xs
xsm
sm
md
lg

หวานนอก แกร่งใน สไตล์ “ศุภมาส ลักษณวิศิษฏ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>อีกหนึ่งเวิร์กกิงวูแมนสาวที่ไม่ทิ้งเรื่องการดูแลครอบครัว และการดูแลตัวเอง “มาส-ศุภมาส ลักษณวิศิษฏ์” คุณแม่ยังสวยของสาวน้อย “มิลค์กี้-จิราภา ลักษณวิศิษฏ์” สาวสังคมคุ้นหน้าซึ่งกำลังมาแรงในขณะนี้ โดยครั้งนี้เราบุกมาเปิดตู้ดูสไตล์การแต่งตัวของเธอถึงที่บ้าน “ฤกษ์ศรีลักษณ์” ย่านพัฒนาการ ต้องบอกว่าเห็นสไตล์นุ่มนิ่มเป็นคุณแม่ใจดีอย่างนี้ แต่ความจริงแล้วเธอเป็นสาวลุยคนหนึ่งเลยทีเดียว

ย้อนไปเมื่อเกือบ 26 ปีที่แล้ว คุณมาสเล่าให้ฟังว่า เธอเริ่มต้นธุรกิจเสื้อผ้าจนกลายเป็นเจ้าของธุรกิจขายส่งเสื้อแบรนด์ By Memi เจ้าใหญ่บนตึกใบหยก โดยทั้งหมดเกิดขึ้นจากความชอบล้วนๆ!

“ตอนเรียนจบถามตัวเองว่าชอบทำอะไร? ซึ่งคำตอบคือชอบเสื้อผ้า ชอบแต่งตัว ชอบความสวยความงาม ตอนแรกคิดว่าทำร้านเสริมสวยดีไหม แต่มาคิดว่าตัวเองไม่ถนัดด้านนี้ ก็เลยเบนเข็มมาทางเรื่องของเสื้อผ้า เพราะเวลาเราแต่งตัวคนมักทักว่าดูดีและถามว่าซื้อที่ไหน ก็เลยคิดว่าเข้าทางเราเลย ถ้าอย่างนั้นมาทำเสื้อผ้าเลยแล้วกัน!

ทุกอย่างเริ่มต้นเองหมดเลย ตั้งแต่การออกแบบ ไปจ้างโรงงานตัดเสื้อ แล้วมาเปิดร้านขายปลีก เอาเสื้อผ้าของร้านอื่นมาขายบ้าง ซึ่งตอนนั้นขายดีมาก จากนั้นจึงเริ่มขยับมาเป็นเจ้าใหญ่ทำเสื้อผ้าขายส่งที่ตึกใบหยก เพราะเรารู้จักตลาด รู้การผลิต รู้ซัพพลายเออร์ ส่วนใหญ่จะเน้นขายเป็นล็อตใหญ่ ซึ่งงานนี้เป็นธุรกิจที่ทำมากว่า 26 ปี ตอนนี้เรามีโรงงานผลิตเอง ดีไซน์เอง นอกจากนั้น เราก็ยังนำเข้าเสื้อผ้ามาจากฮ่องกงด้วย เรียกได้ว่าเราก็คลุกคลีอยู่กับแวดวงแฟชั่นพอสมควร”

ด้วยพรสวรรค์บวกกับความขยัน ทำให้ไม่ว่าเธอจับธุรกิจอะไรก็ประสบความสำเร็จในหลายๆ ด้านเพราะนอกจากจะทำเรื่องของเสื้อผ้าแล้ว ก็ยังมีเรื่องของการทำอพาร์ตเมนต์ให้เช่า ซึ่งก็ไม่เคยทำให้เธอต้องกังวลกับเรื่องของงานเลย

