>>TWG Tea รังสรรค์เซตเมนูอาหารสุดหรูเคียงคู่เครื่องดื่มเลิศรส “ซาฮารา เซต” (Sahara Set) นำจินตนาการเหนือผืนทะเลทรายซาฮาราอันกว้างใหญ่ไร้พรมแดนมาเป็นแรงบันดาลใจ ในการปรุงชาหอมกรุ่น เคียงคู่กับเมนูสันเนื้อแกะคุณภาพระดับพรีเมียม ผสานสีสันของมหานครปารีส ที่แทนค่าด้วยช็อกโกแลตโดมอันแสนเย้ายวนใจผู้โปรดปรานช็อกโกแลตโดยเฉพาะ รอให้มาลิ้มรสที่ TWG Tea ตลอดเดือนมิถุนายนนี้
ด้าน “คุณยุทธชัย จรณะจิตต์” ประธานกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อิตัลไทย กรุ๊ป ของ TWG Tea เล่าว่า “TWG คัดสรรสันเนื้อแกะคุณภาพชั้นเยี่ยมระดับพรีเมียม มาเป็นวัตถุดิบหลักของเมนู สันเนื้อแกะ สวีต ซาฮารา โดยนำสันเนื้อแกะมาย่างให้กรอบนอกแต่เนื้อในยังชุ่มฉ่ำ ราดด้วยซอสเกรวี่สูตรพิเศษผสมชา สวีต ซาฮารา ที (Sweet Sahara Tea) เพิ่มกลิ่นหอมของเครื่องเทศและดอกไม้ป่า เคียงคู่มาด้วยทรัฟเฟิลบด ไวต์แอสพารากัสและพาสต้าเส้นดำ พาให้จินตนาการไปถึงบรรยากาศของกองคาราวานบนผืนทรายอันกว้างใหญ่ ที่มีทั้งท้องฟ้าสดใสและกลิ่นหอมเย้ายวนที่ลอยมากับสายลม
...จากนั้นก็เติมสีสันสไตล์ปารีส มหานครแห่งศิลปวัฒนธรรมด้วย ช็อกโกแลต ปารีส ปลาส ว็องโดม ที่ผู้หลงใหลรสชาติของช็อกโกแลตคงยากหักห้ามใจกับ โดมไวต์ช็อกโกแลต เสิร์ฟพร้อมผลไม้สดรวมหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และดาร์กช็อกโกแลตบราวนี่ เสริมรสหวานด้วยไอศกรีมวานิลลาผสมชา นโปเลียน ที (Napoleon Tea) และถั่วแมคคาเมีย ราดด้วยซอสดาร์กช็อกโกแลตร้อนผสมชา ปลาส ว็องโดม ที (Place Vendome Tea) เพื่อความดื่มด่ำให้กับมื้อพิเศษ
...เครื่องดื่มที่เหมาะสมลงตัว นั่นคือชา โมร็อกคัน ซาฮารา (Moroccan Sahara Tea) ชาเขียวเบลนด์กับชาดำเสริมกลิ่นรัญจวนและรสสัมผัสของดอกไม้จาก วัลเลย์ ออฟ โรส (Valley of Roses) พร้อมทั้งกลิ่นอัลมอนด์และดอกส้มป่า รับรู้ได้ถึงสัมผัสของเครื่องเทศแห่งทะเลทราย ที่เผยความหวานอันอ้อยอิ่งและนุ่มนวล ไม่ว่าจะดื่มแบบร้อนหรือแบบเย็นก็ให้รสชาติดี”
สำหรับเมนูพิเศษ ซาฮารา เซต นี้ มีบริการที่ทีดับเบิลยู จี ที ซาลอน แอนด์ บูติก สาขาดิเอ็มโพเรียม และสาขาสยามพารากอน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2559 เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.
