บ้านคือสิ่งที่หลอมรวมความสุข และมันคือชีวิตของผู้อยู่อาศัย เพราะบ้านไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ แต่ความสุขไม่ได้อยู่ที่ขนาดของบ้าน ขึ้นอยู่กับคนที่อยู่ร่วมกันภายในบ้านมากกว่า และวันนี้จะพามาเปิดบ้านแห่งรักของเซเลบสาวไซส์มินิ ทายาทกระทิงแดง “พลอย-ฐิติกุล อยู่วิทยา” ที่ล่าสุดกำลังจะมีเบบี๋ตัวน้อยๆ มาช่วยเติมเต็มความสุขให้เพิ่มขึ้นไปอีก
พลอยไม่ได้ให้ความสำคัญต่อขนาดของบ้านสักเท่าไหร่นัก แต่เธอให้ความสำคัญต่อคนที่อยู่ในบ้าน เธอบอกว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านแห่งรักของคนทั้งสอง คือตัวเธอกับสามี ที่ร่วมกันสร้างและออกแบบมาด้วยกัน แถมอีกไม่ช้าก็จะมีเจ้าตัวเล็กมาวิ่งเล่นในสนามหญ้าหน้าบ้านอีกคนหนึ่ง
ณ บ้านแห่งรัก 2 ชั้นที่ถูกออกแบบมาด้วยสไตล์โมเดิร์น ดีไซน์ทันสมัย รั้วรอบขอบชิดของบ้านเต็มไปด้วยความร่มรื่นเขียวขจีของต้นไม้นานาพรรณ ทั้งนอกบ้านและภายในบ้าน รวมถึงสนามหญ้าหน้าบ้าน ล้วนให้ความสบายตา แถมแต่ละมุมของบ้านล้วนถูกดีไซน์มาให้ทันสมัย สมกับบุคคลิกของเจ้าของบ้านอย่างแท้จริง
พลอยเล่าให้ฟังว่า บ้านหลังนี้ใช้เวลาก่อสร้างระยะเวลา 1 ปีครึ่ง แต่ที่นานกว่าการสร้างบ้านคือ การออกแบบบ้าน ซึ่งเธอและสามี (โอม วิมลรัตน์) ต่างช่วยกันดีไซน์และออกแบบจนออกมาเป็นบ้านหลังนี้ซึ่งใช้เวลากว่าหนึ่งปี
“บ้านหลังนี้เป็นสไตล์โมเดิร์น เพราะพลอยชอบบ้านสไตล์นี้อยู่แล้ว มันมีความทันสมัย และมีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ซึ่งพลอยกับสามีช่วยกันออกแบบ เพราะสามีเป็นวิศวกร จึงพอมีความสามารถในการวาดแบบบ้านอยู่บ้าง เราหาแบบจากนิตยสารบ้าง ดูว่าชอบแบบไหน และเอาความชอบส่วนตัวของเราทั้งสองมาหลอมรวมเป็นบ้านหลังนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องเน้นฟังก์ชันของพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านว่าเราจะกำหนดให้มีอะไรบ้าง เพราะเมื่อมันสร้างเสร็จแล้วทุกอย่างต้องลงตัวและไม่แออัดเกินไป”
พลอยเล่าต่อว่า พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านแต่ละมุมแต่ละห้องนั้น ล้วนเป็นมุมที่ตัวเธอเองและสามีเป็นผู้กำหนดและออกแบบขึ้นมาทั้งสิ้น
“ภายในบ้านของเราจะมีหลายมุมมาก ไม่ว่าจะเป็นห้องดนตรี อันเป็นห้องที่สามีโปรดปรานที่สุด เพราะในวันหยุดเขาก็จะเข้ามาเล่นดนตรีอยู่ในห้องนี้ ซึ่งมุมนี้เขาก็จะดีไซน์เอง ส่วนห้องน้ำ ห้องนอน รวมไปถึงมุมอื่นๆ ภายในบ้าน พลอยจะเป็นคนออกแบบเองเสียส่วนใหญ่ ซึ่งเราเป็นคนชอบแสงสีเขียวร่มรื่นของต้นไม้อยู่แล้ว ดังนั้นภายในบ้านก็จะจัดให้มีสวนหย่อมขนาดเล็ก มีต้นไม้สีเขียวอยู่ตรงกลางบ้าน ห้องน้ำก็จะเน้นโทนสีขาวล้วน เพราะให้ความสะอาดและสบายตาเมื่อเราก้าวเท้าเข้าห้องน้ำ”
