เรื่องผี หรือการมีสัมผัสที่หกถึงพลังงานบางอย่างนั้น เป็นเรื่องความเชื่อเฉพาะบุคคล ซึ่งก็ยังหาข้อพิสูจน์ถึงพลังลี้ลับนี้ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ ว่าผีมีจริงหรือไม่ในโลกใบนี้ แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่มีใครไม่กลัวผี ดังเช่น 4 เซเลบริตีแถวหน้าของเมืองไทย ที่ทุกคนล้วนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าหลบหลู่ เพราะเขาเคยเจอเรื่องสยองขวัญชวนขนหัวลุกมาแล้วกับตัวเอง แต่จะมีใครบ้างที่เจอแขกที่ไม่ได้รับเชิญแบบตัวเป็นๆ และเพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลฮาโลวีน ที่จะถึงในวันพรุ่งนี้แล้ว รีบตามไปฟังเรื่องหลอนๆ จากเซเลบกันเลยคร่า บอกไว้ก่อนว่าใจไม่ถึงห้ามอ่านคนเดียว
เป็นคนที่กลัวผีอยู่แล้ว และเมื่อยิ่งเจอประสบการณ์สุดหลอนมากับตัวเอง ยิ่งทำให้ “เอ-เบญจวรรณ เบอร์แมน” ยิ่งกลัวหนักเข้าไปอีก เพราะทริปล่าสุดเจ้าตัวเพิ่งควงพี่ชายสุดเลิฟ “ป๊อป-วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ” และ “คุณหมอเปา-นพ. ปวริศ ตั้งเรือนรัตน์” จัดทริปไปเที่ยวประเทศฝรั่งเศสมา แต่ขณะที่ไปพักที่บ้านท่านทูตไทยประจำประเทศฝรั่งเศสนั้นเอง ประสบการณ์หลอนก็เกิดขึ้นกับตัวเธอ ที่เล่าทีไรเจ้าตัวก็ยังขนลุกมาถึงตอนนี้
“ตอนนั้นเราไปพักกันที่บ้านท่านทูตประจำฝรั่งเศส ซึ่งบ้านหลังนั้นมีอายุหลายร้อยปีมาก แล้วมีอยู่คืนหนึ่ง หลังจากที่เราไปชอปปิงมาแล้วกลับเข้าห้องพัก ขณะที่กำลังจะล้างหน้า เอรู้สึกเหมือนมีใครกำลังจ้องมองอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ในห้องน้ำก็มีเพียงเราคนเดียว วินาทีนั้นก็เริ่มขนลุกแล้ว พออาบน้ำเสร็จเลยขอไปนอนกับพี่ป๊อปในห้องพี่ป๊อป โดยเอกับหมอเปานอนริมคนละฝั่ง โดยมีพี่ป๊อปนอนกลาง และระหว่างที่เราหลับนั้นเอง เอฝันอะไรก็ไม่รู้เหมือนพยายามจะสู้กับอะไรสักอย่างอยู่ในฝัน แล้วจู่ๆ เราก็สะดุ้งตื่น เพราะเหมือนมีเด็กน้อยฝรั่งผมสีทองมานั่งตรงกลางหน้าอกเรา พอตื่นขึ้นมาพี่ป๊อปบอกว่าเอนอนพูดคนเดียวทั้งคืน”
เอเล่าต่อว่า พอเกิดเหตุการณ์ขนลุกแบบนี้ เธอก็เล่าให้ท่านทูตฟัง “ตื่นมาตอนเช้าเราก็เล่าเรื่องนี้ให้ท่านทูตฟัง ท่านกล่าวปลอบใจว่าส่วนใหญ่คนที่มาพักที่นี่มักจะเจอผีเด็กกันทุกคน แต่เขาเป็นผีดีคอยปกป้องทุกคน ที่โดนผีผู้หญิงทำร้าย แต่ในฝันเอไม่ได้เห็นผีผู้หญิงแต่เพียงรู้สึกว่า เรากำลังสู้กับอะไรสักอย่างอยู่ แล้วมีผีเด็กมานั่งทับที่หน้าอกทำให้เราสะดุ้งตื่น”
เหตุการณ์ขนหัวลุกที่ประเทศฝรั่งเศสนั้น ไม่ใช่ครั้งแรกของการเจอผีสำหรับสาวนักเดินทางอย่างเธอ เพราะเมื่อหลายปีก่อน เธอได้ไปเที่ยวที่บาหลีและไปพักยังโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขา ด้วยสภาพบรรยากาศโดยรอบของโรงแรม ก็ดูวังเวงอยู่แล้ว และพอตกดึกมา ระหว่างที่เธอนอนเหตุการณ์ขนหัวลุกก็เกิดขึ้นกับเธอ
