>>ความสวยงามของรูปร่างหน้าตานั้น ต้องยอมรับเลยว่าเป็นจุดสนใจข้อแรกๆ ที่จะสามารถดึงดูดสายตาจากคนรอบข้างได้ (แน่นอนว่ารวมถึงหนุ่มๆ ด้วย) และหนึ่งในส่วนสำคัญบนใบหน้าที่จะทำให้ทุกๆ คนดูมีเสน่ห์น่าค้นหามากยิ่งขึ้นนั่นคือ “ดวงตา” เพราะนอกจากจะเป็นการแสดงออกถึงความจริงใจจากการสื่อสารแล้ว การที่คุณมีดวงตาดูสวย กลมโต และเปล่งประกายชัดเจนนั้น จะยิ่งช่วยเสริมให้มีจุดเด่นและตอกย้ำให้ภาพลักษณ์บนใบหน้าอันแสนเพอร์เฟกต์ของคุณดูดีแบบไร้ที่ติมากขึ้นอีกด้วย
ในยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ในปัจจุบันการศัลยกรรมความงามเพื่อแก้ไขจุกบกพร่องนั้นเป็นที่ยอมรับมากขึ้น และอีกหนึ่งส่วนที่คนไทยนิยมทำกันมากก็คือดวงตานี่ล่ะ ดังนั้นคอนเทนต์นี้เราจะพาทุกๆ คนที่กำลังมองหาหนทางยกระดับความงามของตนเอง (หรือหนุ่มๆ คนไหนที่สนใจก็สามารถอัปความหล่อได้นะจ๊ะ) มาเก็บเกี่ยวข้อมูล โดยได้รับเกียรติจากนายแพทย์ธนัญชัย อัศดามงคล หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมความงามและยังมีดีกรีเป็นถึงผู้บริหารของโรงพยาบาลบางมด จะมาบอกเล่าถึงเรื่องราวให้กับทุกคนที่กำลังสนใจการทำศัลยกรรมดวงตากันค่ะ
คุณหมอช่วยเล่าเรื่องการทำศัลยกรรมดวงตาหน่อยค่ะว่ามีอะไรบ้าง?
“ที่นิยมมากสุดคือ การทำตา 2 ชั้น เพราะช่วยให้ดวงตาดูโตขึ้น ชั้นตาสวยขึ้น และสามารถแก้ปัญหาหนังตาตก ตาไม่เท่ากัน กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ร่วมด้วยได้ ในการผ่าตัดทำตา 2 ชั้นครับ
สำหรับเทคนิคการทำตาสองชั้นหลักๆ จะมีอยู่ 4 แบบ
-หนึ่งคือแบบกรีดอันนี้เป็นวิธีมาตรฐานดั้งเดิม เหมาะสำหรับคนอายุมากเพราะจะสามารถเอาหนังตาที่เกิน ไขมันที่เกินออกได้หมด แต่ข้อเสียคือทำให้เห็นเป็นแผลเป็นยาว ดูไม่ธรรมชาติ ทีมแพทย์จึงมีการคิดเทคนิคอื่นๆ ขึ้น
-แบบต่อมาคือแบบแผลเล็ก (mimi-incision) คือยังมีแผลอยู่ แต่สั้นกว่าแบบแรก
-และก็พัฒนามาเรื่อยๆ เป็นแบบเย็บ 3 จุดบ้าง 4 จุดบ้าง จะเหมาะสำหรับคนที่มีอายุน้อยๆ ข้อดีคือ แผลเล็ก ดูเป็นธรรมชาติ แต่จะนำเอาไขมัน หรือหนังตาที่เกินออกได้น้อย และชั้นไม่ค่อยคงทนถาวร
-แบบสุดท้ายจะเป็นเทคนิคใหม่ เป็นเทคนิคเฉพาะของโรงพยาบาลบางมด คือการเย็บจากด้านในแล้วเอาไขมันออกพร้อมใช้เลเซอร์ช่วยจะช่วยให้บวมน้อยลง เจ็บน้อยลง แผลหายเร็ว และชั้นคงทนดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น (เทคนิคนี้นี่ล่ะที่เราว่าน่าสนใจมากเลยค่ะสาวๆ เพราะวันเดียวก็สามารถโดนน้ำได้ ล้างหน้า แต่งหน้าได้เลย และเราแอบรู้มาว่านักแสดงและเซเลบริตี้เมืองไทยหลายท่านส่วนใหญ่ก็ชื่นชอบวิธีนี้กันเป็นพิเศษ)
แล้วรูปตาคนเรามีผลยังไงบ้างคะคุณหมอ?
