สถานการณ์โคโรนาไวรัส หรือไวรัสอู่ฮั่น ที่แพร่ระบาดอยู่ในนครอู่ฮั่น มลฑลหูเป่ยของจีน ยังคงน่าเป็นห่วง โดยตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตได้พุ่งเกินกว่าเมื่อครั้งที่เกิดการระบาดของโรคซาร์สไปแล้ว
คนวงนอกอย่างเราได้แต่ส่งกำลังใจ ขณะที่ บรรดากลุ่มที่มีกำลังทรัพย์ อย่างดารา เซเลบริตี มหาเศรษฐี ต่างก็ร่วมกันบริจาคเงิน และสิ่งของ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย ทั้งเซเลบฝั่งจีนเองและจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น แจ๊ก หม่า, ฟ่านปิงปิง, หวังอี้ป๋อ และคนอื่นๆ
ขยับก่อนใครและเป็นข่าวใหญ่มาก ก็ต้องเป็นหนุ่มหน้าเหลี่ยม เศรษฐีอันดับหนึ่งของจีน แจ๊ก หม่า ที่บริจาคเงินถึง 100 ล้านหยวน ในนามของ มูลนิธิแจ๊ก หม่า โดยเจ้าของอาณาจักรอาลีบาบา มีวัตถุประสงค์ให้นำไปใช้ในการวิจัยหาทางต้านเชื้อไวรัสโคโรนาให้เร็วที่สุด
เคลื่อนไหวไวอีกกลุ่มก็คือ วังหาน นำทีมพิธีกรรายการทอล์กโชว์ชื่อดัง Day Day Up อันได้แก่ หวังอี้ป๋อ ต้าจางเว่ย เฉียนเฟิง และเกาเทียนเฮ่อ ที่มีเบสของรายการอยู่ในมลฑลหูหนาน ร่วมบริจาค 1 ล้านหยวนให้กับอู่ฮั่น โดยบอกว่า หูหนานกับหูเป่ยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน เมื่อน้องชายมีปัญหา พี่ชายก็ต้องช่วย ซึ่งพวกเขาหวังให้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปซื้อเวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย และสิ่งจำเป็นอื่นๆ ที่ทางอู่ฮั่นต้องการ
นักแสดงสาวสวย ฟ่านปิงปิง แม้จะเคยมีข่าวฉาว เรื่องโกงภาษีเป็นจำนวนเงินมหาศาลไปก่อนหน้านี้ และเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ออกสื่ออยู่นานมาก แต่เมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤต เธอบริจาคเงินทันทีราว 5 แสนหยวน ให้กับมลฑลหูเป่ยไปใช้ต้านไวรัสโคโรนาตามที่ต้องการ
สิ่งที่ขาดแคลนอย่างหนักในการรับมือกับไวรัสอู่ฮั่นคือ หน้ากากอนามัย นักแสดงสาวชาวไต้หวัน ต้าเอส หรือ สวีซีหยวน เจ้าของบทบาท ซานไช่ ในตำนาน F4 ฉบับออริจินัล จึงร่วมกับสามีนักธุรกิจ หวังเซี่ยวเฟย บริจาคหน้ากากอนามัย 1 หมื่นชิ้น ที่สั่งซื้อจากญี่ปุ่นส่งตรงไปยังอู่ฮั่น อย่างไรก็ตาม สามี-ภรรยาคู่นี้ยังถูกวิจารณ์อย่างหนัก เมื่อบริจาคเงินเพียง 2 แสนหยวน จนต้องรีบเพิ่มจำนวนเป็น 1 ล้านหยวนแทบไม่ทัน
ฝั่งฮ่องกงเองก็มียอดผู้ติดเชื้อโคโรน่าไวรัสอยู่มากกว่า 10 ราย งานนี้ กู่เทียนเล่อ หวงเสี่ยวหมิง และแองเจลาเบบี้ นักแสดงชาวฮ่องกง ร่วมกันบริจาคเงินให้อู่ฮั่นกว่า 14 ล้านหยวน
ด้าน จูอี้หลง นักแสดงชาวอู่ฮั่นตัวจริงเสียงจริง ที่โด่งดังมาจากซีรีส์สายวาย The Guardian ก็บริจาคเงิน 6 แสนหยวน ให้กับท้องถิ่นบ้านเกิด
