>>ต้อนรับวันหยุดสงกรานต์กันด้วยบทสัมภาษณ์คู่รักสุดร้อนแรงแห่งยุคอย่าง “โอบอุ้ม-รัสรินทร์ ชุมสาย ณ อยุธยา” กับ “พ.ต.ท.อรรถพล อิทธโยภาสกุล” หรือที่รู้จักกันดีในนาม “รองอั๋น” ที่ควงกันไปพักผ่อนริมหาดของโรงแรมแห่งใหม่ล่าสุดอย่าง “หัวหิน แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา” ให้ Celeb Online ได้เก็บภาพสุดสวีต พร้อมนั่งพูดคุยกันแบบหมดเปลือกถึงความสัมพันธ์แสนหวานครั้งนี้รวมทั้งเปิดอกถึงอดีตข่าวฉาวที่ฝ่ายชายต้องเผชิญ
อั๋น :: ผมเป็นฝ่ายจีบเขาก่อน คือตอนนั้นโสดมาสักพัก หลายเดือนแล้ว ก็ได้เปรยกับเพื่อนๆ ว่าเริ่มเหงาแล้ว อยากให้แนะนำสาวโสดให้รู้จักบ้าง ก็มีรุ่นน้องคนหนึ่งบอกผมว่า มีน้องคนหนึ่งโสดเหมือนกันจะลองทำความรู้จักกันดูไหม?
อุ้ม :: คนนั้นเขาเป็นอาจารย์ของอุ้มเอง คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าอุ้มมีแฟน ไม่มีใครคิดว่าอุ้มโสด แต่จริงๆ คืออุ้มเลิกกับแฟนเก่ามาแล้วเป็นปีเลยนะ แล้วพอดีวันหนึ่งได้คุยกันเรื่องความรักขึ้นมา เขาถึงได้รู้ว่าอุ้มโสดมานานแล้ว เขาก็เลยจับคู่ให้เรา บอกมีเพื่อนพี่ก็โสดเหมือนกันลองคุยกันดูไหม แล้วก็ส่งรูปมาให้ดู อุ้มเห็นรูปแล้วก็ยังไม่รู้นะว่าคือ รองอั๋น บุคคลที่เคยเป็นข่าวดัง...
ที่จริงแล้วตอนนั้นถึงอุ้มจะโสด แต่ก็มีหนุ่มๆ มาคุยด้วยเยอะเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ให้ความพิเศษใคร เราก็ไม่ได้รู้สึกอยากรู้จักใครใหม่ ไม่อยากคุยกับใครเพิ่ม เราก็จะมีวิธีคัดโดยการส่งลิสต์คำถามไปก่อนเลย ว่าชอบผู้หญิงแบบไหน มีไลฟ์สไตล์อย่างไร ร่ายยาวเป็นแบบสอบถามให้เขาตอบ อุ้มขี้เกียจคุยค่ะ คือถ้าตอบคำถามไม่ผ่านก็ไม่คุยต่อ เสียเวลาค่ะ เพราะอุ้มมีสเปกที่แน่นอน ถ้าจะคุยแบบเป็นแฟน ต้องผ่านจุดที่อุ้มตั้งไว้ เพราะอุ้มคบใครคบจริงจัง ไม่มีคบเล่นๆ ดังนั้น ถ้าไม่ใช่ก็โบกมือลาแต่ต้นเลยดีกว่า
อั๋น :: เจอแบบนั้นเข้าไปก็ตกใจครับ จำได้ว่าส่งสติกเกอร์ไลน์หน้าคนตกใจกลับไป คือไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อน รู้สึกเหมือนว่านี่เรามาสมัครเป็นแฟนกันหรือเปล่า(หัวเราะ) แอบรู้สึกนะว่าทำไมต้องมีกฎระเบียบหรือข้อแม้อะไรเยอะแยะ แต่ผมก็ชอบนะ เพราะเธอตรงๆ ดี รู้สึกว่าคุยกันเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกันก็ได้ รู้จักกันไว้ก็ไม่เสียหายอะไร”
รองอั๋นกวาดคะแนนเต็มทะลุเพดาน
อย่างที่บอกว่าสาวอุ้มเธอมีสเปกแบบชัดเจน โดยเธอได้ลิสต์ 22 ข้อที่เธอมองหาในตัวหนุ่มๆ ที่จะก้าวมาเป็นคนรู้ใจ
