สาวสวยร่างบางกับการขี่บิ๊กไบค์ดูขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง แต่สำหรับแพทย์หญิงเพ็ญลดา ครุธโกษา หรือหมอแหวว เจ้าของคลินิกความงาม Aeme Clinic กลับมองเป็นเรื่องท้าทายที่อยากสัมผัส เธอเทใจให้การขับขี่บิ๊กไบค์อย่างจริงจัง ถึงขนาดออกทริปร่วมกับผู้ชายอกสามศอก ด้วยลีลาการขับขี่ที่เท่ไม่แพ้หนุ่มๆ ขณะที่ ยามว่างก็ยังสวมบทเป็น SweetSyrup บล็อกเกอร์ที่ทำหน้าที่เขียนบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางด้วยบิ๊กไบค์คู่ใจ รวมถึงข้อมูลความรู้เกี่ยวกับรถคันโปรด เพื่อแชร์ประสบการณ์ให้เหล่าสาวกบิ๊กไบค์ได้อ่านอย่างเพลินๆ อีกด้วย
ด้วยความที่เป็นคนซนและชอบอยู่กับธรรมชาติที่สวยงามมาตั้งแต่เด็ก รวมทั้งกีฬาเอ็กซ์ตรีมทุกประเภท ตั้งแต่ ขี่ม้า วินเซิร์ฟ ขี่จักรยาน เดินป่า จึงเป็นสิ่งที่หมอแหววบอกว่าโปรดปรานมากๆ
“กีฬาอะไรที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติจะชอบหมด รถบิ๊กไบค์มาเริ่มขี่จริงจังเมื่อตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 1 เป็นช่วงปิดเทอม เดิมขี่มอเตอร์ไซค์เล็กเป็นอยู่แล้ว ก็ไม่ได้มีความรู้สึกอยากจะขี่บิ๊กไบค์ พอเพื่อนชวนให้มาขี่เป็นเพื่อนเขา ตอนนั้นใครจะขี่บิ๊กไบค์ ต้องไปเช่าขี่ที่พัทยา รถยุคนั้นก็ไม่ใหญ่มาก เริ่มจาก 400 ซีซี ก่อน เราก็ไปเช่าขี่กับเพื่อนคนนี้ทุกปี จากนั้นรถค่อยๆ ใหญ่ขึ้นตามร้านที่เขาให้เช่า ก็เริ่มไล่สเต็บจาก 400 ซีซี ขยับขึ้นไป 900 ซีซี จนเป็น 1,000 ซีซี และตอนที่ขี่ 1,000 ซีซี ก็คิดนะว่าตัวเราก็เล็กนิดเดียว จะไหวไหมเนี่ย แต่ก็ผ่านไปจนได้" หมอแหววเริ่มต้นบอกเล่าปฐมเหตุแห่งการขับขี่บิ๊กไบค์ของเธอด้วยรอยยิ้ม
หมอแหววเจ้าของรูปร่างบอบบางยังยอมรับว่า ครั้งแรกที่เริ่มขี่บิ๊กไบค์ค่อนข้างยุ่งยากนิดหน่อย ด้วยความที่เป็นคนตัวเล็ก เมื่อต้องมาควบคุมเจ้าสองล้อตัวโตๆ ให้ตั้งตรงและแล่นฉิวได้อย่างเท่ๆ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่ด้วยความรักและชื่นชอบ ทำให้เธอหมั่นฝึกฝน คลุกคลีสร้างความคุ้นเคยกับพาหนะ 2 ล้อคู่ใจว่า รถของเธอมีความสูงขนาดไหน น้ำหนักเท่าไหร่ เมื่อขับแล้วเบรก ระยะเบรกเป็นอย่างไร มุมเลี้ยวแคบที่สุดได้เท่าไหร่ เพื่อให้เกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุดนั่นเอง
“จริงๆแล้วการขี่บิ๊กไบค์ไม่ได้อยู่ที่ขนาดร่างกาย มันอยู่ที่จิตใจมากกว่าค่ะ ว่ามีความมุ่งมั่นขนาดไหน บิ๊กไบค์คันแรกของหมอเป็น Kawasaki D-Tracker 250 cc คันไม่ใหญ่แต่คล่องตัว ใช้ขับขี่ในกรุงเทพฯ ได้ พอใช้บ่อยๆ เริ่มคุ้นเคยกับเขาเราก็ค่อยๆ เพิ่มเลเวล คันที่ 2 เป็น BMW F800GS 800 cc ก่อนจะมาเปลี่ยนเป็น KTM 990 Adventure 990 cc” หมอแหววกล่าว พร้อมทั้งอธิบายรายละเอียดความแตกต่างระหว่างบิ๊กไบค์กับมอเตอร์ไซค์ธรรมดา ให้ฟังต่ออีกว่า รถที่มีขนาด 250 cc ขึ้นไป เรียกว่าบิ๊กไบค์ ถ้าซีซีต่ำกว่านี้เรียกมอเตอร์ไซค์ธรรมดา
