นับว่าเซอร์ไพรส์วงการเวดดิ้งไทยไม่ใช่น้อย เมื่อห้องเสื้อชื่อดัง วนัช กูตูร์ ผุดไอเดียสุดสร้างสรรค์ เพื่อลดการบูลลี่ผู้หญิงในสังคม ด้วยการออกคอลเลกชันสุดแนวดึง “วีณา-ปวีณา ซิงค์” สาวสวยใบหน้าคมเข้มลูกครึ่งไทย-อินเดีย ที่มีตำแหน่งพ่วงท้ายรองชนะเลิศอันดับ 2 Miss Universe Thailand 2018 มาร่วมถ่ายทอดและเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้แก่สาวๆ ที่ขาดความมั่นใจ เพราะกระแสบูลลี่ในเรื่องของรูปร่าง หน้าตา และสีผิว ให้กลับมามีพลังและศรัทธาในตัวเองอีกครั้ง
ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่อยากให้ผู้หญิงทุกคนมั่นใจและสวยในแบบของตัวเอง ด้วยความเชื่อที่ว่า “ไม่มีใครเกิดมามีชีวิตที่สมบูรณ์แบบไปหมดทุกอย่าง แต่เราสามารถสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเราเองได้” ทำให้ วนัช กูตูร์ ตัดสินใจทำแฟชั่นเซตนี้ขึ้นมาภายใต้ชื่อคอลเลกชัน “Beautiful is everything" ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบหลากสไตล์ ไม่ว่าจะแนวเรียบโก้ เซ็กซี่ หรือสวยหวานละมุน ซึ่งแต่ละชุดนั้นเป็นงานสุดพรีเมียมระดับ VIP ทั้งเนื้อผ้าและการตัดเย็บ เรียกได้ว่าเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว ไม่แพ้ชาติตะวันตก
นอกจากชุดแต่งงานที่สวยโดดเด้งแล้ว นางแบบก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย เพราะสาววีณามาในลุคของสาวผิวสองสีที่สามารถถ่ายทอดพลังบวกออกมาได้สวยและงดงามมากทีเดียว งานนี้ต้องขอปรบมือรัวๆ ให้กับนักออกแบบรุ่นใหม่ไฟแรง “สรรค์ สุดเกตุ” ที่กล้าคิดและกล้านำเสนอผลงานแฟชั่นเซตชุดแต่งงานสุดแหวกแนวออกมาในครั้งนี้ เพราะนอกจากจะสวยหรูหราในเชิงสร้างสรรค์สังคมได้อย่างดีแล้ว ยังช่วยส่งพลังบวกให้แก่ผู้หญิงทุกคนได้อีกด้วย
สรรค์เล่าว่า “คอลเลกชันนี้เราใช้เวลาทำงานมากกว่า 2 เดือน ด้วยความตั้งใจที่อยากจะเปลี่ยนมุมมองใหม่ๆ และนำเสนอผลงานที่แฝงไปด้วยพลังบวกแบบเต็มสูบเพื่อส่งต่อให้กับผู้หญิงทุกๆ คนที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวแต่ยังขาดความมั่นใจในตัวเอง เพราะเชื่อว่าผู้หญิงฝันที่อยากจะเป็นเจ้าสาวที่สวยและสมบูรณ์แบบที่สุด แต่เพราะอะไรหลายๆ อย่างในสังคมที่ชอบเปรียบเทียบกัน ทำให้ความมั่นใจของว่าที่เจ้าสาวลดทอนลงไป
วันนี้เราจึงอยากนำเสนอผลงานที่แตกต่างออกไปให้ทุกคนได้เห็นว่า แม้ว่าเราจะมีจุดบกพร่องในเรื่องของรูปร่าง หน้าตา หรือแม้แต่สีผิว แต่ถ้าเรามีใจที่ดีสมบูรณ์แบบ มีความคิดเชิงบวก ออราในตัวเราก็จะฉายแสงออกมาให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาคนอื่นได้แน่นอน หลายคนถามว่าผมได้แรงบันดาลใจมาจากอะไรถึงตัดสินใจทำคอลเลกชันนี้ออกมา เพราะดูแล้วมีความเสี่ยงไม่น้อยที่
