มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ องค์กรเพื่อสังคมที่ดำเนินงานพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ตามหลักการทรงงานของ “สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี” หรือ “สมเด็จย่า” เพื่อสร้างความสุข ความยั่งยืน และความมั่นคงให้ชุมชน ด้วยแนวคิด “ปลูกป่า ปลูกคน” ในชุมชน โดยการสร้างงานสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน ได้จัดงานเทศกาลประจำปี “สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 6” ส่งมอบความสนุกเป็นของขวัญรับปีใหม่ กิน เล่น ชม ช็อป ชิล รับลมหนาว ในธีม Family-Friendly Festival เทศกาลของทุกคนในครอบครัว กับการจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนให้ชาวบ้านทำธุรกิจสีเขียว สร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน สะท้อนผ่านตลาดถนนคนเดินสายวัฒนธรรมที่สูงที่สุดในประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2562 – 12 มกราคม 2563 เวลา 08:00 – 18:00 น. ณ โครงการพัฒนาดอยตุงฯ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย (แบ่งออกเป็น 4 ช่วง ได้แก่ วันที่ 4 – 10 ธ.ค 62, วันที่ 14 – 15 ธ.ค 62, วันที่ 21 ธ.ค 62 – 5 ม.ค 63 และ วันที่ 11 – 12 ม.ค 63)
พลชม จันทร์อุไร ประธานสายปฏิบัติการธุรกิจเพื่อสังคม มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปภัมถ์ กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า “งานสีสันแห่งดอยตุง ได้จัดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นที่ 6 แล้ว ซึ่งได้ผสมผสานเรื่องศิลปะและวัฒนธรรม เพื่อต่อยอดการพัฒนาศักยภาพชุมชน สร้างกระบวนการเรียนรู้และความสามารถในการเป็นเจ้าของธุรกิจชุมชน ให้พึ่งตัวเองได้อย่างมีศักดิ์ศรี ตลอดจนอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี วิถีชนเผ่าจากรุ่นสู่รุ่น และยังเป็นเวทีให้ 6 ชนเผ่า ได้แก่ อาข่า ไทใหญ่ ไทลื้อ ไทลัวะ ลาหู่ และจีนยูนนาน ได้เผยแพร่วัฒนธรรมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส พร้อมร่วมสร้างความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดการพัฒนาอย่างยั่งยืนของชุมชน
โดยคอนเซปต์และธีมในการจัดงานปีนี้คือ แฟมิลี่ เฟรนด์ลี่ เฟสติวัล เทศกาล กิน เล่น ชม ช็อป ชิล บนถนนคนเดินสายวัฒนธรรมที่สูงที่สุดในประเทศไทย เน้นสนับสนุนการท่องเที่ยงแบบครอบครัว ที่ได้จัดกิจกรรมและสถานที่ให้ ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของทุกเพศทุกวัยในครอบครัว ทั้งคุณพ่อ คุณแม่และลูกๆ ได้มาเที่ยวพักผ่อนและฉลองช่วงเทศกาลความสุขส่งท้ายปี ที่สำคัญงานนี้ยังเน้นเรื่อง ‘การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม’ ด้วยการรณรงค์และสร้างจิตสำนึกให้นักท่องเที่ยวตระหนัก เข้าใจ และลงมือปฏิบัติจริงด้วยการช่วยกันแยกขยะเพื่อการกำจัดให้ถูกวิธี ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญที่ทำให้ โครงการพัฒนาดอยตุงฯ สามารถลดขยะสู่บ่อฝังกลบจนเหลือศูนย์ได้สำเร็จ (Zero waste to land fill) ในปี 2561 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังลดปริมาณของถุงพลาสติก รวมถึงใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการชดเชยคาร์บอนเครดิต (Carbon Neutral) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบในการใช้ทรัพยากร และเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาโลกร้อน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบัน”