“ขอเรียกมันว่าไบเบิลความรักของอุ้มเลย คือถ้าไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้ก็ไม่คุยต่อให้เสียเวลา โดยตั้งเกณฑ์ไว้ว่าต้องผ่านอย่างน้อย 16 ข้อ และข้อหลักๆ ทั้งหมดต้องผ่านนะ ฟังดูเหมือนเป็นคนเยอะ แต่ที่จริงแล้ว สเปกต่างๆ เหล่านี้ของอุ้มก็คือสเปกปกติที่สาวๆ ทั้งหลายมองหานั่นแหละ
อย่างเช่น เป็นผู้ชายสงวน คือ คล้ายสัตว์สงวน หายาก ใกล้สูญพันธุ์ ไม่เจ้าชู้ทั้งทางกายและใจ จะมาเป็นแบบติดอ่าง มีเด็กพริตตี้อะไรพวกนี้ ไม่ได้เลย ห้ามเด็ดขาด เป็นคนซื่อสัตย์ไม่โกหก, มีความประสงค์ต้องการแต่งงานและมีบุตร, เป็นคนไม่ใช้อารมณ์ มีเหตุและผล, ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวที่อโคจร, ดูแลอุ้มได้ เลี้ยงอุ้มได้ พาไปกินข้าวดีๆ จิบไวน์ดีๆ ได้, ทัศนคติดี เปิดใจรับความเห็นต่าง, การงานมั่นคง ไม่เป็นเกย์ หรือไบ ที่สำคัญคือต้องรักอุ้มมาก รักเราคนเดียว
มันเป็นคุณสมบัติง่ายๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่านั้นเลย ซึ่งพี่อั๋นเขาผ่าน 21 ข้อเลยนะ แถมบางข้อเขายิ่งกว่าที่เราตั้งไว้อีก อย่างเช่น เขาไม่ชอบเที่ยว ไม่ปาร์ตี้ แถมไม่ดื่มเหล้าด้วย มีแค่ข้อเรื่องภาษาที่เขาไม่ได้คะแนนเต็ม ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ข้อสำคัญด้วย คืออุ้มไม่ได้แค่ฟังจากคำตอบเขาอย่างเดียวนะ เพราะใครๆ ก็ตอบโกหกได้ แต่อุ้มจะมีวิธีเช็ก ทั้งเช็กกับเพื่อน หรือกับคนรู้จัก ว่าเขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้จริงไหม นี่คือข้อดีของการที่เรารู้จักคนเยอะและหลากหลายวงการ”
ขณะที่โอบอุ้มมีลิสต์ยาวเป็นหางว่าว ด้านรองอั๋นกลับขอคุณสมบัติเพียงข้อเดียว “ผมมองหาคนอยู่ด้วยแล้วสบายใจ คือผมไม่ดูโปรไฟล์ หรือรายละเอียดอะไรพวกนี้เลย ผมดูที่ความรู้สึกเป็นสำคัญ ถ้าคุย ได้เจอแล้วรู้สึกมันใช่ ...ก็จบ!
ผมว่ามันคงเป็นเรื่องอายุด้วยแหละ แต่ก่อนก็มีสเปกเยอะ แบบต้องหมวย ผมยาว ขาสวย นั่นนี่ แต่เราผ่านชีวิตมาแล้ว มีประสบการณ์ต่างๆ มากขึ้น ก็เรียนรู้ว่าเรื่องเหล่านั้นมันไม่สำคัญเลย เราตกผลึกว่าอยู่ด้วยแล้วสบายใจนี่แหละคือที่สุด ซึ่งอุ้มตอบโจทย์ตรงนี้ คนอื่นที่มองอาจจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเยอะ นู่นนี่ แต่ที่จริงเธอเป็นคนง่ายๆ สบายๆ นะ เป็นผู้หญิงเฮฮาด้วย เวลามีอะไรก็พูดตรงๆ อยู่กับเธอแล้วสบายใจ ไม่มีปัญหา นี่คือสำคัญสุด ถ้าเราอยู่กับใคร อยู่ได้นาน เป็นตัวของตัวเองและไม่อยากไปไหน นั่นก็พอแล้วสำหรับผม”