“โรงแรมที่เอไปพักตั้งอยู่บนภูเขา พอตกค่ำมามันก็จะดูวังเวงอยู่แล้ว และคืนนั้นระหว่างที่เรากำลังหลับเพลินๆ อยู่ ในจังหวะที่ครึ่งหลับครึ่งตื่น พอเราลืมตามาก็เห็นพนักงานผู้หญิงของโรงแรม แต่งกายด้วยชุดสีครีมเก่าๆ หน้าดูเละๆ จ้องมองเราอยู่บนเตียง ตอนนั้นตกใจมาก ท่องนะโมตัสสะอย่างเดียวเลย และสุดท้ายผู้หญิงคนนั้นก็หายไป พอตั้งสติได้คืนนั้นทั้งคืนเราแทบไม่กล้าหลับตาเลยก็ว่าได้ เพราะมันหลอนมาก”
เช่นเดียวกับพี่ชายสุดเลิฟของเธอ “ป๊อป-วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ” ที่เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงชวนขนลุกเมื่อครั้งที่ตัวเองเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น และในคืนที่กำลังเอนหลังพิงกายแบบครึ่งหลับครึ่งตื่นเหตุการณ์สะพรึงก็ได้เกิดขึ้น
“เมื่อหลายปีที่แล้ว พี่ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น ตอนเช้าที่เราเข้าพักเช็กอินในห้อง แรกๆ ก็แอบรู้สึกเหมือนกับหายใจไม่ออก อึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ตอนแรกก็คิดว่าเป็นเพราะห้องแคบเลยทำให้รู้สึกอึดอัด จึงออกไปเดินเล่นข้างนอก อาการที่อึดอัดก็หายไป แต่เมื่อตอนนอน ด้วยความที่เราเป็นคนสายตาสั้น จึงต้องปิดเสียงโทรศัพท์ก่อนนอน แล้วก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอน06.30 น. แต่ปรากฏว่าระหว่างที่เรานอนครึ่งหลับครึ่งตื่นประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือพี่ดังขึ้น ทั้งๆ ที่เราปิดเสียงไว้แล้ว แต่ก็ไม่ได้หยิบเอาโทรศัพท์มาดู ตอนเช้าพอเราตื่นก็หยิบโทรศัพท์มาดูว่าตอนเที่ยงคืนมีคนโทร.เข้ามาจริงไหม แล้วเราเปิดดู Alarm ในโทรศัพท์ปรากฏว่า ตอนเที่ยงคืนครึ่งมีข้อความที่มันถูกแปลเป็นภาษาไทยว่า “นะนะ ไรไร น่าเห็นผมเหรอครับ” ซึ่งก็แปลเป็นไทยได้ว่า คุณเห็นหน้าผมหรอครับ ซึ่งในเวลานั้นจะมีใครมายุ่งกับโทรศัพท์ของเราได้ ซึ่งพี่เห็นข้อความนี้ก็ขนลุก แล้วเราก็ยังเอามาให้คนอื่นดู ทุกวันนี้นี้ยังเก็บข้อความนี้ไว้ในโทรศัพท์มือถืออยู่เลย แต่หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับพี่ ชีวิตของเราก็เจอแต่สิ่งดีๆ มาโดยตลอด อาจเป็นเพราะเขามาให้พรเราก็ได้” ชายหนุ่มเล่าประสบการณ์หลอน
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เจอประสบการณ์หลอนด้วยตัวเอง แต่ก็ทำให้เซเลบสาวสายลุย “พลอย-ฐิติกุล อยู่วิทยา” เกิดอาการเดอะช็อกอยู่นิดหน่อย เพราะจู่ๆ แฟนของเพื่อนเธอก็ทักว่า มีเด็กน้อยตามติดอยู่รอบๆ ตัวเยอะมาก ดังนั้น ช่วงหลังเจ้าตัวจึงเปลี่ยนไลฟ์สไตล์จากตะลอนเที่ยวทั่วโลก กลายมาเป็นเดินสายทำบุญอย่างต่อเนื่อง