สำหรับบรรยากาศภายในพิธีเปิดเต็มไปด้วยความคึกครื้นจากการแสดงของชาวอาข่าใน ‘ชุดวิถีชีวิต’ ที่แสดงให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายแต่น่าหลงใหล และ ‘รำนก รำโต’ การแสดงจากชาวไทใหญ่ ที่กันเชื่อกันว่า นก และ โต เป็นสัตว์ในตำนานสมัยพระพุทธกาล และสัญลักษณ์แห่งความโชคดี ออกมาร่ายรำกินขยะที่อยู่ในบริเวณงาน เพื่อช่วยรักษาความสะอาด ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ก่อนจะทำพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ ด้วยการแสดงเดี่ยวกลองชัย รัวกลองเอาฤกษ์เอาชัย เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนทำพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ ด้วยการเปิดตัดริบบิ้นเปิดผ้ามาสคอตตัว ‘โต’ ที่สูงกว่า 9 เมตร เป็นสัญลักษณ์ว่า เทศกาลแห่งความสุขได้เริ่มขึ้นแล้ว ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย และดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ดอกเจอราเนียมสีสดใส ดอกไม้ทรงโปรดของสมเด็จย่า, กล้วยไม้รองเท้านารีหลายสายพันธุ์ และกล้วยไม้พันธุ์ฟาแลนนอปซิส ที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ ได้พัฒนาและเพาะพันธุ์เอง, ตลอดจนกิจกรรมที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนานและเพลิดเพลินมากมาย อาทิ
โซนอาหาร ที่มีทั้งร้านอาหารชนเผ่าแบบดั้งเดิมและอาหารรสเลิศตำหรับชาววังจาก ครัวตำหนัก เมนูหลากสไตล์ ท่ามกลางเนินเขา สวนสวย และอากาศเย็นสบาย อาทิ ข้าวปุ๊ก ของชาวลาหู่ มีให้ชิมเฉพาะเทศกาลพิเศษหรือปีใหม่, ข้าวฟืนทอด ทำจากแป้งข้าวจ้าวผสมถั่วเหลือง อาหารชาวไทใหญ่ กินง่ายสบายท้อง, ข้าวกั๊นจิ้น เมนูยอดฮิตของชาวไทยภูเขา, ไส้อั่วอาข่า หนึ่งเดียวในเมืองไทย ที่ทำจากเนื้อหมูดำที่เลี้ยงด้วยหยวกกล้วย, ซาจ๊อย เมนูประจำชนเผ่าลาหู่ ทำจากหมูหมักกับสมุนไพรในท้องถิ่น กินแล้วฟิน ดีต่อสุขภาพ, อะโวคาโด้ปั่นนมสด ใช้น้ำผึ้งหรือหญ้าหวานแทนน้ำตาลได้ตามชอบ ปั่นให้ดื่มแบบสดๆ เป็นต้น
โซนหัตถกรรม สินค้าแฟชั่นงานหัตถกรรมชาวไทยภูเขาบนดอยตุงแบบดั้งเดิม และ Eco-Item (อีโค่ ไอเท็ม) สไตล์ดอยตุง ให้นักท่องเที่ยวได้ชม&ช้อปฯ กันเพลินๆ อาทิ เสื้อผ้าชนเผ่าลาหู่ งานต่อผ้าฝีมือผู้เฒ่าผู้แก่ที่ทำกันมาแต่โบราณ ผสานการออกแบบและการจับคู่สีที่สมัยใหม่, เสื้อผ้าชนเผ่าอาข่า ที่มีทั้งรูปแบบดั้งเดิมและประยุกต์ ย่ามหลากสี หมวกและผ้าพันคอไหมพรม ถักทอโดยอาผิ (คุณย่าชาวอาข่า) นอกจากนี้ยังมี ตะกร้าเพ้นท์, หมวกไม้ไผ่, สายข้อมืออาข่า, สมุดโน้ต ฯลฯ จากเด็กนักเรียน โรงเรียนห้วยไร่สามัคคี ที่โชว์ไอเดียลงในงานฝีมือ พัฒนาผลิตภัณฑ์จากเศษผ้าที่เกิดขึ้นในโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ผู้ประกอบการตัวน้อยที่น่าสนับสนุน