“โครงสร้างรูปตาของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ ดังนั้นก่อนทำ ต้องมีการตรวจวัดโดยละเอียดก่อนว่า ลักษณะรูปตาเป็นอย่างไร ปริมาณหนังตา ไขมันใต้ตามากน้อยแค่ไหน มีภาวะหนังตาตก กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือไม่ และต้องถามความต้องการคนไข้ก่อนว่าอยากได้แบบไหน โดยจะมีการทำแบบเปิดหัวตาจะมีชั้นตาตั้งแต่ตรงหัวตาและชั้นจะขนานกันไปทั้งตา และการทำแบบปิดหัวตาคือชั้นตาตอนหัวตาแทบไม่มีแล้วก็ค่อยๆ มีชั้นตามากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงหางตา แบบนี้จะดูเป็นธรรมชาติ (เหมือนตาสวยแบบนี้มาตั้งแต่เกิดเลยล่ะ) แล้วก็เลือกขนาดของชั้นตาได้ด้วยว่าอยากจะได้ชั้นใหญ่หรือเล็ก โดยแพทย์จะช่วยแนะนำแบบที่เหมาะกับดวงตาและใบหน้าของเราให้ครับ….(อันนี้แอบสงสัยเลยกระซิบถามคุณหมอกลางคันว่าแล้วการศัลยกรรมดวงตานั้นทำได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?) หมอเคยทำให้เด็กๆ สัก 6-7 ขวบนี่ก็สามารถทำตาได้แล้วครับ เพราะพอโตขึ้น ชั้นตาจะโตตามตัวและดูเป็นธรรมชาติขึ้น ไม่เหมือนการเสริมจมูกที่ควรรอให้โตก่อน ช่วงเลยวัยรุ่น กระดูกหยุดเจริญจึงควรเสริมจมูกครับ…” (อ๋อออ...อย่างนี้นี่เอง)
ปัญหาหลังการทำศัลยกรรมดวงตาที่คุณหมอเคยพบมีบ้างไหมคะ?
“การทำศัลยกรรมทุกชนิดมีโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนหลังผ่าตัดได้ครับ เช่นทำตาสองชั้นไม่ดี ตัดหนังตามากเกินไป อาจทำให้ปิดตาไม่สนิทได้ เยื่อบุตาอักเสบได้ การตัดหนังใต้ตาและถุงใต้ตามากไป อาจทำให้หนังตาปลิ้น ตาแหก (ectropion) เป็นต้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำ ต้องศึกษาให้ดีก่อนครับ รู้จักเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ดี เลือกแพทย์ที่จบเฉพาะทางและมีประสบการณ์มากๆ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองและป้องกันการเกิดผลแทรกซ้อนได้น้อยที่สุดครับ”
นอกจากปัญหาเรื่องทำตา 2 ชั้นแล้ว ยังมีปัญหาดวงตาอื่นๆ ที่ทำให้คนมาทำศัลยกรรมบ้างไหมคะ?