“สำหรับพลอยเป็นคนไม่ได้มีสัมผัสที่หกหรือซิกเซนส์อะไร แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีเหตุการณ์สุดช็อกเกิดขึ้นกับเรา เพราะแฟนของเพื่อนที่มาทานข้าวด้วยกันที่บ้านพลอย และพอเขากลับไปกับเพื่อนเรา เขาถามเพื่อนพลอยว่า พลอยเคยไปเดินสายขอลูกมาใช่ไหม แล้วก็เคยแท้งลูกด้วยใช่ไหม เพราะเขาเห็นวิญญาณเด็กน้อยอยู่รอบๆ ตัวพลอยเยอะมาก”
พลอยเล่าว่า พอได้ยินเพื่อนแฟนทักมาแบบนี้ ตัวเธอเองก็ตกใจและหลอนไม่น้อย เพราะเธอไม่เคยเล่าให้เพื่อนคนไหนฟังว่า เธอเคยท้องและแท้งลูกไปเมื่อเร็วๆ นี้
“ตอนนั้นพอเราได้ยินเพื่อนพูดก็แอบหลอนนิดๆ แต่เขาก็แนะนำมาว่า ถ้าหากอยากจะมีลูกเราต้องเดินสายทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และก็เด็กที่หลุดจากพลอยไป ซึ่งตอนนี้พลอยกับสามีก็ตระเวนทำบุญไปทุกที่ ที่ไหนบอกว่าศักดิ์สิทธิ์ขอลูกแล้วจะได้เราก็ไปหมดค่ะ” พลอยเล่าด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
ด้านคุณพ่อมือใหม่ “แดน เหตระกูล” เล่าให้ฟังว่า เมื่อครั้งที่เขาเดินทางไปเที่ยวที่สหรัฐอเมริกา เขาก็เคยเจอเหตุการณ์ชวนขนหัวลุกเช่นเดียวกัน
“คืนนั้นระหว่างที่ผมกำลังนอนหลับอยู่ในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง จู่ๆ ผมก็ฝันว่าเรากำลังต่อสู้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ และเหมือนเรากำลังจะเปล่งเสียงร้องออกมาให้ใครช่วย เราก็ตะโกนออกมาไม่ได้ เหมือนมีพลังงานบางสิ่งบางอย่างกดทับที่หน้าอกเราอยู่ เราพยายามที่จะต่อสู้กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่ยิ่งสู้เหมือนยิ่งหมดแรง และพอเราพยายามจะลืมตา เหมือนมีผีผู้หญิงผมยาวกำลังนั่งทับหน้าอกเราอยู่ เราจึงจะลืมตาขึ้นมาให้ได้ และพอลืมตาได้สติ ผมรีบท่องนะโมตัสสะทันทีเลยครับ” หนุ่มแดนเล่าเรื่องขนหัวลุกปิดท้าย
เป็นคนที่กลัวผีอยู่แล้ว และเมื่อยิ่งเจอประสบการณ์สุดหลอนมากับตัวเอง ยิ่งทำให้ “เอ-เบญจวรรณ เบอร์แมน” ยิ่งกลัวหนักเข้าไปอีก เพราะทริปล่าสุดเจ้าตัวเพิ่งควงพี่ชายสุดเลิฟ “ป๊อป-วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ” และ “คุณหมอเปา-นพ. ปวริศ ตั้งเรือนรัตน์” จัดทริปไปเที่ยวประเทศฝรั่งเศสมา แต่ขณะที่ไปพักที่บ้านท่านทูตไทยประจำประเทศฝรั่งเศสนั้นเอง ประสบการณ์หลอนก็เกิดขึ้นกับตัวเธอ ที่เล่าทีไรเจ้าตัวก็ยังขนลุกมาถึงตอนนี้
“ตอนนั้นเราไปพักกันที่บ้านท่านทูตประจำฝรั่งเศส ซึ่งบ้านหลังนั้นมีอายุหลายร้อยปีมาก แล้วมีอยู่คืนหนึ่ง หลังจากที่เราไปชอปปิงมาแล้วกลับเข้าห้องพัก ขณะที่กำลังจะล้างหน้า เอรู้สึกเหมือนมีใครกำลังจ้องมองอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ในห้องน้ำก็มีเพียงเราคนเดียว วินาทีนั้นก็เริ่มขนลุกแล้ว พออาบน้ำเสร็จเลยขอไปนอนกับพี่ป๊อปในห้องพี่ป๊อป โดยเอกับหมอเปานอนริมคนละฝั่ง โดยมีพี่ป๊อปนอนกลาง และระหว่างที่เราหลับนั้นเอง เอฝันอะไรก็ไม่รู้เหมือนพยายามจะสู้กับอะไรสักอย่างอยู่ในฝัน แล้วจู่ๆ เราก็สะดุ้งตื่น เพราะเหมือนมีเด็กน้อยฝรั่งผมสีทองมานั่งตรงกลางหน้าอกเรา พอตื่นขึ้นมาพี่ป๊อปบอกว่าเอนอนพูดคนเดียวทั้งคืน”