ขณะที่ กลุ่มแฟนของป๊อปสตาร์ อย่าง ช็อนจองกุก แห่งวงบีทีเอส บอยแบนด์จากเกาหลีใต้ ซึ่งมีฐานแฟนเพลงขนาดใหญ่ในอู่ฮั่น ก็ได้บริจาคในนามกลุ่มแฟนคลับ ช็อนจองกุก บีทีเอส เป็นจำนวน 5.2 หมื่นหยวน โดยประกาศเจตนารมณ์ในการช่วยเหลือเงินสำหรับซื้อหาสิ่งจำเป็นเอาไว้ในทวิตเตอร์
สื่อจีน The Global Times ทวีตเรื่องราวของแฟนคลับป๊อปสตาร์รายอื่นๆ ที่ร่วมแรงร่วมใจกับในการณ์นี้ ไม่ว่าจะเป็น แฟนคลับของหวังอี้ป๋อ แฟนคลับช่ายสวีคุน แฟนคลับวงเอ็กโซ ฯลฯ โดยสภากาชาดของมลฑลหูเป่ยนั้น ได้รับเงินบริจาคมากกว่า 1 หมื่นหยวน จากกลุ่มแฟนคลับเซียวจ้าน แล้วก็ยังมีบรรดากลุ่มแฟนคลับอื่นๆ ที่บริจาคถุงมือ ราว 1.5 แสนคู่ ให้โรงพยาบาลจงหนานของมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น
ข้ามมาถึงฝั่งแฟชั่นเฮาส์ระดับโลก อย่าง แอลวีเอ็มเอช ที่มีโปรดักต์ อย่าง ห ลุยส์ วิตตอง, คริสเตียน ดิออร์, เฟนดิ และเซลีน ฯลฯ กับ เคอริง เจ้าของแบรนด์กุชชี แซงต์ โลรองต์ และบาเลนเซียก้า ก็บริจาคให้กับอู่ฮั่นไปสู้ไวรัสกันรายละ 16 และ 7 ล้านหยวน ตามลำดับ โดย ฟร็องซัวส์ ปิโนลต์ ผู้ก่อตั้งเคอริง ให้สัมภาษณ์ว่า ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่กำลังเผชิญอยู่กับไวรัสโคโรนาทุกคน ให้ผ่านพ้นไปได้โดยไว และหวังว่าเงินบริจาคของพวกเขา จะช่วยเหลือได้บ้างไม่มากก็น้อย
มหาเศรษฐีชาวฮ่องกง ถิงชีซง เจ้าของอาณาจักรรองเท้ากีฬา อันทา สปอร์ตส (Anta Sports) ที่ได้ฉายาว่าเป็นไนกี้แห่งเอเชีย บริจาคให้องค์กรการกุศล 10 ล้านหยวน เพื่อนำไปซื้อเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการต้านไวรัสโคโรน่า
การร่วมมือร่วมใจกันยังแผ่ขยายไปทั่วโลก แม้กระทั่งประเทศที่กำลังทำสงครามทางการค้ากัน โดยเฉพาะ การแข่งขันของบริษัทไอทีต่างๆ ฝั่งอเมริกา บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ ทั้งไมโครซอฟต์ เดลล์ และแอปเปิ้ล ต่างก็ร่วมบริจาคเงินเพื่ออู่ฮั่นกันถ้วนหน้า แบบเรียกว่ามองข้ามสงครามที่กำลังห้ำหั่นกันไปก่อน โดยไมโครซอฟต์บริจาคเงิน 1 ล้านหยวน ขณะที่ บริจาคในนามมูลนิธิบิลล์และเมลินดา เกตส์ อีก 70 ล้านหยวน รวมทั้งแยกเงินอีก 35 ล้านหยวน สำหรับการวิจัยหาวัคซีนเพื่อมาต้านไวรัสโดยเฉพาะ
ขณะที่ ทิม คุก แห่งบ้านแอปเปิ้ล โพสต์ในทวิตเตอร์ว่า “เนื่องในโอกาสวันตรุษจีน แอปเปิ้ลขอส่งความรักและปรารถนาดี มาสู่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา และจะขอบริจาคเงินจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้”
เช่นเดียวกับ คาร์กิล บริษัทผู้ผลิตผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการ ด้านอาหาร เกษตรกรรม การเงิน และอุตสาหกรรมระดับโลก จากสหรัฐฯ ก็บริจาค 2 ล้านหยวน ผ่านสภากาชาดของจีน ในครั้งนี้ด้วย