เปิดเผยตัวตน...คบจริงหวังแต่ง
วันแรกที่เจอกัน อุ้มนัดวันที่โทรมสุดๆ เป็นวันที่เราไปออกงานขายของการกุศล ที่เขาเชิญแขกไปขาย อุ้มก็วิ่งวุ่นหัวหมุนทั้งวัน ตอนเย็นที่นัดดินเนอร์นี่คือ ใบหน้ามัน หัวยุ่งเลย วันนั้นพี่อั๋นก็ไปคุมสอบมาทั้งวัน งานหนักมาก แทบไม่ได้พักผ่อน แต่เราก็ลากเขามา บอกว่าต้องมาวันนี้แหละ
เพราะอุ้มอยากให้เจอกันในวันที่เป็นตัวของตัวเองที่สุด ไม่ต้องมานั่งสร้างภาพแอ๊บสวย ดูสิว่าวันที่เราโทรมๆ เขารับเราได้ไหม คืออุ้มเป็นคนแบบนี้ จะคบใครก็หงายการ์ดมาเลย เปิดเผยหมด นิสัยอย่างไร ข้อดีข้อเสียอะไร เปิดเผยไปเลย ถ้ารับได้ก็จะได้คบ ได้คุยกันต่อ ถ้าคบกันไม่ได้ก็โบกมือลากันไป เพราะถ้าจะคบกันจริงๆ เขาก็รับเราได้ในทุกขณะ ไม่ใช่มานั่งแอ๊บกัน แล้วพอคุยกันไปพอเจอความจริง แล้วมาผิดหวังทีหลัง มันเสียเวลาทั้งเขาและเรา
อุ้มคบใครคบจริง เรามองถึงอนาคต ถึงการแต่งงาน ไม่มีแบบคบเล่นๆ ดังนั้น อุ้มจึงอยากหาคนที่รับเราได้ในแบบที่เราเป็นอยู่ ถ้ารับได้ก็ดี รับไม่ได้ก็ไม่คบดีกว่า”
“ผมคิดตรงกับอุ้มในจุดนี้ คือไม่สร้างภาพ อย่างผมอดีตเคยเป็นมาอย่างไร หรือผ่านการแต่งงานมาแล้ว หรือมีข่าวอะไรบ้างที่ไม่ดี ผมเปิดเผยกับเธอหมด มีอะไรข้องใจตรงไหนถามได้ พร้อมอธิบาย ผมว่ามันแฟร์ๆ คุยกันแบบตรงๆ ไม่ใช่ปิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ พอมารู้ทีหลังก็จะเสียความรู้สึกดีๆ กันเปล่าๆ และผมก็อายุขนาดนี้แล้ว ไม่เคยมองความรักเป็นเรื่องเล่นๆ หรือจะเปลี่ยนแฟนไปเรื่อยๆ เวลาคบกับใครก็จริงจังทุกครั้ง ในความสัมพันธ์ทุกครั้งที่ผ่านมาก็หวังถึงแต่งงาน มีชีวิตคู่”
เพราะความชัดเจนของทั้งคู่ที่คิดตรงกัน และรู้สึกว่าต่างฝ่ายต่างเป็นคนที่ใช่ จากการจีบกันเพียงเดือนกว่าๆ ก็เลื่อนสถานะมาเป็นแฟนกันอย่างเปิดเผย
“อุ้มเป็นคนเปิดเผยอยู่แล้วทุกเรื่อง เราไม่ใช่ดารา ดังนั้นคบใครก็บอกไม่เคยปิด และอุ้มพาไปเจอครอบครัวทุกคน เพราะอุ้มจะคบใคร อุ้มคิดพิจารณาอย่างดี จริงจัง ไม่มีคบเล่นๆ ก็กล้าบอกให้คนอื่นรู้ อุ้มว่าเป็นการให้เกียรติอีกฝ่าย ถ้าเรากลัวว่าเดี๋ยวคนนั้นรู้ คนนี้รู้ อุ้มว่าแบบนั้นมันเหมือนยังไม่มั่นใจในตัวเขานะ ซึ่งถ้ายังไม่มั่นใจอุ้มจะไม่มีทางเรียกคนนี้ว่าแฟนเด็ดขาด”
“สำหรับผมก็เหมือนกันครับ ถ้าคบใครผมก็บอกว่าคบ ไม่มีปกปิด ผมว่าแบบนี้เป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิงนะ แม้จะเพิ่งคบแค่เดือนหรือสองเดือน ผมก็บอก ถ้าเรามั่นใจเรียกเธอว่าเป็นแฟนแล้ว คือให้ความมั่นใจเธอ กล้าบอกออกสื่อ ถึงแม้ว่าจะเลิกกันทีหลัง ผมก็ไม่เสียใจอะไร เพราะยังไงเธอก็คือคนที่เราคบจริง มันเป็นส่วนหนึ่งของอดีตเรา เราเคยมีเธออยู่ในชีวิตจริงๆ จะเป็นความสัมพันธ์ที่สำเร็จหรือล้มเหลวมันก็ไปเปลี่ยนแปลงความจริงนี้ไม่ได้”
ความต่างของวัยไม่ใช่ปัญหา
ขณะที่รองอั๋นเพิ่งจะฉลองเบิร์ธเดย์วัย 40 ปีเต็มไปหมาดๆ แต่สาวโอบอุ้มเพิ่งจะ 27 ปี ความต่างวัย 13 ปี ที่ดูเหมือนจะมากแต่กลับไม่เป็นปัญหาสำหรับทั้งสองคน
อุ้ม :: ชอบคนที่แก่กว่าอยู่แล้ว สเปกอุ้มคือชอบผู้ใหญ่ อุ้มคุยกับคนวัยเดียวกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะเราคิดเยอะ คิดมาก ก็จะชอบผู้ชายที่โตกว่าเราเยอะๆ แต่ไม่ได้มองว่าต้องอายุเท่านั้นเท่านี้ต้องห่างเป็น 10 ปีนะ อุ้มดูที่อายุของความคิดมากกว่า คุยกันรู้เรื่อง ต้องฉลาด มีประสบการณ์ชีวิตที่ให้คำปรึกษาเราได้ ซึ่งพี่อั๋นตอบโจทย์ตรงนี้ได้เลย เขาเป็นคนฉลาดมาก พูดอะไรรอบเดียวแล้วเข้าใจ ตามอุ้มทัน
อั๋น :: อุ้มเธอโตกว่าอายุครับ เขาคิดอะไรเหมือนผู้ใหญ่ อยู่กับเธอแล้วไม่รู้สึกว่าต่างหรืออายุจะเป็นปัญหานะ เพราะผมเองก็ไม่เคยมองเรื่องอายุเป็นเรื่องสำคัญ ขอให้เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจก็พอ”
อุ้ม :: อย่างเดียวที่โกรธเรื่องอายุห่างกันขนาดนี้คือ พอคนอ่านข่าวว่าอายุห่างกัน 13 ปี จะชอบมีคอมเมนต์มาว่า ผู้หญิงแก่กว่าใช่ไหม อุ้มเศร้านะ คือพี่อั๋นหน้าเด็กแล้วก็ชอบแต่งตัววัยรุ่นตลอดเวลา ชอบใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ ส่วนอุ้มก็จะแต่งเต็มตลอด คนมองแล้วก็เลยคิดว่าอุ้มผู้ใหญ่กว่า”
เมื่อถามถึงความรักที่งอกงามมานับ 7 เดือนเต็มแล้ว ทั้งคู่กล่าวถึงเสน่ห์ของอีกฝ่ายว่า
อุ้ม :: พี่เขาเป็นผู้ชายเสมอต้นเสมอปลาย วันแรกเป็นอย่างไรก็ดูแลดีเหมือนเดิม ไม่ได้แบบมีช่วงโปรโมชัน พอคบกันแล้วก็เห็นเป็นของตาย เขาไม่มีเลย เคยพูดอะไรไว้ ก็พิสูจน์ตัวเองได้ว่าเขาเป็นอย่างนั้นจริงๆ ที่สำคัญคือเขาเป็นผู้ใหญ่มาก อุ้มปรึกษาเขาได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว
อั๋น :: สำหรับผมอุ้มเธอน่ารักนะ เป็นคนทำงานเก่ง ฉลาด คุยกันรู้เรื่อง มันดีตรงที่เธอเป็นคนตรงๆ เปิดเผยตัวตนให้เราได้รู้จักตั้งแต่วันแรกเลย คือเปิดมาให้เห็นว่าเป็นแบบนี้นะ ไม่มีสร้างภาพ มันทำให้เราอยู่ด้วยง่าย ไม่ใช่ตอนคบกันใหม่ๆ เป็นแบบหนึ่ง แล้วพอรู้จักกันแล้วเปลี่ยนไป ไม่ใช่คนที่เราคิดว่าเธอเป็น ไม่มีต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง
กฎเหล็ก คือ “ห้ามนอกใจ
“การคบของเราคือแฟร์ๆ กันทั้งคู่ คือถ้าคบกันแล้วต้องไม่มีเรื่องกิ๊ก เรื่องมือที่สาม เป็นเรื่องเดียวที่พี่อั๋นขอ ซึ่งอุ้มว่ามันสบายมากเลย อุ้มบอกเขาตั้งแต่คุยกันแรกๆ แล้วว่า ถ้าวันหนึ่งจะคบกับเขาเป็นแฟน เราจะเคลียร์ทุกคนก่อน
ไม่มีคุยกับคนอื่นหรือคบซ้อนแน่นอน และอุ้มเองก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเช่นกัน จะมาเจ้าชู้ มองหญิงอื่นไม่ได้ ซึ่งเขาก็แสดงความเปิดเผยให้เรามั่นใจ
อย่างโทรศัพท์มือถือเขานี่ อุ้มเปิดเช็กได้ตลอด รู้รหัสทุกอย่าง และเราจะมีแอปพลิเคชันหนึ่งที่ใช้คู่กัน คือแอปสำหรับคู่รัก “Between” ซึ่งอีกฝ่ายจะรู้หมดว่า เราไปทำอะไรที่ไหน ลงตารางให้อีกคนเช็กได้หมด หรืออย่างบางทีเขาออกไปกินข้าวกับเพื่อน ก็จะโทรศัพท์รายงานตลอด ถ่ายรูปส่งมาให้ดู ให้ถ่ายคู่กับนาฬิกา สถานที่ไรงี้ หรืออยากเฟซไทม์ก็โทรศัพท์ไปได้เลย รับตลอดไม่มีปิดบัง”
ฝ่ายชายหนุ่มอธิบายว่า “สำหรับผู้ชายบางคนอาจจะไม่ชอบ แต่สำหรับผมแล้ว รู้สึกเฉยๆ นะ เพราะมันบริสุทธิ์ใจ เราไม่ได้ไปทำอะไรให้เขาจับผิดอยู่แล้ว มีอะไร ไปไหนเราก็โทร.รายงานเขาอยู่แล้ว”
“ตอนแรกที่ใช้แอปนี้ อุ้มว่าจะเอาไว้จับผิดเขา แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเขาก็เอาไว้จับผิดอุ้มเหมือนกันนะคะ (หัวเราะ) คืออุ้มเริ่มรู้สึกว่า เขาก็แอบเช็กเราด้วยนะ อย่างเราไปเที่ยว ไปปาร์ตี้ ก็จะโทรศัพท์มาทุกชั่วโมงเลย แบบอยู่ไหนแล้ว ถึงบ้านหรือยัง ตอนแรกเราก็คิดว่าดีเนอะ มีแฟนเป็นห่วง แต่จริงๆ แล้วเขาไม่ได้ห่วงหรอก แต่โทรศัพท์มาเช็กมากกว่า” ฝ่ายหญิงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
เห็นความรักที่หวานชื่นและจริงจังกันขนาดนี้ เราแอบกระซิบถึงเรื่องการลั่นระฆังวิวาห์ว่ามีโอกาสจะได้ยินกันเมื่อไร ฝ่ายแฟนหนุ่มอมยิ้มไม่พูดอะไร พร้อมโบ้ยให้สาวน้อยเป็นคนตอบ
“อุ้มรอให้คบกันครบปีก่อน ค่อยคิดตัดสินใจอีกที เอาให้มั่นใจกว่านี้ก่อน อีกอย่างคืออุ้มเคยมองไว้ด้วยว่าอยากแต่งสักตอนอายุ 28 ปี ซึ่งก็ตรงกับปีหน้าพอดี แล้วก็มีเรื่องแปลกอีกอย่างหนึ่งคือ ก่อนที่อุ้มจะรู้จักกับพี่อั๋น หมอดูเจ้าประจำของอุ้ม เคยโทรศัพท์มาหาบอกว่าจะมีคนเข้ามานะ คนในเครื่องแบบ จริงจัง และจะมาแรงแซงทางโค้งมาก อุ้มยังเถียงเขากลับไปเลยว่าใครจะเข้ามา โสดจะตาย ไม่มีแนวโน้มเลย ไม่เชื่อเด็ดขาด สุดท้ายก็เป็นพี่อั๋นเข้ามาจริงๆ