นอกจากนี้ ที่ TWG Tea ยังมี Fusion Food สุดสร้างสรรค์จัดจ้านสไตล์ไทยอีกด้วย ด้วยเมนูแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ใช้ชาของTWG Tea มาเป็นส่วนผสม เรียกน้ำย่อยด้วย “ยำส้มโอไก่และกุ้ง” รสชาติแบบไทยๆ ที่ผสานกับ Lemon Bush Tea ชาแดงจากแอฟริกาหอมกลิ่นผลไม้ป่าตระกูลซิตรัส ยิ่งช่วยเสริมให้จานนี้โดดเด่นขึ้น พร้อมเสิร์ฟคู่กับแกงจืดผักรวม ที่เข้ากันอย่างลงตัวแบบสไตล์อาหารไทย
เมนูหลักมีให้เลือกลิ้มรสโอชาหลายจาน เริ่มจากเมนูขึ้นชื่อของสยามเมืองยิ้ม “แกะหรือเนื้อวากิวผัดกะเพรา” ใช้ซี่โครงแกะจากออสเตรเลียหรือเนื้อวากิวนุ่มๆ ผัดกะเพรารสชาติเผ็ด เติมชา Black Nectar Tea ลงไประหว่างปรุง ซึ่งชานี้จะให้รสเข้มข้นเผ็ดซ่าของเครื่องเทศเผ็ดร้อน รับประทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ลงตัวเป็นที่สุด (ราคา 750 บาท ++)
ส่วนผู้ที่พิสมัยรสชาติเบาๆ นุ่มนวลละมุนลิ้น “แกะหรือเนื้อวากิวน้ำมันหอย” เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ เช่นกัน จานนี้เลือกซี่โครงแกะจากออสเตรเลียหรือเนื้อวากิวตามแต่โปรดปราน ผัดกับหอมหัวใหญ่และต้นหอม ปรุงด้วยน้ำมันหอยสูตรของ TWG Tea ซึ่งผสมชาเขียว 1837 Green Tea ลงไป ก่อนราดบนต้นคะน้าอ่อนๆ กลิ่นหอมของผลไม้และดอกไม้นานาพรรณที่มาพร้อมชา จะทำให้คุณมิอาจลืมจานนี้ได้เลย (ราคา 750 บาท++)
ส่วนผู้ที่รักเมนูปลา “ปลาหิมะพริกไทยดำ” เนื้อปลาหิมะทอดกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยซอสพริกไทยดำ กระเทียมและพริกไทยอ่อนที่ผสมชา Smoky Earl Grey Tea ซึ่งมีกลิ่นหอมหวานเจือกลิ่นซิตรัส หรือผลไม้รสเปรี้ยวลงไปด้วย สร้างความรู้สึกสดชื่นสดใสให้กับฤดูคิมหันต์ (ราคา 550 บาท++)
ถ้าชอบรสจัดขึ้นมาอีกนิด แนะนำให้ลิ้มลอง “ปลาหิมะราดพริก” ซึ่งก่อนทอดให้กรอบนอกนุ่มใน จะนำปลาหิมะไปหมักกับชาเขียว Spice Route Tea เสียก่อน ซึ่งชาตัวนี้เป็นชาเขียวผสมกับขิงรสเข้ม กลิ่นจะหอมละมุน ราดด้วยน้ำราดที่ปรุงจากพริกสด ทั้งกลิ่นและรสชาติรวมกันแล้วเลอค่ายิ่งนัก (ราคา 550 บาท++)
สำหรับชาที่แนะนำให้ดื่มคู่กับอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น มีทั้งชาเขียวและชาดำ โดยชาเขียวจะมี 3 สูตรพิเศษให้เลือก ได้แก่ Blue Lotus Tea ชาเขียวจากเวียดนามมีกลิ่นดอกบัวหอมหวาน และอีกรสชาติที่มาไกลจากจีน ชื่อว่า Iron Monk Tea ชาเขียวที่มีกลิ่นหอมดอกไม้นานาชนิด หรือจะเลือกลิ้มลอง Jade Temple Tea เป็นชาเขียว ที่ผสมวานิลลาและเวอร์บีนา (Verbena) พืชที่ให้กลิ่นเหมือนมะนาว สร้างความสดชื่นลดดีกรีความร้อนของอากาศ
สำหรับชาดำ มี 2 อารมณ์ที่แนะนำให้คู่กับเมนูไทยฟิวชั่นนี้ เริ่มจาก Siam Dawn Tea ชาดำที่มีกลิ่นผลไม้ โดยเฉพาะสับปะรดให้ความสดชื่น หรือถ้าชอบแบบเข้มๆ แนะนำ Black Pagoda Tea เป็นชาดำผสมกับอ้อย และมะกรูด
ปิดท้ายด้วยของหวานต้อนรับคนรักข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งมีให้ลิ้มรสที่ ทีดับเบิลยู จี ที ซาลอน แอนด์ บูติก ทุกสาขา “แมงโก้ ฟิโล” (Mango Filo) แป้งอบกรอบสีทอง สอดไส้ด้วยข้าวเหนียวมะม่วง เคียงคู่มากับไอศกรีมเกล็ดน้ำแข็งผสมเนื้อมะพร้าวอ่อน หอมชื่นใจ ซึ่งเข้าคู่กันได้ดีกับชาดำอัลฟอนโซ ที (Alfonso Tea) ได้ทั้งร้อนและเย็น สนนราคา 440 บาท++ เป็นการปิดท้ายมื้ออร่อย กลางคิมหันตฤดูอย่างสวยงาม
โดยอาหารไทยเมนูพิเศษ Asian Inspiration มีบริการเฉพาะทีดับเบิลยู จี ที ซาลอน แอนด์ บูติก สาขา ดิ เอ็มโพเรียม เท่านั้น ให้บริการอย่างไม่มีกำหนด โดยมียำส้มโอไก่และกุ้ง พร้อมเสิร์ฟคู่กับแกงจืดผักรวม ไว้ให้ลิ้มรสทุกที่นั่ง สอบถามเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0-2259-9510 :: Text by FLASH
