ราคาน้ำมันขยับในกรอบแคบๆ เมื่อวันพุธ (9 ธ.ค.) นักลงทุนชั่งน้ำหนักคลังปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของสหรัฐฯ กับแนวโน้มแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 อันรวดเร็วที่อาจช่วยฟื้นอุปสงค์ทางพลังงาน ปัจจัยหลังนี้ฉุดราคาทองคำลงแรง ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ ท่ามกลางภาวะชะงักงันของการเจรจาแพกเกจเยียวยาเศรษฐกิจในสภาคองเกรส
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 8 เซนต์ ปิดที่ 45.52 ดอลลาร์ ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 48.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันขยับลงราว 1% ในช่วงต้นของการซื้อขาย หลังข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (อีไอเอ) ระบุว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นถึง 15.2 ล้านบาร์เรล เป็น 503.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะลดลงราว 1.4 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม การเริ่มโครงการฉีดวัคซีนหมู่ในสหราชอาณาจักร และแนวโน้มที่สำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯจะอนุมัติวัคซีนตัวหนึ่งสำหรับใช้ในอเมริกา ช่วยดันตลาดน้ำมันขยับขึ้นในช่วงท้าย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยบรรดาเทาความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผลักนักลงทุนขายสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และฉุดราคาทองคำในวันพุธ (9 ธ.ค.) ปิดลบแรง แตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 36.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,838.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ (9 ธ.ค.) ปิดลบ นักลงทุนเริ่มท้อใจมากขึ้น ต่อภาวะหยุดชะงักของความคืบหน้าในการเจรจามาตรการเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 รอบใหม่ในสภาคองเกรส
ดาวโจนส์ ลดลง 105.07 จุด (0.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 30,068.81 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 29.43 จุด (0.79 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,672.82 จุด แนสแดค ลดลง 243.82 จุด (1.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,338.95 จุด
นักลงทุนตั้งความหวังไว้อย่างมากกับแพกเกจรอบใหม่สำหรับเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในขณะที่มาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดผลักผู้คนตกงานหลายล้านคน และทำระบบสาธารณสุขรองรับไม่ไหว
อย่างไรก็ตาม มิตช์ แม็คคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐสังกัดพรรครีพับลิกัน บอกว่า บรรดาสมาชิกรัฐสภายังคงหาทางบรรลุข้อตกลงแพ็คเกจเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ ในขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเตรียมลงมติรับรองร่างจัดสรรงบประมาณชั่วคราว 1 สัปดาห์ สำหรับเปิดทางให้มีเวลาเจรจาเพิ่มเติมเพื่อบรรลุข้อตกลง
แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และ แมคคอนเนลล์ แสดงความหวังว่า สภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ภายในวันที่ 11 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะเผชิญภาวะชัตดาวน์
เปโลซีและสตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้หารือกันเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9.16 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อวันอังคาร (8 ธ.ค.) อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการจัดสรรเงินช่วยเหลือรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยพรรคเดโมแครตต้องการให้มีการจัดสรรเงินสนับสนุนรัฐต่างๆ ในขณะที่พรรครีพับลิกันแสดงท่าทีคัดค้าน
(ที่มา: รอยเตอร์)