เอเล่าต่อว่า พอเกิดเหตุการณ์ขนลุกแบบนี้ เธอก็เล่าให้ท่านทูตฟัง “ตื่นมาตอนเช้าเราก็เล่าเรื่องนี้ให้ท่านทูตฟัง ท่านกล่าวปลอบใจว่าส่วนใหญ่คนที่มาพักที่นี่มักจะเจอผีเด็กกันทุกคน แต่เขาเป็นผีดีคอยปกป้องทุกคน ที่โดนผีผู้หญิงทำร้าย แต่ในฝันเอไม่ได้เห็นผีผู้หญิงแต่เพียงรู้สึกว่า เรากำลังสู้กับอะไรสักอย่างอยู่ แล้วมีผีเด็กมานั่งทับที่หน้าอกทำให้เราสะดุ้งตื่น”
เหตุการณ์ขนหัวลุกที่ประเทศฝรั่งเศสนั้น ไม่ใช่ครั้งแรกของการเจอผีสำหรับสาวนักเดินทางอย่างเธอ เพราะเมื่อหลายปีก่อน เธอได้ไปเที่ยวที่บาหลีและไปพักยังโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขา ด้วยสภาพบรรยากาศโดยรอบของโรงแรม ก็ดูวังเวงอยู่แล้ว และพอตกดึกมา ระหว่างที่เธอนอนเหตุการณ์ขนหัวลุกก็เกิดขึ้นกับเธอ
“โรงแรมที่เอไปพักตั้งอยู่บนภูเขา พอตกค่ำมามันก็จะดูวังเวงอยู่แล้ว และคืนนั้นระหว่างที่เรากำลังหลับเพลินๆ อยู่ ในจังหวะที่ครึ่งหลับครึ่งตื่น พอเราลืมตามาก็เห็นพนักงานผู้หญิงของโรงแรม แต่งกายด้วยชุดสีครีมเก่าๆ หน้าดูเละๆ จ้องมองเราอยู่บนเตียง ตอนนั้นตกใจมาก ท่องนะโมตัสสะอย่างเดียวเลย และสุดท้ายผู้หญิงคนนั้นก็หายไป พอตั้งสติได้คืนนั้นทั้งคืนเราแทบไม่กล้าหลับตาเลยก็ว่าได้ เพราะมันหลอนมาก”
เช่นเดียวกับพี่ชายสุดเลิฟของเธอ “ป๊อป-วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ” ที่เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงชวนขนลุกเมื่อครั้งที่ตัวเองเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น และในคืนที่กำลังเอนหลังพิงกายแบบครึ่งหลับครึ่งตื่นเหตุการณ์สะพรึงก็ได้เกิดขึ้น
“เมื่อหลายปีที่แล้ว พี่ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น ตอนเช้าที่เราเข้าพักเช็กอินในห้อง แรกๆ ก็แอบรู้สึกเหมือนกับหายใจไม่ออก อึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ตอนแรกก็คิดว่าเป็นเพราะห้องแคบเลยทำให้รู้สึกอึดอัด จึงออกไปเดินเล่นข้างนอก อาการที่อึดอัดก็หายไป แต่เมื่อตอนนอน ด้วยความที่เราเป็นคนสายตาสั้น จึงต้องปิดเสียงโทรศัพท์ก่อนนอน แล้วก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอน06.30 น. แต่ปรากฏว่าระหว่างที่เรานอนครึ่งหลับครึ่งตื่นประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือพี่ดังขึ้น ทั้งๆ ที่เราปิดเสียงไว้แล้ว แต่ก็ไม่ได้หยิบเอาโทรศัพท์มาดู ตอนเช้าพอเราตื่นก็หยิบโทรศัพท์มาดูว่าตอนเที่ยงคืนมีคนโทร.