>>วนเวียนอยู่ในสายงานของแฟชั่นและมีแบรนด์แฟชั่นที่รายล้อมรอบตัวเธออยู่กว่า 100 แบรนด์ ฉะนั้นเรื่องสไตล์ของเธอก็ต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว แม้ว่าภายนอกอาจจะดูมินิมัล แต่แฟชั่นแต่ละชุดที่ผู้บริหารสาวสายแฟชั่น “บลู-ไพลิน อัมพุช” เลือกเปิดตู้หยิบมาเผยสไตล์ของเธอในครั้งนี้นั้นมีความยูนีคในตัวเอง ในแบบฉบับของสาวคลาสสิกที่มีความมั่นใจอย่างเป็นธรรมชาติ
สาวสวยลุคสมาร์ท “บลู-ไพลิน อัมพุช” ทายาท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่วันนี้เธอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนธุรกิจรีเทลให้ก้าวไปข้างหน้า ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบริหารสินค้า สายงาน M Curated ด้วยความที่เรียนมาด้านแฟชั่น หลังจากเรียนจบด้านแฟชั่นดีไซน์ จากมหาวิทยาลัยคิงส์ตัน ประเทศอังกฤษ กลับมาก็ได้ศึกษางานด้านแฟชั่นและมองหาสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง ประจวบกับทางเดอะมอลล์ กรุ๊ป เพิ่งจะเปิดส่วนงานที่เกี่ยวกับแฟชั่น ที่มีการนำเข้าแบรนด์จากต่างประเทศ จึงเป็นจังหวะดีที่จะเข้ามาช่วยสานต่อและขยายงานตรงส่วนนี้
“เมื่อก่อนที่ ดิ เอ็มโพเรียมจะมีคอร์เนอร์เล็กๆ ที่เป็นแบรนด์แฟชั่น แล้วก็ขยายขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้เป็นแผนกหนึ่งในส่วนของดีพาร์ตเมนต์สโตร์ที่ ดิ เอ็มโพเรียม แล้ว หลักการเลือกสินค้ามาลงที่ ดิ เอ็มโพเรียม คือเราจะดูจากความชอบของลูกค้า แล้วเราก็เลือกแบบที่เป็นที่นิยมและขายดีมาเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า
เป็นการทำงานที่สนุก แต่บางอย่างที่เรียนมาก็ไม่ได้ตรงกับทฤษฎีไปหมดทุกอย่าง เพราะเรื่องของธุรกิจอาจจะต้องมีการปรับให้เข้ากับสภาพเศรษฐกิจแวดล้อมด้วย อีกอย่างตอนที่เรียนเราเน้นเรื่องแฟชั่นดีไซน์ออกแบบ แต่ความรู้ที่ได้มาก็สามารถนำมาปรับใช้กับงานได้เพราะทำให้เรารู้เทรนด์ เห็นแบรนด์แฟชั่นต่างๆ ที่ยังไม่มีในเมืองไทย บวกกับการทำงานตรงนี้ได้เดินทางไปหลายๆ ประเทศ ได้ดีลงานกับแต่ละประเทศทำให้เราเข้าใจวัฒนธรรมการทำงานของเขา ได้ความรู้ที่หลากหลายมาก
ซึ่งตอนนี้เราดีลแบรนด์ที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์มากกว่า 100 แบรนด์ มาไว้ในโซน Aterlier รวมอิมพอร์ตแบรนด์ของดีไซเนอร์จากฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลี และอีกหลายประเทศ พร้อมทั้งดูในส่วนของ Flagship Store เช่นแบรนด์ Style Nanda, MSGM, Paul&Joe Sister”
ชีวิตช่วงนี้เธอกำลังเอนจอยอยู่กับงานที่ทำเพราะได้เรียนรู้งานใหม่ๆ ซึ่งนอกจากจะเรียนรู้เรื่องที่เกี่ยวกับงานด้านหน้าของแฟชั่นแล้ว งานหลังบ้านก็ต้องไม่ขาดตกบกพร่อง เรียกได้ว่าดูตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำก่อนที่จะออกมาเป็นโซนชอปปิ้งให้สาวๆ ได้เลือกชุดสวยๆ กัน
