นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมชื่อดังวัย 17 เกรทา ตุนเบิร์ก ออกมาบริจาคเงินรางวัล 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ ที่เธอได้มาจากแคมเปญต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม ผ่านทางมูลนิธิเกรทา ตุนเบิร์ก ของเธอ ให้แก่องค์การยูนิเซฟ สำหรับช่วยเด็กๆ ให้ต่อสู้กับโคโรนาไวรัส
เกรทา บอกว่า การระบาดของโรค COVID-19 ก่อให้เกิดการจำกัดสิทธิของเด็กๆ ซึ่งเป็นวิกฤตของโลกไม่ต่างจากเรื่องสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งทิ้งท้ายด้วยว่า แม้ตอนนี้ชาวโลกจะให้ความสนใจกันแต่เรื่องของเชื้อโรค แต่ปัญหาสิ่งแวดล้อมนั่นก็ไม่ได้ลดลงไปหรอกนะ
เกรทา ตุนเบิร์ก ได้รับเงินรางวัลจากมูลนิธิฮิวแมน แอ็กต์ ของเดนมาร์ก ที่พอรู้ว่าเธอนำเงินรางวัลทั้งหมดมาบริจาคช่วยเด็กๆ ทางมูลนิธิดังกล่าวก็ร่วมบริจาคในยูนิเซฟด้วยอีก 1 แสนดอลลาร์
“การระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส ก็เหมือนกับเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่ได้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของเด็กๆ ทั้งแบบปัจจุบันทันด่วนและในระยะยาว โดยเฉพาะเด็กอ่อนแอยิ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงและได้รับผลกระทบมากกว่าใคร”
เกรทา บอกอีกว่า ต้องการเรียกร้องให้ทุกคนออกมาช่วยกันสนับสนุนยูนิเซฟ เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ “ให้เขาได้ยกระดับคุณภาพชีวิต มีสุขภาพที่ดี และได้รับการศึกษา”
แน่นอนว่า ยูนิเซฟ พร้อมรับบริจาคเงิน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค COVID-19 ทำให้เด็กๆ ต้องถูกกักตัวอยู่กับบ้าน ไม่สามารถไปโรงเรียนได้
เช่นเดียวกับเกรทาที่ไม่ได้ไปโรงเรียนเหมือนกัน ต้องอาศัยเรียนออนไลน์อยู่กับบ้านเนื่องจากเกิดโรคระบาด
“ไม่เพียงเด็กๆ ไม่ได้ไปเรียนหนังสือ แต่การล็อกดาวน์จากโรคระบาดส่งผลกระทบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการขาดแคลนอาหาร การไม่สามารถเข้าถึงด้านสาธารณสุข และการขาดโอกาสทางการศึกษาและอื่นๆ” เฮนเรียตตา โฟเร กรรมการบริหารองค์การยูนิเซฟ กล่าว
“สำหรับเงินที่ยูนิเซฟรับบริจาคมาจากคุณเกรทาและฮิวแมน แอ็กต์ จะนำไปจัดสรรสบู่ล้างมือ หน้ากากอนามัย ถุงมือ และอุปกรณ์สำหรับดูแลความสะอาดอื่นๆ เพื่อนำไปส่งต่อให้เด็กๆ ที่ด้อยโอกาส”
แม้ว่าจะมีเด็กๆ จำนวนไม่มากที่ติดเชื้อโคโรนาไวรัส หากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ก็ได้ออกมาเตือนว่า วิกฤตเศรษฐกิจก็อาจจะทำให้เด็กๆ ต้องเสียชีวิตจากความหิวโหยได้ จากข้อมูลของยูเอ็นพบว่า เด็กๆ ราว 66 ล้านคน มีความเสี่ยงที่จะตกอยู่ในภาวะแร้นแค้น จากเดิมที่ทั้งโลกมีอยู่แล้วถึง 386 ล้านคน
เมื่อสัปดาห์ก่อน เกรทา ตุนเบิร์ก ได้ไลฟ์สดเรียกร้องให้รัฐบาล (สวีเดน) ออกมาจัดการทั้ง 2 วิกฤตนี้ (โรคระบาดและสิ่งแวดล้อม) ไปพร้อมๆ กัน โดยแม้ว่าการเคลื่อนไหว ฟรายเดย์ ฟอร์ ฟิวเจอร์ ของเธอเองก็ต้องย้ายมาทำผ่านคีย์บอร์ดในช่วงนี้ แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะผลักดันรัฐบาลให้แก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเร่งด่วน
“การระบาดของไวรัส แสดงให้เห็นความสำคัญของการเงี่ยหูรับฟังนักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญ” เกรทากล่าวในไลฟ์ของเธอ
สำหรับการเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อม ฟรายเดย์ ฟอร์ ฟิวเจอร์ ของเกรทา ตุนเบิร์ก เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2018 ขณะที่เธออายุเพียง 15 ปี โดยเธอเริ่มหยุดเรียนทุกๆ วันศุกร์ เพื่อไปยืนประท้วงที่หน้ารัฐสภาสวีเดน
ฟรายเดย์ ฟอร์ ฟิวเจอร์ เริ่มจากการเคลื่อนไหวของเธอคนเดียว ก่อนที่เพิ่มจำนวนคนเห็นด้วยและร่วมกันเดินขบวนประท้วงทุกวันศุกร์ จนกระทั่งก่อนหน้าจะเกิดการระบาดของโคโรนาไวรัสนั้น เธอรวบรวมกลุ่มผู้เห็นด้วยได้กลุ่มใหญ่ทีเดียว
เกรทา สร้างชื่อจากสุนทรพจน์สุดกร้าวของเธอต่อหน้าผู้นำโลกในยูเอ็นเมื่อปีที่แล้ว “การปิดปากเงียบ (เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อม) ของพวกคุณ ได้ขโมยความฝันและชีวิตวัยเด็กของฉันไปหมด”
ยังไม่รวมสายตาที่จิกกัดโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่พยายาม “ขโมยซีน” เธอ แถมวิจารณ์เธออย่างขำๆ ว่า “ดูเป็นเด็กที่มีความสุขและมีอนาคตสดใสดีนะ”