคน นี่คือทางที่ชาจะทำได้”
มองเป็นเรื่องด่วนที่ตนควรจะเตือนประชาชน มากกว่ามานั่งคิดว่าหากตนโพสต์ไปแล้วจะมีผลอะไรกับตนกลับมาบ้าง
“รีเช็กก็ต้องรีเช็ก ชาว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องด่วนที่ชาต้องโพสต์เตือน ต่อให้จะบิดเบือนเล็กน้อย แต่มัน แต่โอเคถ้ามันไม่ได้มีเค้าข้อมูลจริง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่นี่มันคือโดนอุ้มจริงๆ แล้วมันก็เกิดขึ้นจริงๆ ชาไม่ได้ว่างแล้วมานั่งปั้นเรื่อง หลังจากนี้ชาก็ต้องระมัดระวังตัวเอง ก็มีความหลอนเหมือนกัน อย่างที่ทุกคนอ่านจากชาก็หลอน แต่ชาหลอนกว่านะเพราะชาออกหน้าเต็มๆ
เบสิกไม่ว่าชาหรือคนที่ดูอยู่ คือแค่อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่ว่าจะกลางคืนหรือกลางวันก็ต้องระวังตัว ไปในที่ที่มีคนพลุกพล่านดีกว่าไปอยู่ในที่ที่ไม่มีคน”
ทางตำรวจสน.ทองหล่อ ได้ติดต่อมาหาตนแล้ว แต่ยังไม่ได้คุยรายละเอียด
“ค่ะ แต่ไม่ได้คุยลงรายละเอียด ทั้งนี้ทั้งนั้นชาจะบอกว่าอย่างทางพี่ๆ ตำรวจเขาก็ได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ชาไม่อยากให้มีใครไปคอมเมนต์ลบๆ เกี่ยวกับเขา คือเขาก็ทำหน้าที่ของเขาได้อย่างดีที่สุด ชาก็เป็นประชาชนที่ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้กับประชาชนทุกคน บวกกับเป็นคนของสาธารณะด้วย ซึ่งทุกคนได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด ไม่อยากให้มีการคอมเมนต์อะไรที่แรงหรือลบกับฝั่งใดฝั่งหนึ่ง
ชาขอพูดตรงนี้เลยแล้วกัน ก็เท่านั้นเองจริงๆ มันไม่ได้มีอะไร แค่โพสต์เตือนให้ทุกคนระวัง และหวังว่าทุกคนจะช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้ชาหรือเป็นหูเป็นตาให้กับประชาชนด้วยหลังจากนี้ รวมถึงตัวชาเองถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็จะได้ระวัง ก็เท่านั้น”
ฝากถึงประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กันและกัน ส่วนตนหลังจากนี้ไม่ขอยุ่งเรื่องนี้อีกแล้ว แค่นี้ก็กลัวมากแล้ว
“...(นิ่ง) ก็อยากฝากทุกๆ คนให้ระมัดระวังและช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับประชาชนรอบข้าง ครอบครัว เพื่อน คนรักทุกคน ช่วยกันเป็นกระบอกเสียงด้วยแล้วกันค่ะ อะไรที่เตือนได้ก็เตือนกัน
คือชาว่าประเด็นเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าชาพูดว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ประเด็นคือคนโดนอุ้ม อยากให้คนโฟกัสเรื่องนั้นมากกว่า แล้วเขาเป็นผู้ชาย เขายังโดนอุ้มแล้ว ผู้หญิงจะเป็นยังไง ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เรื่องผลประโยชน์ หรือการลักทรัพย์ ชาว่าอยากให้คิดตรงนี้มากกว่า หลังจากนี้ชาไม่ขอยุ่งเรื่องนี้แล้ว แค่นี้ก็กลัวแล้วค่ะ”