>>วิธีบ่มเพาะอุปนิสัยสำคัญ อย่าง การปลูกจิตสำนึกในการทำงานเพื่อประโยชน์ของคนอื่นให้กับลูกสาวทั้งสอง (เพลง 14 ปี พิณ 11 ปี) ของผู้หญิงคนนี้น่าสนใจมาก “ติ๊ก-อภิภาวดี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา” เธอใช้เทคนิคทำให้ดูเป็นแบบอย่าง เพราะพ่อแม่คือผู้แสดงโลกใบนี้ให้ลูกเห็น
ติ๊กทำงานจิตอาสาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ให้กับมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม องค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีภารกิจในการช่วยรักษาผู้ที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ทั่วประเทศที่ด้อยโอกาส ไม่จำกัดอายุ ไม่จำกัดเชื้อชาติ ไม่จำกัดสิทธิ์ โดยทำการผ่าตัดให้แบบไม่คิดค่าใช้จ่าย ทุกๆ ปีมูลนิธิจะมีกิจกรรมลงพื้นที่กับทีมแพทย์อาสาและอาสาสมัครไปยังถิ่นห่างไกล ล่าสุด กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
“ทำงานกับมูลนิธิเพราะอยากให้ลูกได้เห็นโลกอีกมุมหนึ่ง ให้เห็นความโชคดีของตัวเอง เป็นการบอกกลายๆ ให้ลูกได้คิดทำอะไรคืนกลับให้สังคมได้” เป็นวิธีสอนลูกที่ปลูกจิตสำนึกดีงามในการช่วยเหลือผู้อื่น ตามกำลังและความสามารถของตน
ติ๊กทำงานจิตอาสากับมูลนิธิสร้างรอยยิ้มมานานหลายปี และมักบอกเล่าเรื่องราวของเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ที่พบเห็น ซึ่งเข้ามารับการผ่าตัดให้เพลงกับพิณฟังอยู่บ่อยๆ ทว่าลูกๆ ของเธอก็ยังไม่เคยได้มาเห็นสภาพการณ์ต่างๆ ด้วยตัวเอง ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ติ๊กพาลูกสาวมาช่วยทำงานกับกิจกรรมของมูลนิธิ
การได้มาเห็นของจริงในพื้นที่ เห็นการทำงานของทีมแพทย์และอาสาสมัคร เห็นคนเจ็บป่วย ซึ่งเป็นคนขาดโอกาสที่จะเข้าถึงการดูแลรักษาตนเอง ให้หายจากภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ทำให้ตระหนักชัดได้อีกเรื่องว่า ผู้คนเหล่านี้ไม่ได้ขาดแต่เพียงโอกาสเท่านั้น แต่ชีวิตยังมีความยากลำบากมาก เพราะแม้แต่เงินติดตัวที่จะใช้กินและใช้จ่าย เพื่อเดินทางมารับการรักษาก็ยังไม่มี
น้องเพลง-เพลงรำไพ เครือโสภณ เล่าว่า “ตอนนี้หนูเป็นประธานชมรมอาสาของโรงเรียน ก็ช่วยจัดกิจกรรมเพื่อมาร่วมโครงการกับมูลนิธิได้ 3 ปีแล้วค่ะ แต่คราวนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาลงพื้นที่จริงๆ ทำให้เข้าใจการทำงานของมูลนิธิมากขึ้น ว่าไม่ได้รักษาแค่ปากแหว่งเพดานโหว่ แต่ยังรวมถึงแผลไฟไหม้ มือติดกัน หรือผิวหนังมีปัญหาอีกด้วย มันสอนเราให้รู้จักการเสียสละและเห็นใจคนที่ลำบากกว่าเรา เป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิตหนูค่ะ นอกจากนี้ เพลงยังไปปลูกป่ากับคุณแม่ และไปช่วยดูแลเด็กพิการกับคุณแม่ด้วยค่ะ เป็นกิจกรรมอาสาที่คุณแม่จะพาเราสองคนไปบ่อยๆ”
สำหรับเพลงและพิณ การร่วมกิจกรรมครั้งนี้ต้องเรียกว่าเป็นคลาสนอกห้องเรียนที่ได้เรียนรู้วิชาชีวิต รู้เพิ่มขึ้นว่าการแบ่งปันแรงกายแรงใจมีความสำคัญต่อจิตใจผู้อื่นเช่นกัน สองพี่น้องจึงรับหน้าที่เดินแจกน้ำให้ทุกคน แจกของเล่น และแจกเสื้อยืดที่คุณแม่ติ๊กผลิตไว้สำหรับขายระดมทุนให้มูลนิธิ แต่ยังขายไม่หมด จึงนำมาแจกจ่ายให้ครอบครัวคนไข้ที่มารับบริการแจกน้ำไปด้วย และอยู่เป็นเพื่อนเล่นเด็กที่เล็กกว่า ใช้ความสนุกลดความตึงเครียดจากการรอคอยพบคุณหมอของพวกเขา
คนไทยทุกคนสามารถหยิบยื่นโอกาสสร้างรอยยิ้มสดใสให้เด็กด้อยโอกาส ด้วยการร่วมบริจาคสนับสนุนมูลนิธิสร้างรอยยิ้มได้ที่ http://www.operationsmile.or.th