เมื่อถามว่ามุมไหนของบ้านที่ชอบมากที่สุด เจ้าของบ้านคนสวยรีบตอบด้วยน้ำเสียงสดใสว่า “มุมชิงช้า” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณภายในสวนข้างบ้าน อันเป็นมุมที่เธอมักใช้เวลาอยู่ตรงนี้มากที่สุด เพื่อเฝ้ามองดูสิ่งที่ตัวเองรักค่อยๆ เติบโตอย่างมีความสุข
“มุมชิงช้านอกจากจะสามารถปรับเปลี่ยนมาเป็นมุมปิ้งย่างบาร์บีคิว เมื่อเพื่อนๆ มาที่บ้านได้แล้ว ในยามที่พลอยว่างก็จะไปนั่งที่ชิงช้าในสนามหญ้า เพื่อมองดูสุนัขที่เราเลี้ยงไว้วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน พลอยสามารถนั่งอยู่ตรงนี้ได้วันละเป็นชั่วโมงเลยนะคะ เพราะมันเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่เราได้เห็นสิ่งที่เรารักเขาวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนานภายในบ้านของเรา”
ด้วยความที่เป็นสาวนักเดินทาง แม้บ้านที่ออกแบบมาอาจไม่ได้แรงบันดาลใจมาจากการท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ แต่ภายในบ้านก็จะมีของที่ระลึกจากประเทศต่างๆ ที่เจ้าตัวซื้อมาก็ถูกนำมาเป็นของตกแต่งบ้านไว้ในแต่ละมุมเช่นกัน
“มีครั้งหนึ่งพลอยไปเที่ยวที่ประเทศแอฟริกา แล้วเจอหน้ากากแฟนซีจึงซื้อติดมือมาด้วย และตอนนี้เราก็นำหน้ากากแอฟริกามาตกแต่งภายในห้องรับแขก และของที่ระลึกอีกหลายชิ้นที่ซื้อมาจากต่างประเทศ เราก็นำมาตกแต่งไว้ที่ห้องลีฟวิ่งรูมนี้ด้วยเช่นกัน เพราะนอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ยังย้ำเตือนด้วยว่าเราไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง”
อีกหนึ่งมุมของบ้านที่เซเลบว่าที่คุณแม่ป้ายแดง กำลังวางแผนที่จะทำเพิ่มภายในรั้วบ้าน นอกจากห้องนอนของลูกแล้ว ก็ยังมีบ่อทราย ที่เจ้าตัววางแผนไว้ว่าจะให้ลูกรักมาเล่นทราย อันเป็นการเพิ่มทักษะให้แก่ลูกน้อยด้วย
“ห้องนอนของลูกเราทำไว้ตั้งแต่แรกของการสร้างบ้านแล้ว แต่เรื่องการทำสไลเดอร์ไว้ภายในบ้านยังไม่ได้คิดค่ะ เพราะตอนนี้พลอยวางแผนจะทำบ่อทรายที่อยู่ติดกับชิงช้าในสวนข้างบ้านเพิ่ม เพราะเด็กๆ จะได้เล่นบ่อทราย เพราะตามหลักการแพทย์ การเล่นทรายช่วยเสริมสร้างอารมณ์ จินตนาการ และมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่เขาทำ และยังช่วยทำให้ลูกใจเย็นได้อีกด้วย อันจะมีประโยชน์กับเขาเมื่อเติบโตขึ้น”
ว่าที่คุณแม่ป้ายแดงกล่าวปิดท้ายว่า บ้านไม่ใช่เป็นแค่เพียงที่หลบแดด หลบฝน หรืออาศัยพักผ่อนนอนหลับไปวันๆ เท่านั้น...แต่บ้านคือที่เก็บความรัก ความปรารถนาดี ความอบอุ่น และอีกมากมายที่ประเมินค่าไม่ได้