โซนถ่ายรูปเช็คอิน กว่า 10 จุดในสวนแม่ฟ้าหลวง ทางลงสวน : มีหน้าต่างดอกไม้ และซุ้มฟักสุดเก๋ รอต้อนรับนักท่องเที่ยวถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อนเป็นด่านแรก ต่อกันที่ ลานห่มหนาว : เช็คอินที่แรกกับ ประติกรรมความต่อเนื่อง แลนด์มาร์คที่ล้อมรอบด้วยดอกไม้ที่ถูกจัดเป็นลายผ้าของชนเผ่าทั้ง 6 และที่ตั้งของ ตัวโตยักษ์ มาสคอตสัตว์แห่งความโชคดีในตำนานของชาวไทยภูเขา สูงกว่า 9 เมตร ออกแบบโดยศิลปินชื่อดัง “โลเล-ทวีศักดิ์ ศรีทองดี” ร่วมกับทีมช่างฝีมือดอยตุง ซึ่งจะมีให้เห็นที่งานนี้เท่านั้น! ติดกันยังมี รังนกยักษ์ และที่นั่งเปลือกหอยยักษ์ อยากมีรูปฮิปก่อนใคร ต้องไปเช็คอินจุดนี้ ส่วนบริเวณทางออกของสวนแม่ฟ้าหลวง ยังมีมุมน่ารักและสร้างพัฒนาการให้เด็กๆ ด้วยสนามเด็กเล่นกลางธรรมชาติ ส่วนผู้ใหญ่ วัยทีนสามารถแวะเช็คอินที่สวนดอกไม้ และซุ้ม Morning Glory นอกจากนี้ยังมีผลงานศิลปะจากศิลปิน “วิชญ์ พิมพ์กาญจนพงศ์” ร่วมด้วย อาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย กับผลงาน ‘อัฒจันทร์สีสันแห่งดอยตุง จุดนัดพบ นั่งพักและถ่ายรูปในมุมสูงได้แบบชิลๆ ตลอดจน Eco House ที่รอต้อนรับคนรักสิ่งแวดล้อม ผลงานที่เต็มไปด้วยความรู้จาก “ศิลปินกลุ่มฉมา” และทีมช่างฝีมือของดอยตุง
โซนกิจกรรม สนุกสนามกับ DoiTung Tree Top Walk ผจญภัยไปกับเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนสะพานเรือนยอดไม้ในป่าใหญ่ความสูงจากพื้นดินกว่า 30 เมตร, Workshop (เวิร์คช็อป) งานฝีมือจากวัสดุเหลือใช้, เล่นกิจกรรมท้องถิ่น อาทิ ฟอร์มูล่าดอย, ไม้ต่อขา สะบ้าดอย เป็นต้น
ดอยช้างมูบ จุดสูงสุดของดอยตุงที่ ธวัชชัย ใยบัว จากศูนย์เด็กใฝ่ดี และน้องๆ เยาวชนในท้องถิ่น มารวมตัวปล่อยของ โชว์ความสามารถเป็นไกด์รุ่นจิ๋ว พานักท่องเที่ยวทัวร์สวนรุกขชาติช้างมูบ, ถ่ายรูปสวยๆ กับวิวฮิตดอยแตก, ชมกุหลาบพันปีหลายสายพันธุ์, ป่าสนสามใบ, ลานพระอาทิตย์อัสดง จุดกำหนิดต้นกุหลาบพันปีคำแดง, ดื่มชาหอมๆ ที่ FAIDEE Café ฝีมือบาริสต้ารุ่นเยาว์ และทำเวิร์คช็อปง่ายๆ จากวัสดุธรรมชาติด้วยตัวเอง เพื่อเป็นของฝากที่มีชิ้นเดียวในโลก
ที่สำคัญ ภายในงานยังมีการรณรงค์ สร้างจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อมในมิติต่างๆ อาทิ การใช้วัสดุตกแต่งภายในงาน หรือ อุปกรณ์ จาน ชาม ช้อน ที่เป็นวัสดุธรรมชาติซึ่งสามารถหาได้ในท้องถิ่น การรณรงค์ให้พกถุงผ้า แก้วน้ำมาเอง นอกจากนี้ยังมี ถังแยกขยะ 5 ประเภท เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ประหยัดเวลาในการแยกขยะแต่ละประเภทไปรีไซเคิล เพื่อเอากลับมาใช้ใหม่ และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่ทำให้ภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก
งานนี้..แค่บอกเล่าคงไม่พอ! ตามไปเช็คลิสต์และสัมผัสการท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่ ที่เติมสีสันให้ชีวิตแบบครบทุกรสชาติ ได้แล้ววันนี้ – 12 มกราคม 2663 เวลา 08:00 – 18:00 น. ณ โครงการพัฒนาดอยตุงฯ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย (แบ่งออกเป็น 4 ช่วง ได้แก่ วันที่ 4 – 10 ธ.ค 62, วันที่ 14 – 15 ธ.ค 62, วันที่ 21 ธ.ค 62 – 5 ม.ค 63 และ วันที่ 11 – 12 ม.ค 63)
ติดตามข่าวสาร หรือสำรองห้องพักได้ที่ www.facebook.com/DoiTungClub