“อาจจะเป็นเพราะเราโชคดี เริ่มทำธุรกิจเสื้อผ้าก็ขายได้ดี เรียกว่าประสบความสำเร็จเลยตั้งแต่ปีแรก คงเป็นเพราะเราขยัน เราทำงานตลอดไม่มีวันหยุด จากนั้นก็เริ่มนำเข้าเสื้อผ้าจากฮ่องกงก็ขายดีอีก พอทั้งสองอย่างเริ่มอยู่ตัว ก็มาซื้ออพาร์ตเมนต์ให้คนเช่า ตอนแรกก็กลัวนะเพราะเป็นเงินก้อนใหญ่มากสำหรับเรา รู้สึกว่าเสี่ยงแต่คิดว่าในความเสี่ยงก็ยังมีความหวังจึงตัดสินใจทำ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ ไม่มีปัญหากวนใจ แล้วเรายังสามารถใช้ชั้นบนทำเป็นโรงงานตัดผ้าของเราได้ด้วย”

แม้บุคลิกจะดูเป็นสาวนุ่มนิ่ม ใจดี แต่ความจริงเธอเป็นสาวลุยทำงานหนัก เช่นเดียวกับชอบชอปปิ้งหนักด้วยเช่นกัน

“เป็นคนนิสัยไม่ดีเรื่องชอปปิ้งเลย ถ้าเห็นแล้วปิ๊งคือต้องซื้อเลย ไม่มีการกลับมานอนคิด (หัวเราะ) ชอบเสียเงินกับความต้องการของตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเจอแล้วซื้อทุกอย่าง การซื้อของต้องมีเหตุและผล พิจารณาว่าซื้อแล้วได้ใช้ไหม ชอบไหม ใช้ได้นานแค่ไหน เพราะเป็นคนที่ซื้อแล้วต้องใช้ให้นานที่สุด ถ้าไม่ใช่สไตล์เราก็ไม่ซื้อ”


อย่างที่บอกว่าการซื้อของนั้นต้องเป็นสไตล์ของเธอและต้องมีเหตุผล ซึ่งเมื่อคุยถึงสไตล์ของเธอนั้น เธอตอบสั้นๆ ง่ายๆ เลยว่า “เรียบและโก้” อะไรที่ไม่ใช่สไตล์ก็ไม่คิดจะลองแน่นอน

“เหมือนเราเป็นคนรู้จักมิกซ์แอนด์แมตช์ สไตล์การแต่งตัวเรียบๆ เน้นคำว่า “คลาสสิก” เสื้อผ้าที่เลือกจะต้องใส่ได้นานส่วนใหญ่เป็นสีดำ น้ำตาล กรมท่า เทา เราจะไม่ฝืนใส่ในสิ่งที่เราไม่ชอบ หรือไม่ใช่ตัวเรา อย่างสไตล์สตรีทอะไรแบบนี้ไม่ใช่สไตล์เราเลย ชอบอะไรที่ดูคลาสสิกอาจมีตามสมัยนิยมบ้าง แต่ก็จะเลือกที่เข้ากับตัวเอง

ที่สำคัญคือต้องดูความเหมาะสมของงานหรือสถานที่ที่เราจะไป เราแต่งตัวอิงธีมของงานไว้ก่อน ตามความเหมาะสม แต่เราเป็นคนที่ต้องแต่งตัวสวยทุกวัน แต่งหน้าทุกวัน เป็นเพราะเราต้องออกนอกบ้านทุกวัน เจอลูกค้า เจอผู้คน ถ้าไปโทรมๆ ก็คงดูไม่ดี ต้องสร้างความน่าเชื่อถือ เพราะนอกจากการทำธุรกิจส่วนตัวแล้วเรายังทำงานเพื่อสังคมโดยเป็นผู้พิพากษาสมทบ เป็นผู้ประนีประนอมของศาลแพ่งด้วย แต่แม้จะทำงานเยอะแต่สิ่งที่ไม่ลืมคือครอบครัว เราจะดูแลคุณพ่อ ดูแลลูกและสามีด้วย” สาวแกร่งตอบอย่างอารมณ์ดี
กำลังโหลดความคิดเห็น