“เราต้องดูเรื่องลอจิสติก เรื่องร้าน เรื่องมาร์เกตติ้ง จนไปดูเรื่อง CRM ทั้งหมดของการขาย เจอทั้งปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน เช่น บางแบรนด์เป็นแบรนด์ที่ใหม่ ยังไม่เคยเข้ามาในเมืองไทย ในแง่ของแบรนด์เราก็ต้องแนะนำตัวให้เขารู้จักพื้นที่ของเรา ในแง่ของผู้บริโภคเราก็ต้องเลือกแบบที่น่าจะถูกใจเขาเข้ามา แต่ทุกปัญหาต้องมีการจัดการไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องคน เรื่องการดีลกับพาร์ตเนอร์ การจัดการและการดูแลลูกค้า แต่ก็เป็นงานที่สนุกค่ะ เพราะอยู่ในฟีลของแฟชั่นที่เราชอบอยู่แล้ว”
คนทั่วไปอาจจะมองว่าทำงานด้านแฟชั่น สามารถแต่งตัวได้หลากหลายแนว แต่ถ้าถามถึงความชอบส่วนตัวของเธอนั้น เธอชอบแบบคลาสสิก ที่สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ได้ง่าย
“แต่บางทีก็อยากใส่อะไรที่มันมีแฟชั่นนิดนึง เวลาไปต่างประเทศมันก็ต้องเดรสทูอิมเพรส ต้องมีเดรสอัพขึ้นมาหน่อย ลายพรินต์เป็นแบบว่า ส้นสูงอะไรอย่างนี้
พอทำงานจะไม่ค่อยมีเวลาพิถีพิถันกับการแต่งตัวแบบแฟชั่นจัดๆ เหมือนช่วงวัยรุ่น และเมื่ออยู่กับแฟชั่นมากๆ เราจะเริ่มมองออกว่าสไตล์ไหนคลาสสิกและเหมาะกับเรา ฉะนั้นจึงเป็นสไตล์คลาสสิกเป็นส่วนมาก แต่ก็ยังมีลวดลายอยู่บ้าง ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแบรนด์เนมอย่างเดียว ดูแบบที่ชอบและเหมาะกับเรามากกว่า
ถ้ารีบๆ ก็จะใส่แบบ Wrap Dress เพราะง่าย รวดเร็ว และดูดี หรือถ้าทำงานอยู่ในออฟฟิศก็จะใส่กางเกงกับเสื้อเชิ้ต ชอบใส่กางเกงเอวสูงเพราะช่วยทำให้ดูขายาว เวลาไปต่างประเทศไม่ค่อยใส่ส้นสูงไป เพราะต้องเดินมาก และเดี๋ยวนี้เทรนด์รองเท้าผ้าใบมาแรง บางคนใส่ชุดเดรสแต่จับคู่กับรองเท้าผ้าใบก็ดูง่ายดี
แล้วแต่โอกาส และขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นเราไปไหน ส่วนใหญ่ก็จะมิกซ์แอนด์แมตช์เรียบๆ บ้าง ลายพรินต์บ้าง ชอบเลือกที่แพตเทิร์นของเสื้อผ้า และเลือกเนื้อผ้าที่ดี ที่ช่วยอำพรางหรือส่งเสริมรูปร่างของเราได้”
ส่วนในเรื่องนิสัยการชอปปิ้งของแฟชั่นนิสต้าที่ทำงานอยู่ในห้างสรรพสินค้าคนนี้นั้น เชื่อได้เลยว่ามีเรื่องมาให้เสียเงินอยู่เรื่อยๆ แน่นอน ก็แหม! มีของสวยๆ งามๆ มาให้เห็นใหม่ๆ ทุกวัน
“ชอปปิ้งค่อนข้างบ่อย เพราะอยู่กับแบรนด์แฟชั่นตรงหน้าอยู่แล้ว ก็อดใจไม่ค่อยอยู่ หมดไปกับเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ทุกอย่างเลย (หัวเราะ) เวลาชอปไม่ได้ดูที่แบรนด์นะแต่ดูจากสิ่งที่ชอบ แต่จะยอมจ่ายแพงกับกระเป๋า นาฬิกา รองเท้า เพราะว่าใช้ได้นานและทนทาน แต่เสื้อผ้าเราจะเปลี่ยนบ่อย แบรนด์โปรดก็คือแบรนด์ Valentino, Josept เป็นแบรนด์ที่เราไปปิ๊งตอนไปอิมพอร์ตเข้ามา, Chloe จะเป็นสไตล์เรียบๆ คลาสสิก, Philip Lim ใส่แล้วดูมีลูกเล่น รายละเอียด เขาจะมีแพตเทิร์นที่ไม่ธรรมดา แบบไม่เหมือนคนอื่น”
เพราะแฟชั่นคือสิ่งที่ถูกสร้างมาไม่ให้ล้าสมัย ฉะนั้นเธอจึงเลือกหยิบแฟชั่นที่เหมาะกับตัวเองและมีความคลาสสิกอยู่ได้ไม่ต้องวิ่งตามให้เหนื่อย ขอแค่เหมาะสม ถูกกาลเทศะก็พอแล้ว :: Text by FLASH
Credit
นางแบบ : ไพลิน อัมพุช
ช่างภาพ : กมลภัทร พงศ์สุวรรณ
สถานที่ : โซน Aterlier ชั้น G ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม