ถ้าจะถามถึงภาพจำของเซเลบหนุ่มคนเก่งอย่าง แดน เหตระกูล และ ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา หลายคนคงนึกถึงบทบาทการเป็นนักธุรกิจ CEO เจ้าของบริษัท ดูแลกิจการและลูกน้องมากมาย ที่สร้างผลงานความสำเร็จในสายงานที่สั่งสมประสบการณ์มานับสิบๆ ปี แต่วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับพวกเขาในอีกบทบาทหนึ่งที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยได้เห็นกันสักเท่าใดนัก อย่างบทบาทของการเป็น “คุณพ่อ”
อันนับเป็นหน้าที่สำคัญที่หนุ่มๆ ทั้งคู่ทุ่มเทให้เป็นบทบาทหลักในชีวิต เพราะไม่ว่าคุณจะเก่งกาจ ทำงานดีเวลาอยู่นอกบ้านขนาดไหน แต่ก็ต้องไม่ลืมความสำคัญของครอบครัว และการเป็นผู้นำครอบครัวที่ต้องเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการดูแลภรรยา การเลี้ยงดูบุตร ไปจนถึงที่พักอาศัยที่ต้องพร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์ของเหล่าสมาชิกในครอบครัวให้อยู่อาศัยได้อย่างมีความสุข
ซึ่งแต่ละครอบครัวก็มีโจทย์ที่ต้องการแตกต่างกันออกไป แต่ทุกคนสามารถหาคำตอบได้ที่ Grand Bangkok Boulevard - Sathorn ที่เพิ่งเปิดเฟสใหม่เป็นบ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์นสุดหรู เพิ่มปริมาณพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางที่พร้อมให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้อยู่อาศัยอย่างมีความสุขในบ้านหลังนี้
อย่าง ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการบริษัท Cloud and Ground จำกัด เป็นบริษัทผลิตสื่อรูปแบบใหม่ ที่ทำร่วมกับหุ้นส่วน ทรงกลด บางยี่ขัน อดีตบรรณาธิการ a day โดยช้างน้อยที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงสื่อมาตั้งแต่แรกเริ่ม ตั้งแต่ทำวิทยุ เป็นดีเจ มาจนรับหน้าที่เป็น Account Manager ที่ A day เป็นผู้ขับเคลื่อนให้เกิดอีเวนต์ดังๆ ระดับชาติมากมาย ก่อนที่จะออกมาสร้างบริษัทของตัวเอง
“เราแบ่งงานกันตามถนัดครับ พี่ก้อง-ทรงกลด ก็ดูแลด้านเนื้อหา ทำคอนเทนต์ เล่าเรื่อง ผมทำในส่วนอื่นๆ อย่างการขาย การตลาด อีเวนต์ แล้วก็พวกหลังบ้านทั้งหมด อย่างการเงิน บัญชี ฯลฯ ซึ่งทุกวันนี้เราไม่ได้มองถึงการสื่อสารในสื่อแบบเดิมๆ ว่าเป็นสิ่งพิมพ์ หรือออนไลน์ แต่เรามองทั้งหมดเป็นองค์รวมมากกว่า ก็เลยเป็น Cloud and Ground นั่นคือเป็นทั้ง Cloud ที่เป็นเรื่องเล่าที่มีคุณค่าถ่ายทอดมาไม่ว่าจะรูปแบบไหน ดิจิทัล หรือไม่ดิจิทัล เราเน้นที่เนื้อหามากกว่า จนถึงสิ่งที่จับได้อย่าง Ground ที่เราถ่ายทอดประสบการณ์จริง อย่างอีเวนต์ ทริป นิทรรศการ ฯลฯ กิจกรรมต่างๆ ที่จะพาผู้คนไปสัมผัสกับประสบการณ์ต่างๆ
เรามีกิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น Thailand Coffee Fest ที่ทำขึ้นเพื่ออยากช่วยยกระดับและพัฒนาวงการกาแฟไทยในทุกส่วนประกอบ ตั้งแต่เกษตรกรผู้ผลิตจนถึงผู้บริโภค หรือล่าสุดกับนิทรรศการ Hundred Years Between ของท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน ที่แสดงภาพถ่ายการเดินทางเยือนนอร์เวย์ตามรอยเสด็จประพาสของรัชกาลที่ ๕ อันเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ครบรอบ 115 ปี ความสัมพันธ์ไทย-นอร์เวย์ นอกจากนี้ยังมีการจัด Walk with the cloud การพาชมสถานที่ซึ่งเข้าชมได้ยาก หรือมีวาระพิเศษ อย่างพาไปชมดุสิตธานี หรือศุลกสถาน อาคารร้อยกว่าปีริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนที่เขาจะทำการรีโนเวต หรือที่สถานทูตอังกฤษก่อนจะถูกทุบทิ้ง เป็นต้น”
เรียกได้ว่ามีภาระหน้าที่ต้องดูแลหลากหลายมาก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ลืมแบ่งเวลาให้กับครอบครัว ทั้งคุณกี๋ -วิสทา (ภรรยา) และลูกสาวทั้ง 2 คน (น้องเอรา วัย 10 ขวบ และ น้องไอยรินทร์ วัย 7 ขวบ) “วันเสาร์ อาทิตย์ของผมคือยกให้ครอบครัวกับลูกๆ พาเขาไปเรียนพิเศษ ไปทำกิจกรรมต่างๆ เพราะบ้านเราเน้นวิชาชีวิตมากกว่าวิชาการ ผมว่าการสอนให้เขาได้คิด ได้สัมผัสกับประสบการณ์ต่างๆ สำคัญกว่าเรื่องในตำรา บ้านเราจึงจะเลี้ยงลูกด้วยการตั้งคำถามมากกว่าประโยคบอกเล่า
“อย่างห้องรับประทานอาหารเราจะไม่มีโทรทัศน์ เพื่อใช้ช่วงเวลานั่งคุยกันบนโต๊ะอาหาร เราสามารถสร้าง Deep Conversation ได้ใช้เวลาด้วยกันอย่างแท้จริง คุยกับลูกๆ ว่าเขาคิดเห็นในเรื่องต่างๆ อย่างไร ค่อยๆ ให้เขาได้ซึมซับปรัชญาการใช้ชีวิต แนวคิดต่างๆ และให้เขาได้เอาไปวิเคราะห์ ต่อยอด และพื้นที่ต่างๆ ในบ้านเราจะให้พื้นที่ส่วนกลางเยอะมาก ทั้งห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ครอบครัวเราไม่ต้องการห้องนอนใหญ่ๆ แต่อยากได้พื้นที่อยู่กับลูกเยอะๆ มากกว่า
ที่สำคัญอีกอย่างคือ กิจกรรมเอาต์ดอร์ ผมพยายามพาเขาไปเรียนรู้ธรรมชาติ ผมว่ามันช่วยชาร์จพลังชีวิตนะ ให้เขาได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่บ้านก็จะเน้นสวน ต้นไม้ สระว่ายน้ำ ให้เขาได้วิ่งเล่น ได้ออกกำลัง เล่นกีฬา และได้สัมผัสกับธรรมชาติ อย่างมุมรับแขกที่เป็นโถงโล่งเปิดให้เห็นวิวด้านนอกและเชื่อมต่อกับระเบียงนอกบ้าน ก็ช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติได้ แถมยังช่วยประหยัดพลังงานได้ด้วย เพราะตามหลักที่อากาศร้อนจะลอยตัวขึ้นสูง โครงสร้างห้องโล่งเพดานสูงแบบนี้ใช้การดีไซน์มาช่วยออกแบบทำหน้าต่างบ้านใหญ่เปิดระบายลมได้ ออกแบบเป็นบ้านประหยัดพลังงานได้เลยนะครับ”
ด้าน แดน เหตระกูล ที่ตอนนี้ดำรงตำแหน่ง CEO บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ชื่อ IRCP ทำด้าน system integration วางระบบเน็ตเวิร์กต่างๆ ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยร่วมงานกับทางภาครัฐสร้างเซอร์วิสที่ช่วยซัปพอร์ตการทำงานหน่วยงานต่างๆ ให้สะดวกรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังนั่งบริหารไร่ไวน์ Château Meyre ในเมือง Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส ธุรกิจที่สานต่อมาจากคุณพ่อ (ประชา เหตระกูล) ซึ่งนับเป็นไวน์ออร์แกนิกรายแรกๆ ของฝรั่งเศสเลยทีเดียว
“ผมจะทำงานที่เมืองไทยเป็นหลัก ส่วนไร่ไวน์ก็จะบินไปดูภาพรวมเพราะเรามีทีมงานมืออาชีพคอยดูแลอยู่แล้ว โดยแต่ก่อนบินไปบ่อยหน่อยปีละ 2-3 ครั้ง แต่ตอนนี้พอแต่งงานมีลูกแล้ว และงานที่เมืองไทยเยอะด้วยก็เลยเหลือปีละครั้งช่วงเดือนกันยายน พาไปทั้งครอบครัวเลย เป็นทริปทำงานพร้อมพักผ่อนไปด้วย เพราะอากาศกำลังดี วิวสวย และเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวด้วย เราก็จะไปดูแลใกล้ชิดหน่อย ทำให้คาดการณ์ผลผลิตของปีหน้าได้ด้วยครับ”
ต้องบอกเลยว่าในสถานะคุณพ่อมือใหม่ทำให้ชีวิตการทำงานของหนุ่มแดนต้องปรับเปลี่ยนไปพอสมควร “ตอนนี้ลูกชาย (ไทคูณ เหตระกูล) เพิ่ง 7 เดือนครับ ก็เลยต้องให้เวลากับครอบครัวมากหน่อย ยิ่งช่วงน้องเกิดใหม่นี่หนักกว่านี้อีกนะ ตอนนี้ก็เบาลงหน่อยแล้ว ทุกวันนี้ก็ช่วยดูแลลูก และซัปพอร์ตภรรยา (มัดมุก พานิชสมัย เหตระกูล) ด้วย เพราะหลังการคลอดเขาก็ต้องปรับตัว ทั้งเรื่องฮอร์โมน อารมณ์ เราก็ต้องช่วยดูแลเขาให้ดีที่สุด
ทุกวันนี้ต้องเรียกว่าทำงานที่บ้านเป็นหลักเลย เพราะเด็กๆ วิวัฒนาการเขาไปเร็วมาก มีอะไรให้ตื่นเต้นทุกวัน เราไม่อยากพลาดทุกช่วงเวลาที่สำคัญของเขา ก็จะพยายามหาเวลาให้เขามากที่สุด ช่วงวัยกำลังพัฒนานี่แหละสำคัญ มันจะยาวนานเป็นรากฐานต่อไปในอนาคต ผมจะรู้ว่าลูกนอนเวลาไหน ก็ใช้เวลานั้นไปทำงาน ติดต่อ พูดคุย ประชุมต่างๆ
ผมให้ความสำคัญต่อครอบครัวมาก ความคิดเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนเลย สมัยก่อนคือมีความสุขกับงานที่สำเร็จ จุดมุ่งหมายคืองาน แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่แค่งานอย่างเดียวแล้ว ครอบครัวต้องมาด้วย โฟกัสเราเปลี่ยนไป ตอนผมโสดกับตอนนี้นิยามความสำเร็จของชีวิตไม่เหมือนเดิม มันเทียบกันไมได้ ทุกวันนี้ทำงานมาเหนื่อยๆ กลับบ้านเจอภรรยา และลูก ได้กอดเขามันก็เป็นความสุขอีกแบบ รู้สึกหายเหนื่อยเลยนะ”
นอกจากจุดมุ่งหมาย นิยามความสำเร็จในชีวิตที่เปลี่ยนไปแล้ว ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคุณพ่อแดนก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
“แต่ก่อนตอนโสดนี่ห้องอะไรไม่สำคัญนะครับ ทำทุกอย่างอยู่ในห้องเดียวกันได้ มีบ้านไว้นอนพัก ใช้ชีวิตข้างนอกเป็นหลัก แต่ทุกวันนี้พอมีครอบครัว บ้านคือที่สำคัญที่สุด ทุกห้องมีฟังก์ชัน ผ่านการคิดและออกแบบมา สภาพแวดล้อมแบบไหนที่เหมาะกับลูก
ผมชอบบ้านสไตล์โปร่งๆ ให้ทุกคนได้ใช้สเปซร่วมกัน ไม่ต้องกั้นผนังเป็นกล่อง ใช้การตกแต่งหรือชั้นวางของมาแบ่งพื้นที่ให้รู้สึกเป็นสัดส่วนแต่ยังมีความเชื่อมต่อกัน อย่างห้องนอนก็ต้องเป็นห้องใหญ่ๆ มีพื้นที่กว้างหน่อยเพราะลูกนอนห้องเดียวกับเรา ต้องมีที่วางเปลเด็ก มีพื้นที่ให้เขาคลานเล่นด้วย
ที่สำคัญเราต้องมองหาบ้านที่พร้อมจะให้เขาเติบโตไปในอนาคต พอถึงวัยหนึ่งก็ต้องให้เขามีห้องส่วนตัว มีพื้นที่ของตัวเอง อย่างบ้าน 3 ชั้นนี่ก็ช่วยตอบโจทย์นะครับ เป็นการสร้างพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติมมากขึ้น พร้อมให้เขาได้เติบโต ให้เขาได้ใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ เป็นตัวของตัวเองได้แบบไม่อึดอัด พร้อมให้เขามีพื้นที่ทำกิจกรรมที่เขาชอบได้”
คุณแดนทิ้งท้ายว่า “ผมว่าบ้านควรเป็นพื้นที่ที่เราใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ เพราะนี่คือองค์ประกอบสำคัญของชีวิต บ้านไม่ควรเป็นเพียงที่ซุกหัวนอน เราควรอยู่แล้วมีความสุข ได้ชาร์จพลังงาน ถ้ากลับมาบ้านแล้วไม่มีความสุข ไม่ได้ชาร์จพลัง แล้วจะเอาแรงที่ไหนออกไปทำงาน ต่อสู้กับโลกภายนอกได้ จริงไหมครับ”
ไม่ว่าคุณจะมองหาพื้นที่ธรรมชาติสำหรับการทำกิจกรรมของลูกๆ วัยซน หรือพื้นที่ส่วนรวมแสนกว้างขวางเพื่อการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว ไปจนถึงห้องต่างๆ เพื่อรองรับห้องส่วนตัวของลูกๆ ในอนาคต ทุกโจทย์ของการอยู่อาศัยของครอบครัวสามารถหาคำตอบได้ที่ Grand Bangkok Boulevard - Sathorn โครงการบ้านเดี่ยวสุดหรู ในคอนเซ็ปต์ The Highest Luxury of Living ที่ตั้งอยู่บนถนนกัลปพฤกษ์มุ่งหน้าสู่สาทร สามารถเดินทางสู่ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ อย่างสาทร สีลม ได้อย่างง่ายดาย
ตอนนี้ทางโครงการกำลังเปิดเฟสใหม่ เป็นคฤหาสน์หรู 2-3 ชั้น บนเนื้อที่ 80.3-187.6 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 348-837 ตารางเมตร เป็นบ้านขนาด 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ และมีห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ ดีไซน์สไตล์ Modern Luxury พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์ของทุกครอบครัว ในราคาเริ่มต้นที่ 19.9 ล้าน สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scasset.com/th/house/grand-bangkok-boulevard-sathorn/
โทร. 09-2250-3399 Line: @GBBST