>>เป็นอีกหนึ่งสาวเก๋ ที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจน สำหรับ “บุ๋ม-จารุจิต ใบหยก” ผู้บริหารโรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ พร้อมๆ กับนั่งเก้าอี้ผู้ช่วยประธานกรรมการกลุ่มโรงแรมใบหยกและยังเป็นผู้นำเข้าแบรนด์ร้านขนมสัญชาติเกาหลี สวีต มอนสเตอร์ (Sweet Monster) แม้ลุคภายนอกจะดูเป็นผู้บริหารสุดเปรี้ยว ที่มีไลฟ์สไตล์โฉบเฉี่ยว แต่พอเปลี่ยนหัวข้อชวนคุยจากเรื่องธุรกิจ เบนความสนใจจากเรื่องแฟชั่นที่หลายคนติดภาพว่าเธอคือหนึ่งในแฟชั่นนิสต้าของเมืองไทย มาชวนคุยเรื่องเบาๆ อย่างการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เธอหลงรัก กลับได้พบอีกตัวตนที่น่าสนใจที่ซ่อนอยู่ภายใต้ผู้บริหารสาวเก่งทายาทตระกูลดังมากมาย
ทริปแรกที่ออกเดินทาง : ถ้าพูดถึงทริปการเดินทางครั้งแรกไปต่างประเทศเลยจริงๆ คือไปฮ่องกงกับที่บ้าน ตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ด้วยซ้ำ ที่รู้เพราะเห็นจากรูปถ่าย (ยิ้ม) พอโตขึ้นมาหน่อย ตั้งแต่จำความได้ก็มีโอกาสเดินทางบ่อย ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางไปกับครอบครัวจนกระทั่งช่วงที่เรียนจบมหาวิทยาลัย ถึงได้มีโอกาสแพลนทริปเที่ยวของตัวเองจริงจัง ตอนนั้นเลือกไปอังกฤษและฝรั่งเศส กับกลุ่มเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยม
สถานที่ที่ไปบ่อยสุด : ประเทศที่ไปบ่อยสุดคือ ญี่ปุ่น จำได้ว่าไปครั้งแรกตอนเรียนอยู่ ม.4-ม.5 หลังจากนั้นก็มีโอกาสไปทุกปี บางปีไปถี่ถึง 2-3 ครั้ง เพราะด้วยความที่พี่ชายคนโตเคยเรียนอยู่ญี่ปุ่น เวลาไปเลยค่อนข้างสะดวก บวกกับเราเองก็ชอบในความน่ารักของบ้านเมืองสไตล์ญี่ปุ่น ไปกี่ครั้งก็ประทับใจ แต่ก่อนอาจจะไปแต่โตเกียว แต่หลังๆ ก็เริ่มเปลี่ยนบรรยากาศไปเมืองอื่นๆ บ้าง
ทริปที่ประทับใจ : ยกให้ทริปที่ไปทำบุญ และไปบริจาคของสร้างโรงเรียนที่ตำบลตระเปียงเตีย จังหวัดสุรินทร์ ที่รู้สึกประทับใจกับทริปนี้เป็นพิเศษ เพราะทริปอื่นๆ ที่เราไปเที่ยวก็สนุก ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ให้ชีวิต เพราะเราได้ความอิ่มเอมใจกลับมา ชาวบ้านและเด็กๆ ในพื้นที่น่ารักมาก เราได้เห็นวิถีชาวบ้านโบราณ ที่มีคุณตาคุณยายมาทำพิธีบายศรีสู่ขวัญให้ตามธรรมเนียม ที่จำได้ไม่ลืมเลยคือ ตอนที่คุณตาคุณยายทำบายศรีให้และเอ่ยขอบคุณ พร้อมอวยพรให้พวกเราที่ไป คือ เป็นโมเมนต์ที่ซึ้งและประทับใจมาก เราเองเป็นใครก็ไม่รู้ เป็นคนแปลกหน้าด้วยซ้ำ แต่คุณตาคุณยายเหล่านั้นก็ใจดี มาอวยพรเรา ต้อนรับพวกเราอย่างดี มีการแสดง อาหารมาเลี้ยงพวกเรา