กระแสอาจจะตีกลับไปในทิศทางตรงกันข้ามจากที่คิดไว้ ในฐานะดีไซเนอร์ สิ่งที่เรานำเสนอเกิดจากความตั้งใจจริง ที่อยากเห็นผู้หญิงทุกคนมั่นใจในความสวยงดงามในแบบของตัวเอง อยากให้กระแสบูลลี่เป็นเรื่องที่น่าละอายของคนที่ชอบบูลลี่คนอื่น ไม่ใช่คนที่ตกเป็นเหยื่อการบูลลี่ในสังคม
ถ้าพูดถึงแรงบันดาลใจในการทำคอลเลกชันนี้ เกิดจากการที่ผมได้ติดตามผลงานของผู้หญิงสุดสตรอง “วินนี ฮาร์โรว์” (Winnie Harlow) เพราะครั้งหนึ่งผมได้มีโอกาสได้ดูเธอให้สัมภาษณ์ในรายการ TEDxTeen ด้วยหัวข้อ ‘My story is painted on my body’ และคลิปนั้นมียอดวิวสูงกว่า 1.3 ล้านวิว เธอเริ่มต้นถามทุกคนว่า คุณคิดว่าสิ่งใดสวยที่สุดสำหรับเธอ คำตอบคือ “ความสวยงามมีอยู่ในทุกสิ่ง” และไม่ใช่ทุกคนที่จะคิดเหมือนกันกับเธอ แต่รู้ไหมว่ากว่าที่เธอจะค้นพบความรู้สึกนี้ ต้องผ่านความเจ็บปวดอะไรมาบ้าง
อย่างที่ทุกคนมองด้วยตาก็คงสังเกตเห็นเกี่ยวกับสภาพผิวของเธอ โรคด่างขาวที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ผิว ที่ดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตของเธออย่างมากในสังคม ทำให้วัยเด็กของเธอต้องเผชิญกับการถูกเพื่อนล้อไปต่างๆ นานา เรียกเธอว่าเป็นม้าลายบ้าง หรือวัวบ้าง นอกจากเธอจะไม่มีเพื่อนแล้วยังถูกกลั่นแกล้งจนเคยเกือบคิดสั้นมาแล้ว การต่อสู้ชีวิตของเธอไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เธอก็ผ่านมันมาได้อย่างน่าทึ่ง
“เชื่อมั่นว่าความสวยงามมีอยู่ในทุกสิ่ง” เราเห็นด้วยอย่างมากกับการให้ความสำคัญเกี่ยวกับนิยามความงามที่มองอย่างลึกซึ้งเข้าไปข้างในความคิดและจิตใจ บางคนมีหน้าตาที่สวยงาม แต่กลับมีความคิดที่บิดเบี้ยวและทำลายผู้อื่น ความสวยที่มองเห็นจึงแทบไม่มีความหมาย ขณะที่บางคนเกิดมาไม่เพอร์เฟกต์ ไม่มีใบหน้าที่สวยงามตามพิมพ์นิยม ไม่มีผิวที่แลดูสุขภาพดีตั้งแต่เกิด แต่เมื่อพวกเธอใช้ชีวิตอย่างเห็นคุณค่าและทำตัวมีประโยชน์ต่อผู้อื่น นั่นกลับกลายเป็นความงดงามที่ยั่งยืนมากกว่า
เรื่องราวของเธอเป็นอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนทั่วโลกที่อาจกำลังคิดว่าตัวเองไม่สวย ไม่สมบูรณ์แบบ หรือไม่เคยมั่นใจในตัวเอง ให้ลองกล้าที่จะก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ในชีวิตอีกครั้ง โดยเริ่มต้นจากความคิดแง่บวก จงมองหาความสวยงามที่ตัวเองมี แล้วก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็ง ไม่ใช่แค่วินนีเท่านั้นที่ต้องการเป็นกำลังใจให้ทุกคน เราก็ขอเป็นหนึ่งกำลังใจให้แก่ทุกคนเช่นกันครับ”