>>เพราะความสนุกของการชอปปิ้งไม่ได้จบลงแค่เมื่อผู้ซื้อได้รับของที่หมายตาต้องใจ แต่กระบวนการแห่งความสุขและความสนุกนี้ หลอมรวมจากประสบการณ์ที่ผู้ซื้อได้รับนับตั้งแต่ก้าวแรกที่ตัดสินใจก้าวเข้ามาในร้านและยอมควักเงินจ่ายเพื่อให้ได้ของชิ้นนั้นมาครอบครองต่างหาก ความรู้สึกดีๆ ที่หาซื้อไม่ได้นี้เองคือ สิ่งที่ทำให้ “วิษณุ เทพเจริญ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานบอร์ด บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ในฐานะ Top Spender (ลูกค้าที่มียอดใช้จ่ายสูงสุด) ของบัตรเครดิต KTC (เคทีซี) หลงรักในการชอปปิ้งเหลือเกิน
“ผมไม่เคยมีแพลนนะว่าจะไปห้างฯ ไหน เพื่อไปซื้ออะไร ส่วนใหญ่ว่างจากวันทำงาน ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ผมมักไปเดินเล่นชอปปิ้งตามห้างฯ ส่วนใหญ่ห้างใกล้บ้านที่ผมชอบไปคือ เอ็มโพเรียมและเอ็มควอเทียร์ ผมชอบเดินดูของไปเรื่อยๆ ถูกใจชิ้นไหนค่อยซื้อ หรือถ้ามีโอกาสไปต่างประเทศผมก็ไม่พลาดซื้อของติดไม้ติดมือกลับมาทุกครั้ง ส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยชอปที่สนามบินนะ จะไปซื้อตามร้านที่ขายของแปลกๆ ตามหัวเมืองใหญ่ที่ไปมากกว่า หรือถ้าจะซื้อของแบรนด์ก็ไปซื้อที่ต่างประเทศเลย” วิษณุ พาเพลินถึงไลฟ์สไตล์การชอปปิ้งส่วนตัวอย่างออกรส
ผู้บริหารคนเก่งแห่งบริษัท ณุศาศิริ ซึ่งเขารับหน้าที่ดูแลในส่วนภาพรวมของบริษัท กล่าวว่า เวลาไปต่างประเทศเขาชอบซื้อของแต่งบ้านและเสื้อผ้าแฟชั่น เขามีกฎเหล็กในใจเวลาชอปปิ้งคือ ซื้อเฉพาะของที่ชอบ ดูแล้วมีความคุ้มค่า และมั่นใจว่าจะได้ใช้ประโยชน์เท่านั้น นั่นหมายความว่า เขาจะไม่วางตัวเป็นนักสะสม ซื้อของที่ถูกใจมาเพื่อเก็บ
“ด้วยความที่บ้านผมแต่งเป็นสไตล์โมเดิร์น ดังนั้นที่วางของโชว์จะน้อยมาก เพราะฉะนั้นผมก็ต้องบอกตัวเองว่าอย่าซื้อเยอะ (หัวเราะ) อย่าซื้อจนเป็นภาระของคนอาศัยในบ้านในการดูแลรักษา อย่างที่บ้านผมถ้าจะซื้อตุ๊กตาเซรามิกที่เป็นมาสเตอร์พีซมาตั้งโชว์ ก็จะมีแค่ชิ้นหรือสองชิ้นเท่านั้น ถามว่าแล้วถ้าเวลาผมซื้อมามากกว่านั้นจะเอาไปไว้ไหน อันนี้ต้องถือว่าเป็นความโชคดีของผมที่มีบ้านหลายหลัง มีโรงแรมหลายแห่ง เพราะฉะนั้นมาสเตอร์พีซของผมเลยมีที่วางได้อีกหลายแห่งและตอนนี้ยังมีที่เหลืออีกเยอะให้วาง (หัวเราะ)”
ด้วยหน้าที่การงานบวกกับนิสัยรักการเดินทาง ทำให้แต่ละปี วิษณุ มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศไม่น้อยกว่า 10 ครั้ง แต่ถ้าให้เลือกจุดหมายปลายทางของการชอปปิ้งที่ประทับใจ วิษณุยกให้กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพราะด้วยความที่ลูกๆ เรียนอยู่ที่อังกฤษ จึงมีโอกาสเดินทางไปบ่อย มีความคุ้นเคย แถมยังชอปปิ้งสนุก เพราะแบรนด์ต่างๆ มักเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ๆ ในยุโรปก่อน อีกอย่างคือ ภาษาที่ใช้ค่อนข้างคุ้นเคย
