ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ไวรัสร้ายถล่มหัวเมืองใหญ่ทั่วโลก หลายๆ มหานครประกาศล็อกดาวน์ ทั้งนิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส มิลาน ทำให้แบรนด์ลักชัวรีสุดหรูทั้งหลายต้องปิดร้าน และปรับสายการผลิตจากทำเครื่องสำอาง น้ำหอม และเสื้อผ้า มาเปิดโรงงานผลิตอุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรคและเครื่องมือการแพทย์ที่กำลังขาดแคลนแทน
ยักษ์ใหญ่แห่งโลกแฟชั่นอย่างเครือ “LVMH” เจ้าของแบรนด์ดังอย่าง หลุยส์ วิตตอง, ดิออร์, เฟนดิ, จีวองชี่, บูลการี ฯลฯ ก็สั่งให้สายการผลิตน้ำหอมและเครื่องสำอางหันมาผลิตเจลล้างมือ และส่งให้ทางการฝรั่งเศสเพื่อแจกจ่ายแก่เหล่าบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนที่มีความจำเป็นใช้แบบฟรีๆ
สำหรับ “ปราด้า” ก็ได้เริ่มทำการผลิตชุดป้องกันแบบเต็มตัวกว่า 80,000 ชุด และหน้ากากอนามัยกว่า 110,000 ชิ้น ตามคำขอร้องของทางการเมืองทัสคัน โดยข่าวว่าจะเริ่มจัดส่งให้โรงพยาบาลในเมืองอิตาลีได้ในวันที่ 6 เมษายนนี้
ด้านแบรนด์คู่แข่งอย่าง “กุชชี่” ก็ไม่น้อยหน้ากัน ออกมาประกาศว่ากำลังผลิตทั้งชุดป้องกันและหน้ากากอยู่เช่นเดียวกัน โดยสัญญาว่าจะบริจาคหน้ากากกว่าล้านชิ้น และชุดอีก 55,000 ชิ้นแก่รัฐบาลอิตาลี เพื่อให้แพทย์และพยาบาลได้ใช้สวมใส่รักษาผู้ป่วย
สำหรับแบรนด์เครื่องสำอางสัญชาติอเมริกันอย่าง "เอสเต้ ลอเดอร์" ที่แม้ก่อนหน้านี้จะปิดโรงงานและร้านค้าในรัฐต่างๆ ตามแนวทางล็อกดาวน์ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้ตัดสินใจกลับมาเปิดโรงงานที่ตั้งอยู่ในรัฐนิวยอร์กเพื่อเร่งผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือเพื่อส่งมอบบริจาคแก่บุคลากรสาธารณสุขที่ตอนนี้กำลังขาดแคลน
นอกจากแบรนด์แฟชั่นสินค้าลักชัวรีสุดหรูแล้ว สารพัดแบรนด์ดังก็ต่างร่วมใจกันช่วยหาหนทางรับมือกับโรคระบาดร้ายแรงนี้ โดยแต่ละบริษัทก็นำ Know-how และความถนัดของตัวเองมาช่วยแก้ปัญหา อย่างบริษัทรถยนต์อย่าง “ฟอร์ด” ก็ได้จับมือกับทาง 3M เพื่อปรับโรงงานผลิตรถยนต์มาทำการผลิต Powered Air-Purifying Respirators (PAPRs) อุปกรณ์ป้องกันระบบทางเดินหายใจที่เป็นหน้ากากสวมครอบพร้อมมีเครื่องส่งอากาศ ใช้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องป้องกันการรับเชื้อจากผู้ป่วย
ส่วนแบรนด์รถยนต์ “GM” ก็ได้สนับสนุน Ventec Life System ผู้ผลิตเครื่องช่วยหายใจ ทั้งในเรื่องกำลังการผลิต การขนส่ง และให้ช่างผู้ชำนาญการช่วยพัฒนาการออกแบบเครื่องเพื่อช่วยผลิตเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการรักษาผู้ป่วย COVID-19 ที่ตอนนี้ทั่วโลกกำลังขาดแคลนเป็นอย่างมาก
ข้ามมาที่เกาะอังกฤษ แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสุดเก๋อย่าง “DYSON” ที่ชำนาญด้านอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับลม ไม่ว่าจะเป็นพัดลม เครื่องดูดฝุ่น ไดร์เป่าผม ได้เร่งประดิษฐ์เครื่องช่วยหายใจ ตามคำขอร้องทางรัฐบาลอังกฤษที่กำลังประสบปัญหาไม่สามารถรองรับรักษาผู้ป่วยได้เนื่องจากขาดอุปกรณ์ โดยไดสันได้ตั้งชื่อเครื่องช่วยหายใจที่ออกแบบใหม่นี้ว่า CoVent และพร้อมจะส่งมอบให้รัฐบาลอังกฤษในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ 10,000 เครื่อง และอีก 5,000 เครื่องเพื่อส่งให้ประเทศอื่นๆ ที่ต้องการ
สำหรับในทวีปเอเชีย หลังจากญี่ปุ่นนับเป็นประเทศแรกๆ ที่มีการแพร่กระจายของไวรัส ทางรัฐบาลก็ขอความร่วมมือจากภาคเอกชนช่วยแก้ปัญหาผลิตภัณฑ์ที่ขาดแคลน แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังอย่าง “ชาร์ป” ก็ได้ปรับโรงงานผลิตโทรทัศน์ LCD มาผลิตหน้ากากอนามัยแทน โดยปัจจุบันนี้โรงงานของชาร์ปสามารถผลิตหน้ากากได้มากกว่าวันละ 10 ล้านชิ้นเลยทีเดียว
