>>ตอกย้ำการเป็นผู้นำยนตรกรรม electric Driving รุกตลาดรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม เปิดตัวเอสยูวีรุ่นล่าสุด GLE 500 e 4MATIC เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เผยวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำยนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม หรือ Mercedes-Benz electric Driving ผุดแคมเปญการตลาด DEFINE TOMORROW เพื่อตอกย้ำความเป็นที่หนึ่งด้านนวัตกรรมยานยนต์ พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาเรื่องล่าสุด “Loopbreaker” เพื่อสื่อสารถึงความโดดเด่นของรถยนต์กลุ่ม electric Driving
พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัว Mercedes-BenzGLE 500 e 4 MATICรถยนต์ในกลุ่มเอสยูวีที่รวมความแข็งแกร่งและความสง่างามอย่างที่สุดไว้ในหนึ่งเดียว ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง โดยมาให้เลือกสรรใน 2 ดีไซน์ ได้แก่GLE 500 e 4MATICExclusiveนำเสนอในราคา 4,490,000บาท และ GLE 500 e 4MATICAMG Dynamicนำเสนอในราคา 4,990,000 บาท
มร. ไมเคิลเกรเว่ แห่ง เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ที่จะไม่หยุดนิ่งในการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้และวันข้างหน้าเมอร์เซเดส-เบนซ์จึงนำเสนอยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ ให้กับลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง สำหรับรถยนต์ในกลุ่มMercedes-Benzelectric Drivingนับเป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงก้าวย่างสำคัญของเราบนเส้นทางสู่โลกของการขับขี่ที่ไม่มีการปล่อยไอเสีย และยังพิสูจน์ด้วยว่าไม่ได้มีเพียงรถยนต์ขนาดเล็กเท่านั้นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่เทคโนโลยีระบบส่งกำลังที่ก้าวล้ำก็ทำให้รถยนต์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน”
มร. ฟรังค์ชไตน์อัคเคอร์ จากฝ่ายขายและการตลาด กล่าวเพิ่มเติมว่า “กลยุทธ์หลักเพื่อเตรียมพร้อมสู่การก้าวเข้าสู่โลกยานยนต์แห่งอนาคตของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในปีนี้ คือสร้างการรับรู้ถึงสมรรถนะอันชาญฉลาดของรถยนต์Mercedes-Benz electric Driving โดยนำเสนอผ่านแคมเปญการตลาด DEFINE TOMORROW ผ่านภาพยนตร์โฆษณาในรูปแบบภาพยนตร์สั้น เรื่อง “Loopbreaker”
โดยมี “ชมพู่ อารยา เอ. ฮาร์เก็ต” แบรนด์แอมบาสเดอร์เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) นำแสดงภายใต้การกำกับของผู้กำกับมือทอง อย่าง “เป็นเอก รัตนเรือง” เพื่อถ่ายทอดนิยามใหม่ของยนตรกรรมMercedes-Benzelectric Driving ทั้งใน ด้านนวัตกรรมอันล้ำสมัย (Innovations)อย่าง โหมดการทำงานของรถยนต์ในกลุ่ม Mercedes-Benzelectric Driving ที่มีให้เลือกถึง 4แบบ คือ Hybrid, E-Mode, E-Saveและ Chargeหรือระบบควบคุมรถอัจฉริยะ ที่จะทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อปรับการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าให้เหมาะสมที่สุดด้านสมรรถนะอันทรงพลัง (High Performance)ด้วยโหมดการขับขี่ 5รูปแบบ คือ Individual (I), Sport+ (S+),Sport (S), Comfort (C)และ Economy (E)พร้อมกำลังแรงม้าและแรงบิดจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าด้านเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (electric Drive)ที่ผู้ขับขี่สามารถขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบโดยไม่มีการคายไอเสียด้วยโหมด E-Modeพร้อมทั้งสามารถลดอัตราการใช้พลังงานในรถยนต์ ผ่านการนำพลังงานที่เกิดขึ้นจากการเหยียบแป้นเบรกหรือปล่อยให้รถเคลื่อนที่โดยไม่อาศัยพลังงานจากเครื่องยนต์มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด :: Text by FLASH