เรดซี แกลเลอรี (REDSEA Gallery) ต้อนรับศักราชใหม่ 2563 ด้วยนิทรรศการเพื่อหวนระลึกถึง วาเลครี กูร์ตาร์ หรือวาล (Valérie Goutard - Val) ประติมากรชื่อดังชาวฝรั่งเศสที่เคยพำนักอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครมายาวนาน โดยนิทรรศการดังกล่าวจะจัดแสดงผลงานประติมากรรมของเธอทั้งสิ้น 45 ชิ้นที่สร้างสรรค์ขึ้นจากการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างสัมฤทธิ์และแก้ว เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงนิยามของงานศิลปะที่วาลได้รังสรรค์ขึ้นในช่วงปี 2547 ถึง 2559 นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงผลงานชุดดังกล่าวออกสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกอีกด้วย
นิทรรศการนี้จะนำเสนอมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับผลงานของวาล ศิลปินที่ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ตลอดช่วงชีวิตที่เธอดำรงอาชีพศิลปิน โดยผลงานที่จะปรากฏต่อสาธารณชนในครั้งนี้ประกอบด้วยงานประติมากรรมอันโดดเด่นชื่อ “Du chaos à la sagesse” ที่สร้างสรรค์จากสัมฤทธิ์ขนาด 36 เมตร หรือประติมากรรมที่ผสานผสานกันอย่างละเอียดซับซ้อนของแก้วมูราโน่ (Murano glass) และสัมฤทธิ์ ดังเช่นผลงานชื่อ "Ombre Rouge" ผลงานศิลปะเหล่านี้ทำให้เราได้พบกับพรสวรรค์ของวาลในการหลอมรวมคู่ผสมแห่งวัสดุชั้นเลิศเพื่อรังสรรค์งานศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ งานศิลปะของวาลได้นำพาเราเข้าสู่เบื้องลึกภายในจิตใจของเธอ ในขณะเดียวกันได้เปิดกว้างให้ผู้ชมตีความ และสร้างการเชื่อมโยงระหว่างงานศิลปะและผู้ชม
วาเลครี กูร์ตาร์ (วาล, 2510 – 2559) เป็นประติมากรที่ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในด้านประติมากรรมที่ทำจากสัมฤทธิ์และแก้ว โดยผลงานของเธอได้รับการจัดแสดงในสถานที่สำคัญต่าง ๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งสถาบันวิจิตรศิลป์แห่งปักกิ่ง (Central Academy of Fine Arts of Beijing -CAFA), นิวสแควร์ ไต้หวัน, สวนเบญจสิริ กรุงเทพฯ พิพิธภัณฑ์ศิลปะและสถาปัตยกรรมในไต้หวัน สกายสวีท ณ แอนสัน แอนด์ เดอะโซเรนโต เรสซิเดนท์ ประเทศสิงคโปร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังได้จัดแสดงที่มหกรรมศิลปะอีกหลายแห่ง อาทิ เซี่ยงไฮ้ อาร์ต แฟร์, อาร์ต ไทเป, อาร์ต ปูซาน และอินเดีย อาร์ต แฟร์
หลังจากการจัดนิทรรศการครั้งสำคัญภายใต้ชื่อ “Theatre of Life” ที่เรดซี แกลเลอรีในปี 2553 และการแสดงผลงานชุด “Urban life” ที่เซี่ยงไฮ้ อาร์ต แฟร์ ในปี 2553 เช่นเดียวกัน ทำให้เธอได้รับการชื่นชมอย่างล้นหลาม จากนั้นวาลได้จัดนิทรรศการตามที่สาธารณะต่าง ๆ ซึ่งนำมาสู่สไตล์ศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอนับจากนั้นเป็นต้นมา ในเดือนพฤษภาคมปี 2559 สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งปักกิ่ง หรือ CAFA ได้ตอบแทนวาลแบบพิเศษที่ไม่เหมือนใครด้วยการจัดนิทรรศการเพื่อระลึกถึงผลงานของเธอ โดยทางพิพิธภัณฑ์ได้รับผลงานสองชิ้นคือ “Autoportrait” และ“Eternal Pillars” ไว้เพื่อจัดเก็บเป็นคอลเล็กชันถาวรอีกด้วย
งานทุกชิ้นของวาลเป็นการแสดงออกทางความรู้สึกของเธออย่างเข้มข้น พร้อมสำรวจความสมดุลที่ละเอียดอ่อนระหว่างมนุษย์และสภาพแวดล้อม ในปี 2559 วาลได้ริเริ่มงานศิลปะที่ผสานกับระบบนิเวศด้วยการสร้างสรรค์และติดตั้งประติมากรรมขนาดใหญ่ 3 ชิ้นที่ใต้ท้องทะเลบริเวณเกาะเต่าในประเทศไทย อันเป็นการฟื้นฟูแนวปะการังที่สูญพันธุ์ไปแล้วให้กลับสู่ระบบนิเวศของเกาะเต่าอีกครั้ง ประติมากรรมชุดดังกล่าวนี้ใช้ชื่อว่า “Ocean Utopia” ประกอบด้วยสัมฤทธิ์ คอนกรีต และปะการังที่สูญพันธุ์ ซึ่งได้กลับมามีชีวิต เติบโตและขยายตัวใต้ท้องทะเลนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ก่อนที่เธอจากโลกนี้ไป วาลได้สร้างสรรค์โครงการประติมากรรมขนาด 36 เมตร เพื่อเตรียมนำไปติดตั้งในเมืองไทจง ประเทศไต้หวันในปี 2560 ซึ่งในที่สุดก็ได้รับการติดตั้งไม่กี่เดือนต่อมาหลังจากที่เธอเสียชีวิตในประเทศไทยในเดือนตุลาคม 2559 ทั้งนี้ผลงานประติมากรรมที่แล้วเสร็จสมบูรณ์มีชื่อว่า “Du chaos à la sagesse”
นิทรรศการจะจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 20 ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 11:00 น. ถึง 20:00 น. ทุกวัน
ที่ เรดซี แกลเลอรี (REDSEA Gallery) ตั้งอยู่บนเดมพ์ซีย์ฮิลล์ของสิงคโปร์