เสียงโครมครามจากอุบัติเหตุรถยนต์กับมอเตอร์ไซค์ บริเวณด้านหน้าร้านกาแฟที่เรานั่งคุยกันอยู่ ดังเข้ามากระทบโสตประสาท ทั้งยังดึงดูดสายตาเราสองคน ให้หันไปมองตาม โดยภาพที่เห็นตรงหน้า ทำให้ผู้เขียนอดถามหมอคนสวยในฐานะไบค์เกอร์สาวไม่ได้ ว่าเธอกลัวและเคยเจออุบัติเหตุลักษณะนี้บ้างหรือไม่
“เคยนะคะ รู้สึกเสียวๆ เหมือนกัน แต่เชื่อว่าถ้าเราไม่ประมาท อุบัติเหตุก็คงไม่เกิดแน่ อุบัติเหตุครั้งแรกตอนขี่มอเตอร์ไซค์ Enduro แบบวิบาก ขี่เล่นกันในป่าแล้วล้ม เอ็นหัวเข่าขาด แต่พอล้มเราก็ยังปกติ ไม่ถึงกับเจ็บหนักหรือสลบ มารู้สึกเจ็บตอนขึ้นรถมาหาหมอ ส่วนบิ๊กไบค์หนักสุดเลยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ชนกับมอเตอร์ไซค์ คือเราขี่เลนขวาค่อนข้างเร็ว แล้วมอเตอร์ไซค์ธรรมดากำลังกลับรถเบรคไม่ทัน ตอนนั้นแขนหักต้องพักเป็นเดือนค่ะแต่ก็ไม่เข็ด (หัวเราะ)”
คุณหมอคนสวยยิ้มหวานพร้อมปรายตาไปมองบิ๊กไบค์คันเก่งของเธอ ก่อนจะหันกลับมาบอกว่า การขี่บิ๊กไบค์ของเธอส่วนใหญ่ไม่ใช่ถนนหนทางในกรุงเทพฯ แต่จะเป็นการออกทริปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ ในช่วงว่างจากการทำงาน เพื่อชื่นชมธรรมชาติสองข้างทาง ตลอดจนวิถีชีวิตของแต่ละชุมชน
“ชอบการออกทริปเที่ยวแบบนี้ เพราะแต่ละครั้งที่ไปเราจะได้สัมผัสธรรมชาติจริงๆ เข้าถึงคนง่าย ระหว่างทางที่เราจอดพักเราจะได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เรียนรู้สิ่งแปลก และยังได้เพื่อนและมิตรภาพใหม่ๆ ที่การขับรถยนต์ส่วนตัวยากจะได้เจอนะคะ อย่างเวลาเราแวะปั๊ม แวะเซเว่นฯ คนจะเข้ามาทักมาพูดคุยเรื่องบิ๊กไบค์ บางคนก็เข้ามาทักทายถามไถ่จะไปไหน บางทีเส้นทางข้างหน้าเราไม่รู้ว่ามีอะไร หากเขารู้ก็จะแนะนำว่าควรทำอย่างไร ใน 1 ปี หมอจะวางโปรแกรมออกทริปเที่ยวไกลๆ ยาวๆ 1 ครั้ง แต่ถ้ามีเวลาว่างก็อาจจะมากกว่านั้น”
ความชื่นชอบบิ๊กไบค์ของหมอสาวคนนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อสร้างภาพหรือเรื่องราวให้ดูเก๋ หากแต่มันเป็นความรักและความสุขอย่างแท้จริงของเธอนั่นเอง ทุกครั้งที่เธอได้ออกทริปกับเพื่อน เธอไม่เคยเก็บเรื่องราวดีๆ ไว้ในใจคนเดียวเท่านั้น หากแต่เธอยังแชร์ความสุขให้กับคนรอบข้าง ด้วยการบันทึกเรื่องราวการเที่ยวแต่ละครั้ง ไว้ในบล็อกเกอร์ส่วนตัวที่ชื่อ Women Biker's Diary block” อีกด้วย
“บล็อกเกอร์ที่ทำ เพราะอยากบอกเล่าเรื่องราวของการเดินทางท่องไปในโลกกว้าง ผ่านมุมมองและการใช้ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ให้คนที่รักในสิ่งเดียวกันได้อ่าน ทุกครั้งที่ไปนอกจากจะได้รับความสุขแล้ว ปัญหาอุปสรรคมันก็มีด้วยเหมือนกัน ตรงนี้หมอเอามาเล่าก็หวังว่าจะได้เป็นการแชร์ประสบการณ์ให้คนได้รู้ค่ะ”
และก่อนจากกัน หมอยังบอกเล่าถึงทริปที่ประทับใจมากที่สุดของเธอคือ ทริปชุ่มฝน...ที่ "สังขละ" เป็นการเดินทางผ่านสายฝนและถนนหนทางที่ฉ่ำฝน การขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวัง และทริป ตะบี้ตะบันขี่ 1,000 โลในวันเดียว ที่ไปกันแค่ 2 คน 2 คัน กับเพื่อนสาวเท่านั้น
ขอบคุณภาพ GM CAR