ทริปที่แปลก หรือสถานที่ที่น่าตื่นเต้น : ทริปตอนไปเชียงรายกับเพื่อนสนิท 5 คน ครั้งนั้นก็ตั้งใจไปกันเองแบบลุยๆ เหมือนกัน ไปนอนโฮสเทลแบบใช้ห้องน้ำรวม ไปขี่ม้าขึ้นเขา ลงห้วยสนุกมาก จะเรียกว่าเป็นทริปที่ลุยที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ เพราะตอนไปก็เพิ่งเคยขี่ม้าครั้งแรก ไปฝึกอยู่ประมาณ 20 นาที ก็ออกลุยเลย ขึ้นเขา มีเดินหน้าผา จำได้ว่าพอขึ้นหลังม้า คุณลุงที่เป็นคนนำทางก็ตะโกนบอกว่า อย่าให้ม้าหันไปกินหญ้า หรือเสียสมาธินะ เพราะเดี๋ยวจะตกเหว พอได้ยินแบบนั้นเราก็ลองมองรอบตัวดู ปรากฏว่าเป็นเหวจริงๆ คิดไปก็ยังหวาดเสียว เพราะตอนนั้นทางที่ม้าเดินก็แคบมาก ถ้าให้เราเดินเองด้วยสองขาของเราก็ลำบากแล้ว นี่ต้องขี่ม้าบังคับทางด้วยยิ่งยาก แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ และกลายเป็นวีรกรรมในชีวิตครั้งหนึ่งของการเดินทางที่ตื่นเต้นไม่รู้ลืม
ของขวัญชิ้นประทับใจที่ได้จากต่างแดน : Dream Catcher เป็นของฝากที่เพื่อนซื้อมาให้ เพื่อนบอกว่าซื้อมาจากชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกัน ตอนที่ได้มาชอบมากเลยเอาแขวนไว้ตลอด
Dress Code ที่เตรียมตัวในการเดินทางทุกครั้ง : Swear pants (กางเกงวอร์มหรือกางเกงใส่สบายๆ) และ Sweatshirts (เสื้อสวมทับแบบลำลอง) ใส่สบายไม่ยับ เข้าห้องน้ำสะดวก คล่องตัว อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ รองเท้าผ้าใบ
สถานที่ที่ยังไม่เคยไปและต้องไปให้ได้ : แลปแลนด์ (Lapland) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและอยู่เหนือสุดของประเทศฟินแลนด์ ที่อยากไปเพราะเป็นคนชอบหิมะมากๆ ชอบอากาศเย็น ชอบเวลาได้อยู่ท่ามกลางหิมะ ชอบกวางเรนเดียร์ ซึ่งแลปแลนด์คือ ดินแดนที่มีทุกอย่างที่เราชอบรวมอยู่
สิ่งที่ต้องมีทุกครั้งเมื่อออกเดินทาง : มีดพับ เพราะใช้ได้สารพัดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่ต้องแพ็กของ แกะของจากแพ็ก ตัดป้ายเสื้อผ้า
เคล็ดลับในการวางแผนการท่องเที่ยวแต่ละครั้ง
1.เช็กสภาพอากาศ เพื่อจะสามารถเตรียมเครื่องแต่งกายไปให้เหมาะ เพราะถ้าเตรียมไปไม่พร้อมอาจจะทำให้เที่ยวไม่สนุก
2.สำรวจเส้นทางของสถานที่ที่จะไปเช็กอิน : อาจดูไว้คร่าวๆ ว่าอะไรอยู่แถวไหน เป็นแนวทาง แต่คงไม่ฟิกซ์ทุกอย่างเป็นตารางแน่น เพราะชอบไปเที่ยวแบบสบายๆ หลงบ้างก็ดี เพราะจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ บ้าง
3.เตรียมเอกสารสำคัญให้พร้อม นอกจากพาสปอร์ตแล้ว อย่าลืมเตรียมสำเนาพาสปอร์ต-รูปติดบัตรไว้เลย 3 ชุด สำหรับพกติดตัว 1 ชุด เก็บไว้ในกระเป๋าเดินทาง 1 ชุด และไว้กับเพื่อนร่วมเดินทางอีก 1 ชุด เพื่อป้องกันการสูญหายในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน :: Text by FLASH