xs
xsm
sm
md
lg

บู๊ทส์ชวนกูรูเคลียร์ 2 ปัญหาผิวตัวการผิวหมองคล้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


>>สำหรับวัยรุ่นและหนุ่มสาวออฟฟิศแล้วปัญหาเรื่อง “สิว” กลับไม่ใช่เรื่องสิวๆ ที่จะรักษากันได้ง่ายๆ นอกจากนั้น ปัญหา “ผิวหมองคล้ำ” ยังสร้างกังวลใจให้ไม่กล้าเผยผิวอีก ล่าสุด บู๊ทส์ รีเทล (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามชั้นนำ ชวนทุกคนมาเตรียมบอกลา 2 ปัญหาผิวกวนใจ ด้วยการจัดแคมเปญ "Healthcare Campaign" เป็นปีที่ 4 เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการดูแลสุขภาพและความงาม โดยร่วมกับผลิตภัณฑ์ยูเซอริน เชิญพญ.อรยา กว้างสุขสถิตย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง สถาบันโรคผิวหนัง และดร.ภก.รวมศักดิ์ วีระสุนทร มาให้ความรู้แก่เภสัชกรร้านบู๊ทส์เพื่อให้คำแนะนำกับคนไทยให้ดูดีและมั่นใจกับผิวสวยสุขภาพดี

พญ.อรยา กว้างสุขสถิตย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า “สิวเป็นโรคผิวหนังอันดับ 1 ที่มีคนมาขอคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญมากที่สุด โดยคนเอเชียมีปัญหาเรื่องสิวมากถึง 1 ใน 3 ซึ่งสิวเป็นปัญหาผิวพรรณที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย โดยวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 11-19 ปี มีอัตราการเกิดสิวมากที่สุดกว่า 80%* สำหรับในวัยผู้ใหญ่ที่อายุตั้งแต่ 20-50 ปีขึ้นไป พบว่า ผู้หญิงมีการเกิดสิวมากกว่าผู้ชาย* ซึ่งมีปัจจัยสำคัญอย่างเช่น ฮอร์โมน การแต่งหน้า เป็นต้น”

“โดยปัจจัยกระตุ้นสิว ได้แก่ เครื่องสำอางที่มีซิลิโคน ล้างออกยากทำให้ผิวอุดตัน มลภาวะ สิ่งสกปรก พันธุกรรม และสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ซึ่งจากผลการศึกษาล่าสุด พบว่า กลไกสำคัญของการเกิดสิวและรอยสิว คือ “การอักเสบที่ยังไม่ปรากฎ” (Subclinical Inflammation)** ซึ่งเป็นการระคายเคืองใต้ชั้นผิวที่อาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า โดยพบการระคายเคืองใต้ชั้นผิวในทุกระยะของการเกิดสิว เริ่มตั้งแต่ผิวภายนอกดูปกติ ต่อเนื่องเป็นสิวอุดตันชนิดที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า (Microcomedone) กลายเป็นสิวอุดตันและสิวอักเสบ แม้แต่ในระยะที่ผิวเกิดรอยสิวและรอยแผลเป็นก็มีการอักเสบได้เหมือนกัน” พญ.อรยา ให้คำแนะนำว่า “ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นสิว ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดดเป็นประจำ เนื่องจากแสงแดดเป็นตัวกระตุ้นให้สิวเกิดการอักเสบมากขึ้น และยังทำให้รอยแดงเข้มขึ้นอีกด้วย สาวๆ ที่ชอบกินอาหารคลีนควรหลีกเลี่ยงนมพร่องไขมัน (Skimmed milk) ที่มีไขมัน 0% เพราะเป็นตัวกระตุ้นสิวได้ ไม่ควรบีบสิว เพราะจะทำให้เป็นแผลและเกิดรอยดำ ควรล้างหน้าเพียงวันละ 2-3 ครั้ง โดยล้างเบาๆ และหลีกเลี่ยงน้ำอุ่น ตามด้วยการใช้ครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิว หากเป็นสิวเยอะแนะนำให้หยุดใช้เครื่องสำอางชั่วคราว หรือหากต้องการแต่งหน้าให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดสิว (noncomedogenic) ปราศจากซิลิโคนอุดตันผิวและไม่ก่อให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย และเป็นประเภท oil free ควบคู่ไปกับรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และรู้จักสังเกตตัวเอง”

ดร.ภก.รวมศักดิ์ วีระสุนทร เผยว่า “ปัญหาผิวหมองคล้ำส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ภาวะผิวขาดออกซิเจน เนื่องจาก “ออกซิเจน” มีส่วนสำคัญในการผลัดเซลล์ผิว และกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้เป็นไปตามธรรมชาติโดยไม่ทำให้ผิวบาง อีกทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณแลดูกระจ่างใส แข็งแรงและมีสุขภาพดี ปัญหา “ผิวขาดออกซิเจน” เกิดได้กับคนทุกวัย แต่เมื่ออายุเลยวัย 20-30 ปีขึ้นไป ผิวจะเริ่มมีภาวะขาดออกซิเจนมากขึ้น โดยพบว่าสภาพผิวขาดออกซิเจนจะเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากส่วนใหญ่สาวๆ จะชอบแต่งหน้า บางครั้งอาจล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด นอกจากนั้นยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด มลภาวะและแสงแดด” โดย ดร.ภก.รวมศักดิ์ ให้ทิปส์สำหรับดูแลผิวขาวกระจ่างใสว่า “การทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจดคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ออกซิเจนไหลเวียนได้ดี ควรใช้คลีนซิ่งทำความสะอาดผิวหน้า ตามด้วยโทนเนอร์ ทาบำรุงผิวและครีมกันแดด ซึ่งเป็นขั้นตอนง่ายๆ แค่เพียงใส่ใจในการทำความสะอาดผิวซักนิด แค่นี้ก็มีผิวสวยกระจ่างใสแล้ว”

มาฟีลกู๊ดเคลียร์ทุกปัญหาผิวได้ที่เภสัชกรประจำร้านบู๊ทส์ทุกสาขา หรือสาวๆ ที่สนใจข้อมูลสามารถติดตามรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/bootsthailand นะคะ :: Text by FLASH



กำลังโหลดความคิดเห็น