“มีครับเช่นปัญหาถุงใต้ตาที่คนนิยมมาทำกันมากเพราะการมีถุงใต้ตาจะทำให้ใบหน้าดูอ่อนเพลีย และแก่กว่าวัยโดยมีทั้งวิธีนำไขมันใต้ตาออกจากทางด้านในตา เหมาะกับคนอายุน้อย และแบบแผลด้านนอกตามขอบตา เหมาะสำหรับคนอายุมากที่มีไขมันเกินและผิวหนังใต้ตาหย่อนร่วมด้วย แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละคนครับ และสามารถใช้เลเซอร์ช่วยเพื่อให้บวมน้อย เสียเลือดน้อยได้ครับ (วิธีนี้เราว่าเวิร์กอ่ะดูจากในรูปแล้วไม่เห็นแผลผ่าตัดเลย! เพราะถูกซ่อนอยู่ตามส่วนต่างๆ ไว้อย่างเนียนกริบ) แค่อาทิตย์เดียวก็มาตัดไหมได้แล้ว
อีกเรื่องก็คือการดึงหางตาครับ (Temporal lift) (ใครอายุเริ่มเยอะมามุงทางนี้) ซึ่งตอนนี้มีเทคนิคใหม่โดยเป็นการผ่าตัดเล็ก ฉีดยาชา ใช้เวลา 30-45 นาที ซึ่งคนไข้จะมีแผลแค่ตรงขมับเล็กๆ ใช้วิธีเย็บ 3 ชั้นคือ เย็บผิวหนัง เย็บไขมันใต้ผิวหนัง และก็เย็บกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังบวมน้อย เจ็บน้อย ทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้เลย ตัดไหม1 สัปดาห์ และเห็นผลชัดเจนใน 1-2 สัปดาห์ จะช่วยทำให้บริเวณหางตาที่ตก หางคิ้วที่ตก ยกขึ้น และชั้นตาดูดีขึ้นเพราะหนังตาส่วนเกินถูกยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยลดรอยตีนกาและทำให้ร่องแก้มก็ดูตื้นขึ้นด้วยครับ…” (นึกสภาพว่าหน้าถูกดึงไปด้านข้างทำให้หน้าตึงดูสาวขึ้นอีก 10 ปี เริ่ดป่ะล่ะ ดึงทีเดียวตึงขึ้นตั้ง 3 จุดแน่ะ!! และขอบอกว่าจากในรูปตัวอย่างเราแทบมองไม่เห็นแผลเลยจ้า)”
เป็นไงบ้างคะ? เชื่อว่าต้องมีสาวๆ (หรือหนุ่มๆ) ที่กำลังอ่านอยู่ประสบปัญหาและกำลังมองหาทางออกไปสู่ดวงตาคู่ใหม่กันอยู่แน่ๆ และเราขอคอนเฟิร์มว่าที่โรงพยาบาลบางมดนี่แหละที่คุณจะมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่ดีที่สุด เห็นผลลัพธ์ได้ตรงอย่างใจมากที่สุด แถมยังเจ็บน้อยที่สุด เพราะได้ศัลยแพทย์มือวางอันดับหนึ่งแห่งโรงพยาบาลบางมดและทีมงานคอยดูแลกันอย่างใกล้ชิดในทุกๆ ขั้นตอนเลยทีเดียว หากใครสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 0-2867-0606 ต่อ 1200-4 เพื่อทำการนัดเพื่อเข้าไปพุดคุยกับ นพ.ธนัญชัย หรือสามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ ได้ที่ www.facebook.com/Bangmodhospital นะคะ :: Text by FLASH
ข้อมูลเพิ่มเติมศัลยกรรมทำตา 2 ชั้น คลิก
ข้อมูลเพิ่มเติมศัลยกรรมดึงหางตา คลิก
วิดีโอรีวิวการทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น ศัลยกรรมปากกระจับ 3 มิติ และศัลยกรรมหน้าอก
คุณตุ๊กตา ปุณฐิภาภัคร์ สุวรรณราช” นางเอกละครชื่อดัง “ คลิ๊ก