xs
xsm
sm
md
lg

"พรศิลป์ แต้มศิริชัย” แห่งภูเรือแซงค์ฌัวรีรีสอร์ต ยืนยัน “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ใช้ได้จริง!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>ปรัชญาสำคัญที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงถ่ายทอดทิ้งไว้ให้กับคนไทยก็คือเรื่องของ “เศรษฐกิจพอเพียง” ภายใต้คำนิยาม 3 คุณลักษณะ คือ พอประมาณ ไม่น้อยไปและไม่มากเกิน, มีเหตุผล พิจารณาเหตุปัจจัยอย่างรอบคอบ และการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว อันเป็นสิ่งที่ “คุณพรศิลป์ แต้มศิริชัย” นักธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมโรงงานน้ำตาลรายใหญ่ของเมืองไทย และเจ้าของ “ภูเรือ แซงค์ฌัวรี รีสอร์ต แอนด์ สปา” จังหวัดเลย ได้ลองทำตามและพิสูจน์แล้วว่าปรัชญาของพระองค์ท่านใช้ได้จริง

“สิ่งที่พระองค์ท่านทิ้งไว้ให้กับประเทศไทย สิ่งสำคัญที่สุดก็คือแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง เรื่องนี้จริงๆ เราสัมผัสมาหลายปีแล้ว” คำกล่าวเริ่มต้นเมื่อเริ่มการสนทนาถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงมอบให้กับคนไทย ซึ่งในฐานะนักธุรกิจ คุณพรศิลป์ได้ลองการบริหารงานมาหลายแบบ จนกระทั่งมาพบกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นวิธีที่จะทำให้ทุกอย่างสามารถคงอยู่ได้แบบยั่งยืน

“ในกลุ่มบริษัทเราพยายามที่จะเผยแพร่แนวคิดของพระองค์ท่าน โดยเน้นไปที่เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และการต่อต้านการคอร์รัปชัน นอกจากนั้นอีกหนึ่งเรื่องก็คือการถือหลักว่าจะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม จึงกลายมาเป็นคอนเซ็ปต์ที่ว่า Turn Waste Into Products เปลี่ยนขยะให้เป็นผลิตภัณฑ์โดยการเพิ่มมูลค่า โดยผ่านงานวิจัยต่างๆ เราจึงยังให้ทุนเรียนที่วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย สอนการใช้ชีวิตเพื่อการดำรงตนเอง สอนให้นักศึกษาคิดเป็นและใช้ชีวิตพอเพียง พึ่งพาตนเองมากกว่าพึ่งผู้อื่น”

และโดยการชักนำของ “อาจารย์ยักษ์ หรืออาจารย์วิวัฒน์ ศัลยกำทอง” ให้ลองนำโมเดลเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาใช้ ซึ่งตรงกับความคิดของบริษัทที่ต้องการดูแลเรื่องความเป็นอยู่ของพนักงานให้มีความยั่งยืน คุณพรศิลป์จึงเริ่มสร้างชุมชนตัวอย่างในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงจากในโรงงานของตัวเองก่อน

“ผมมีโอกาสทำงานวิจัยในเรื่องของโมเดลเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง อย่างที่รู้กันวัฒนธรรมบ้านเราในการสืบทอดเรื่องการเกษตร เดี๋ยวนี้ลดลง คนนิยมที่จะเข้าไปทำงานในเมืองมากกว่า หรือเกษตรกรบางคนทำไร่ทำนาก็ไม่เห็นรวย แถมยังเป็นหนี้นอกระบบ ฉะนั้นเราจะพัฒนาคนเหล่านี้อย่างไรให้เขาสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน

เราเลยเอาแนวคิดของพระองค์ท่านมาใช้ เริ่มจากทำโมเดลเล็กๆ ในโรงงานผลิตน้ำตาลของเรา ด้วยพื้นที่ 15 ไร่ เราใช้พื้นที่ปลูกอ้อยน้อยลง แบ่งพื้นที่ไปขุดบ่อเลี้ยงปลา ปลูกข้าว เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมูป่า ปรากฏว่าผลผลิตที่ได้ไม่ได้น้อยลงเลย แถมทุกวันนี้คนงานในไร่มีกิน ข้าวปลูกเหลือและเอามาแจกให้กับคนอื่นๆ เรารู้สึกว่าโมเดลที่พระองค์ท่านบอกสอนไว้นั้นเวิร์กดีนะ”

นอกจากการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ในธุรกิจโรงงานน้ำตาลแล้ว คุณพรศิลป์ยังขอนำหลักการนั้นมาใช้กับธุรกิจรีสอร์ตของตัวเองจนมีชื่อเสียงขจรขจายว่า “ภูเรือ แซงค์ฌัวรี รีสอร์ต แอนด์ สปา” เป็นหนึ่งในโรงแรมที่นำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ซึ่งสามารถผลิตทุกอย่างได้พอเพียงสำหรับใช้ในรีสอร์ต แถมยังสามารถแบ่งปันให้กับชุมชนได้อีกด้วย

“ผมมีรีสอร์ตที่ภูเรือ ซึ่งเราต้องเข้าใจว่ารีสอร์ตอาจจะไม่ได้อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นปีหนึ่ง จะมีช่วงไฮซีซันอยู่เพียง 3-4 เดือนเท่านั้น แต่เราต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้สามารถเลี้ยงคนงานได้ตลอดทั้งปี เราจึงนำแนวคิดของพระองค์ท่านมาขยาย ในพื้นที่ 90 กว่าไร่เราทำการเกษตร ปลูกต้นแมคคาเดเมีย กาแฟ ต้นกล้วย มีแปลงนาปลูกข้าวลืมผัว ข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวหอมมะลิ และปลูกพืชผักสวนครัวไว้สำหรับใช้ในรีสอร์ตซึ่งไม่มีการใช้สารเคมีใดๆ เลย

...แล้วเรามีบ่อใหญ่เลี้ยงปลาเกือบทุกชนิด เมื่อเรามีพอสำหรับใช้ในโรงแรมแล้ว เราก็ยังแบ่งส่วนหนึ่งให้พนักงานในราคาที่ถูกมาก ซึ่งก็มาจากแนวคิดของพระองค์ท่านอีก คือ เราต้องทำให้คนที่อยู่กับเรามีความสุขและเขาก็จะทำงานอย่างมีความสุขไปด้วย ซึ่งก็จะส่งผลออกมากับการบริการลูกค้า เพราะเขาก็จะยิ้มแย้มมีความสุข”

แม้ว่าวันนี้ปรัชญาของพระองค์ท่าน อาจต้องกำลังต่อสู้กับกระแสทุนนิยมที่เข้ามา แต่สักวันหนึ่งคุณพรศิลป์ก็หวังว่าคนจะเข้าใจและหันกลับมามองการใช้ชีวิตของตัวเองมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การปฏิวัติครั้งใหญ่ก็เป็นได้

“แนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านสุดยอด เราถูกหลอกในเรื่องของ GDP พูดง่ายๆ คือถูกหลอกให้ใช้เงิน แต่เราไม่ได้วัดความสุข วัดเพียงการกระจายตัวของ GDP แต่แนวคิดของพระองค์คือการให้เราอยู่อย่างพอดีและสามารถมีความสุขได้จากการพอใจ ทุกคืนผมสวดมนต์ภาวนา ระลึกถึงพระองค์ท่าน ขอให้บารมีของพระองค์ท่านแผ่มาถึงประเทศเราให้เดินไปถูกทาง”

แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงนั้นยังเป็นตัวปั้นแต่งให้ ภูเรือ แซงค์ฌัวรี รีสอร์ต แอนด์ สปา มีไอเดียดีๆ ที่จะกระตุ้นให้ผู้ที่มาเยือนได้สัมผัสกับความผ่อนคลาย ความสดชื่น จนเริ่มรู้สึกโหยหาที่จะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายมากขึ้น

“ในช่วงหนึ่งผมผ่านความเครียดมาเยอะ ผมเคยเป็นมะเร็ง แล้วก็มานั่งคิดว่าคุ้มหรือเปล่า เงินที่หามาก็ต้องมารักษาตัวเอง ทุกครั้งที่เรากระวนกระวายใจ มีความเครียด สมองจะหลั่งสารพิษออกมาและมันจะทำลายเรา ถ้าเราได้มีโอกาสนั่งสงบสบายๆ โกรทฮอร์โมนจะหลั่งออกมา เราก็จะผลิตเซลล์ใหม่ที่ดีมีคุณภาพ จึงอยากจะหาที่สักแห่งเพื่อหลบภัย และสามารถพักจิต ถ่ายพิษทางใจ ทางอากาศเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตกลับคืนมาอีกครั้ง จึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์รีสอร์ตที่ว่า Restore, Recharge, Rejuvenate”

และสิ่งเหล่านี้คือหลักการที่คุณพรศิลป์นำมาใช้กับ “ภูเรือ แซงค์ฌัวรี รีสอร์ต แอนด์ สปา” จนทำให้เป็นรีสอร์ตที่ขึ้นชื่อเรื่องความพอเพียงตามแนวคิดของในหลวง รัชกาลที่ 9...นี่สิถึงเรียกว่าดีงามอย่างยั่งยืนของจริง! :: Text by FLASH
กำลังโหลดความคิดเห็น