เข้ามาจริงไหม แล้วเราเปิดดู Alarm ในโทรศัพท์ปรากฏว่า ตอนเที่ยงคืนครึ่งมีข้อความที่มันถูกแปลเป็นภาษาไทยว่า “นะนะ ไรไร น่าเห็นผมเหรอครับ” ซึ่งก็แปลเป็นไทยได้ว่า คุณเห็นหน้าผมหรอครับ ซึ่งในเวลานั้นจะมีใครมายุ่งกับโทรศัพท์ของเราได้ ซึ่งพี่เห็นข้อความนี้ก็ขนลุก แล้วเราก็ยังเอามาให้คนอื่นดู ทุกวันนี้นี้ยังเก็บข้อความนี้ไว้ในโทรศัพท์มือถืออยู่เลย แต่หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับพี่ ชีวิตของเราก็เจอแต่สิ่งดีๆ มาโดยตลอด อาจเป็นเพราะเขามาให้พรเราก็ได้” ชายหนุ่มเล่าประสบการณ์หลอน
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เจอประสบการณ์หลอนด้วยตัวเอง แต่ก็ทำให้เซเลบสาวสายลุย “พลอย-ฐิติกุล อยู่วิทยา” เกิดอาการเดอะช็อกอยู่นิดหน่อย เพราะจู่ๆ แฟนของเพื่อนเธอก็ทักว่า มีเด็กน้อยตามติดอยู่รอบๆ ตัวเยอะมาก ดังนั้น ช่วงหลังเจ้าตัวจึงเปลี่ยนไลฟ์สไตล์จากตะลอนเที่ยวทั่วโลก กลายมาเป็นเดินสายทำบุญอย่างต่อเนื่อง
“สำหรับพลอยเป็นคนไม่ได้มีสัมผัสที่หกหรือซิกเซนส์อะไร แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีเหตุการณ์สุดช็อกเกิดขึ้นกับเรา เพราะแฟนของเพื่อนที่มาทานข้าวด้วยกันที่บ้านพลอย และพอเขากลับไปกับเพื่อนเรา เขาถามเพื่อนพลอยว่า พลอยเคยไปเดินสายขอลูกมาใช่ไหม แล้วก็เคยแท้งลูกด้วยใช่ไหม เพราะเขาเห็นวิญญาณเด็กน้อยอยู่รอบๆ ตัวพลอยเยอะมาก”
พลอยเล่าว่า พอได้ยินเพื่อนแฟนทักมาแบบนี้ ตัวเธอเองก็ตกใจและหลอนไม่น้อย เพราะเธอไม่เคยเล่าให้เพื่อนคนไหนฟังว่า เธอเคยท้องและแท้งลูกไปเมื่อเร็วๆ นี้
“ตอนนั้นพอเราได้ยินเพื่อนพูดก็แอบหลอนนิดๆ แต่เขาก็แนะนำมาว่า ถ้าหากอยากจะมีลูกเราต้องเดินสายทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และก็เด็กที่หลุดจากพลอยไป ซึ่งตอนนี้พลอยกับสามีก็ตระเวนทำบุญไปทุกที่ ที่ไหนบอกว่าศักดิ์สิทธิ์ขอลูกแล้วจะได้เราก็ไปหมดค่ะ” พลอยเล่าด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
ด้านคุณพ่อมือใหม่ “แดน เหตระกูล” เล่าให้ฟังว่า เมื่อครั้งที่เขาเดินทางไปเที่ยวที่สหรัฐอเมริกา เขาก็เคยเจอเหตุการณ์ชวนขนหัวลุกเช่นเดียวกัน
“คืนนั้นระหว่างที่ผมกำลังนอนหลับอยู่ในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง จู่ๆ ผมก็ฝันว่าเรากำลังต่อสู้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ และเหมือนเรากำลังจะเปล่งเสียงร้องออกมาให้ใครช่วย เราก็ตะโกนออกมาไม่ได้ เหมือนมีพลังงานบางสิ่งบางอย่างกดทับที่หน้าอกเราอยู่ เราพยายามที่จะต่อสู้กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่ยิ่งสู้เหมือนยิ่งหมดแรง และพอเราพยายามจะลืมตา เหมือนมีผีผู้หญิงผมยาวกำลังนั่งทับหน้าอกเราอยู่ เราจึงจะลืมตาขึ้นมาให้ได้ และพอลืมตาได้สติ ผมรีบท่องนะโมตัสสะทันทีเลยครับ” หนุ่มแดนเล่าเรื่องขนหัวลุกปิดท้าย