ซูเปอร์โมเดลยุค 90 อย่าง แอล แมคเฟอร์สัน เก็บความปลื้มเอาไว้คนเดียวไม่ไหว ต้องออกมาโพสต์อวดลูกชายสุดหล่อ ฟลินน์ บุสซง ที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบอสตันหมาดๆ โดยบอกว่าลูกของเธอเรียนจบสถาบันที่มีชื่อเสียงนี้ด้วยความสามารถของเขาเองล้วนๆ
คุณแม่ยังสวยวัย 56 แชร์ภาพสุดเอ็กซ์คลูซีฟของลูกชายคนโต อาร์ปัด ฟลินน์ อเล็กซานเดอร์ บุสซง หรือรู้จักกันสั้นๆ ในนาม ฟลินน์ บุสซง เนื่องในโอกาสเรียนจบมหาวิทยาลัย...
“ฟลินน์ที่รักของแม่ วันสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยแล้ว ยินดีด้วยกับชีวิตอันเจิดจรัสด้านวิชาการนะจ๊ะ เวลาผ่านไปเร็วมากเลย เหมือนเมื่อวานลูกยังเป็นเด็กผู้ชายอยู่หยกๆ เพิ่งจบไฮสกูลไปแป๊บๆ ก็จบมหา’ลัยซะแล้ว -- เราภูมิใจในตัวลูกมาก ที่ได้เห็นลูกเติบโตขึ้นมาเป็นชายหนุ่มที่งามสง่าและมีอารมณ์ขัน”
แอล ยังแท็กไปที่อินสตาแกรมของฟลินน์ด้วยว่า “@cyfly08 ลูกเรียบจนได้ด้วยความสามารถของตัวเองล้วนๆ แม่หวังว่าเราจะฉลองกันแบบธรรมดาๆ ได้ เราจะต้องได้ฉลองแน่ๆ หลังจากนี้ (หลังโรคระบาด) แม่ไม่รีบ ชีวิตเพิ่งเริ่มต้น...”
คุณแม่อวดลูกทั้งที ผู้ติดตามของซูเปอร์โมเดลชาวออสซี่ ไม่วายกดเข้าไปติดตามดูอินสตาแกรมของคุณลูกชายสุดหล่อลูกครึ่งฝรั่งเศส (คุณพ่อคือ อาร์ปัด บุสซง นักการเงินชาวฝรั่งเศส อดีตคู่หมั้นของแอล) ปรากฏว่า ไลฟ์สไตล์ของหนุ่มหล่อช่างแสนน่าอิจฉา ไม่ว่าจะเป็นไปไหนมาไหนด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว บางครั้งก็ขับเครื่องบินเองด้วย โดยเขาได้ใบอนุญาตขับเครื่องบินเจ็ตตั้งแต่อายุ 19 (ตอนนี้ 22)
“เป็นนักบินอย่างถูกต้องเป็นทางการ ท้องฟ้าจ๋าข้ามาแล้ว” ฟลินน์โพสต์ลงในอินสตาแกรมเมื่อครั้งได้ใบอนุญาตขับเครื่องบินใหม่ๆ และ 4 ปีหลังจากนั้น เขาก็โพสต์ภาพขณะที่บังคับเครื่องบินมากมาย
อินสตาแกรมของฟลินน์ ยังแสดงให้เห็นไลฟ์สไตล์ระดับ 5 ดาว ที่ใครต่อใครต่างฝันว่าจะมีชีวิตแบบนี้บ้าง ทั้งกิจกรรมยามว่างอย่างขับเรือ ขับเครื่องบิน ไปพักผ่อนตามสถานที่สุดหรู ฯลฯ
แอล มีลูกชายกับอาร์ปัด บุสซง 2 คน คือ อาร์ปัด ฟลินน์ อเล็กซานเดอร์ บุสซง (ฟลินน์) และออเรลิอุส ไซ แอนเดรีย บุสซง (ไซ)
เมื่อปีที่แล้ว ทั้ง 3 คนได้ถ่ายแบบลงนิตยสารโว้ก ออสเตรเลีย ซึ่งฟลินน์ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแม่ของเขาเอาไว้ในฉบับนั้นด้วย
“ผมรู้ว่าหลายๆ คนพูดอะไรเกี่ยวกับแม่ของผม รู้ว่าเรื่องไหนจริง-ไม่จริง แม่ของผมทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้ผมกับน้องชาย เรารับรู้ได้ตลอดเวลาว่าพวกเราเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งในชีวิตของท่านเสมอ เรารู้มาตลอดเลยจากการตัดสินใจเลือกงานของแม่ และเวลาที่แม่ทำกับข้าวให้พวกเรากิน”