“ส่วนใหญ่ถ้าผมชอปไม่ว่าในไทยหรือต่างประเทศใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตเป็นหลัก เพราะสมัยนี้ผมว่าคงไม่มีใครพกเงินสด 2-3 หมื่นในกระเป๋าเพื่อไปชอปปิ้ง บางครั้งผมรู้สึกว่าตัวเองพกบัตรเครดิตจนเคยชิน คิดว่าตัวเองมีเงินตลอดเวลาเหมือนกันนะ (หัวเราะ) ตอนนี้บัตรหลักที่ผมถือคือ บัตรเครดิตเคทีซี ผมเป็นลูกค้าของเคทีซีมาเกือบ 20 ปีแล้ว เพราะเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผม ช่วยให้ผมมีความคล่องตัวในการใช้เงิน เวลาต้องการใช้เงินฉุกเฉินก็ได้รับการดูแลด้วยความรวดเร็ว ยกตัวอย่างเวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ ผมติดต่อขอเพิ่มวงเงินไปเผื่อชอปปิ้ง จากวงเงิน 5 ล้านเป็น 10 ล้าน แค่ 5 นาทีก็เรียบร้อย แต่ที่ชอบที่สุดคือ โปรโมชันค่าฟีสำหรับความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของเคทีซีอยู่ที่ 2% เท่านั้น”
ถามถึงหลักการในการบริหารจัดการการเงินในการใช้บัตรเครดิต วิษณุ บอกว่า วินัยของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนซื้อของทุกครั้ง เราต้องรู้ว่าตัวเองมีกำลังแค่ไหน เพราะถ้าฝืนซื้อไป จะเป็นการสร้างภาระให้กับตัวเองในระยะยาว
“ผมไม่เห็นด้วยกับการซื้อของที่อยากได้ไปก่อนแล้วค่อยมาผ่อนทีหลัง ผมจะไม่ซื้อของ 1 ชิ้น แล้วทุกข์ไป 1 ปี วินัยในการใช้บัตรเป็นสิ่งสำคัญ ตัวผมเองถึงวงเงินในบัตรจะสูง แต่ทุกครั้งที่ผมรูดบัตรเครดิต ผมต้องมั่นใจว่าตัวผมเองมีเงินที่จะจ่ายได้ อย่างตอนนี้ ลูกผมเรียนจบแล้ว ก็มีอิสระในทางการเงินมากกว่าสมัยลูกยังเรียน เพราะการเรียนที่อังกฤษมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ตอนนี้ผมอยากได้อะไรก็สามารถซื้อเป็นของขวัญให้ตัวเองได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาปาเต็ก ฟิลลิป ซึ่งเป็นแบรนด์โปรด หรือแต่ก่อนผมชอบรถยนต์ ก็จะซื้อ คันล่าสุดที่ซื้อคือ ปอร์เช่ เทอร์โบ 911”
นอกจากการใช้ชอปปิ้งและใช้จ่ายส่วนตัว ในฐานะสามีที่น่ารัก หลายครั้งที่วิษณุยังไปชอปปิ้งเป็นเพื่อนภรรยา ซึ่งเขาเอ่ยปากว่ามีส่วนสำคัญที่เขากลายเป็นTop Spender (หัวเราะ)
“บางทีภรรยาผมชอป แต่รูดบัตรผม เพราะฉะนั้นเขาเองก็มีส่วนสำคัญให้ผมกลายเป็น Top Spender (หัวเราะ) สำหรับผมการชอปปิ้งเป็นมากกว่าการที่เราไปเดินดูของแล้วได้ของถูกใจกลับบ้าน สิ่งที่ผมชอบทำเวลาชอปปิ้งคือ ศึกษาเรื่องการตลาดของแบรนด์ต่างๆ ทำไมเขาถึงทำให้เราอยากมาซื้อซ้ำ หรือเจาะจงมาซื้อของแบรนด์เขา อย่างกระเป๋าเบอร์กิ้น ใบเป็นล้าน แต่ทำไมถึงมีเงินก็ซื้อไม่ได้ ผมว่าเขาทำการตลาดได้น่าสนใจ สร้างแบรนด์ลอยัลตี้กับลูกค้าอย่างไร หรือบางครั้งผมไปเดินชอปปิ้งหรือไปต่างประเทศก็จะเก็บเอาแรงบันดาลใจมาต่อยอดในการทำธุรกิจด้วย” ผู้บริหารคนเก่งกล่าวทิ้งท้าย :: Text by FLASH