และเมื่อไม่นานนี้เขาเพิ่งโทรศัพท์มาอีกรอบ บอกว่า อุ้มมีดวงการแต่งงานนะ น่าจะเป็นช่วงปี 59 ปี 60 นี่แหละ อุ้มฟังแล้วก็กลุ้มเลยนะ...ว่าอย่าเพิ่งทัก เดี๋ยวเป็นจริงอีก (หัวเราะ)” ฟังเธอพูดแบบนี้ กับความแม่นของแม่หมอขนาดนี้ Celeb Online ว่าอีกไม่นาน ปีนี้ ปีหน้าคงต้องเตรียมรับการ์ดเชิญจากคู่หวานคู่นี้ได้เลย
Her Profile โอบอุ้ม-รัสรินทร์ ชุมสาย ณ อยุธยา
สำหรับสาวโอบอุ้ม คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก เป็นเซเลบริตี้สาววัย 27 ปี ที่เป็นรู้จักกันดีในแวดวงสังคม เธอเป็นทายาทคนเก่งของ “ดร.ปาริชาติ ชุมสาย ณ อยุธยา” โดยเธอทำอาชีพเป็นล็อบบี้ยิสต์ ช่วยเจรจาการทำธุรกิจในพม่า และทำธุรกิจของตัวเองในพม่าด้าน Biomass ปลูกพืชพลังงานชีวมวล พร้อมกับกำลังศึกษาปริญญาเอก รัฐประศาสนศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนทำวิทยานิพนธ์เตรียมจบแล้ว
“คาดว่าน่าจะจบประมาณปีหน้าค่ะ หลายคนอาจจะคิดว่า แม่ก็จบดอกเตอร์ ลุงก็จบ ญาติก็จบกันหมด อุ้มจึงต้องเรียนบ้าง ที่จริงอุ้มไม่เคยกดดันตรงนี้เลยนะ กลับกันซะอีก เพราะคุณแม่เองไม่ได้สนับสนุน แถมเตือนด้วยว่าอย่าเรียนเลยลูก(หัวเราะ)
แต่อุ้มเองเป็นคนชอบเรียนอยู่แล้ว ก็เลยสนุกกับการเรียนไปเรื่อยๆ ซึ่งการมาเรียนตรงนี้มันไม่ใช่ได้แค่เรื่องความรู้ หรือวุฒิปริญญา วิชาการ แต่มันได้ทั้งเรื่องคอนเนกชัน ได้ประสบการณ์ชีวิต ได้เจอคนจากหลากหลายสาขาอาชีพ โดยอุ้มเรียนรุ่นเจ้าสัว มีทั้งเจ้าของกิจการ อดีตรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี มีคนทำงานดีๆ ทั้งนั้น ซึ่งคนพวกนี้ ในชีวิตปกติเราอาจไม่มีทางรู้จักเขาเลย แต่นี่คือเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกัน ได้เรียนรู้จากเขาเยอะ”
นอกจากนี้ เธอเพิ่งร่วมหุ้นลงทุนกับเพื่อนเปิดตัวธุรกิจใหม่ “VARI Collagen Yogurt Blink & Block นวัตกรรมอาหารเสริมที่มีการผสมผสานกันระหว่างการควบคุมน้ำหนักและการบำรุงผิวพรรณเข้าด้วยกัน (แฟนเพจ FB: vari_official และอินสตาแกรม IG:vari_official)
“อุ้มจะดูในส่วนของการประชาสัมพันธ์ การตลาด ส่วนเพื่อนเขาช่วยดูแลระบบ จัดการเรื่องการเงิน บัญชี ดูแลธุรกิจโดยรวม นี่ถือเป็นธุรกิจล่าสุดที่อุ้มทำ แต่คงไม่หยุดที่ธุรกิจนี้ค่ะ อุ้มเป็นคนชอบทำงาน ชอบมองหาโอกาส ถ้าอะไรที่ดีๆ มีลู่ทางเติบโต อุ้มก็อยากลงทุนอีก มองอยู่หลายธุรกิจเลย แต่ก็ต้องพิจารณาให้ดี ศึกษาข้อมูลให้เยอะ และรอโอกาสที่เหมาะสม เพราะจะทำอะไรเราก็อยากให้มันประสบความสำเร็จค่ะ”
:: ความรู้สึกในการมาถ่ายแบบแนวเซ็กซี่ในวันนี้
“อุ้มกล้าโชว์ เพราะอุ้มว่าตอนนี้มันโชว์ได้ ก็ถ้าไม่โชว์ตอนนี้แล้วจะให้อุ้มไปโชว์ตอนไหน ตอนแก่หรือคะ มันก็ไม่ใช่ มันเลยวัยไปแล้ว อุ้มว่าเราโชว์ในวัยนี้ ตอนที่เรายังมีดี หุ่นเรายังโอเค ใส่แล้วสวย ก็โชว์ไปเถอะ แต่อุ้มก็พิจารณาให้มันอยู่ในกรอบนะ ไม่ใช่โป๊เปลือย หรือนู้ด เราก็ต้องดูภาพลักษณ์ด้วย กับ Celeb Online อุ้มไว้ใจว่าภาพมันก็ออกมาเซ็กซี่ดี ไม่ได้มีอะไรน่าเกลียด”
:: ที่มาของไบเบิลแห่งความรักฉบับโอบอุ้ม
“กับความรักครั้งก่อน อุ้มไม่ได้มีสเปกเยอะขนาดนี้ คิดแค่ว่า เอาแค่จริงใจ รักเรา ไม่เจ้าชู้ ก็พอแล้ว แต่แล้วก็รู้ว่าคิดน้อยไปก็ทำให้มันเป็นปัญหา พอคบกันไปแล้วตอนหลังเจอนั่นนี่ ไปเจอเรื่องแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละ ที่ทำให้มันไปกันไม่รอด อุ้มเลยตั้งเข็มใหม่ ลิสต์มาเลย อะไรที่เราต้องการ อะไรที่รับไม่ได้ เอาให้เคลียร์แต่ต้นไปเลย เก็บเอาบทเรียนมาเป็นประสบการณ์ เพื่อให้ความสัมพันธ์ครั้งใหม่มันประสบความสำเร็จ ไม่ต้องไปเจอปัญหาเดิมๆ ไบเบิลของอุ้มเลยเกิดขึ้นค่ะ”
:: ความมั่นใจในรักครั้งใหม่
“หลายคนพอได้ยินข่าวอุ้มคบกับพี่อั๋น ก็ตกใจ อย่างเพื่อนอุ้มเองก็มีแบบมาเตือนให้ระวังๆ นะ นั่นเพราะเขาฟังจากกระแสข่าว แต่อุ้มไม่เคยกังวลเลยนะ เพราะอุ้มรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เรื่องข่าวพี่อั๋น อุ้มรู้รายละเอียดตั้งแต่เขายังไม่ได้มาจีบอุ้มเลย เพราะเราก็อยู่ในแวดวงสังคมนี้ ข่าวเมาท์ ข่าวกอสซิป มีมาให้ได้ยินอยู่ตลอด ไม่ใช่แค่ข่าวจากสื่อ ซึ่งคนในข่าวเราก็รู้จัก ก็รู้เรื่องราวในเบื้องต้นมาบ้าง ยิ่งพอเขาเข้ามาจีบ อุ้มเลยยิ่งต้องเช็กละเอียดเลย ว่าเรื่องเป็นอย่างไร
ซึ่งที่จริงแล้วการที่พี่อั๋นตกเป็นข่าวแบบนี้ อุ้มยิ่งเช็กได้ง่ายเลยนะ ก็ข่าวดังซะขนาดนั้น เราก็เช็กได้เลยว่าเขาพูดจริงไหม ที่เขาอธิบายมา โกหกอะไรหรือเปล่า ก็สอบถามคนรู้จักทั้งตำรวจ ทหาร นักธุรกิจ เช็กละเอียดเลย แล้วพอมีข้อไหนที่ยังสงสัย ก็เอ่ยปากถามตรงๆ เลย ซึ่งเขาก็ตอบให้ความกระจ่างเรา แล้วพออุ้มไปตรวจสอบดูมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ดังนั้นไม่ต้องห่วงค่ะว่าอุ้มจะโดนหลอก
อย่างคุณแม่เอง เขาอาจจะไม่ได้รู้อะไรละเอียดเท่าเรา เพราะคนละรุ่นกัน แต่พอเขารู้ว่าพี่อั๋นมาจีบ เขาก็รีบไปเช็กกับเพื่อนๆ เลย เขาเองก็รู้จักผู้ใหญ่เยอะแยะ จากตอนแรกที่เขายังคลางแคลงใจ แต่ตอนนี้เขากลายเป็น ทีมอั๋น ไปแล้ว และก็เข้ากับพี่อั๋นได้ดีมากๆ เลยค่ะ”
:: ไม่แคร์คำซุบซิบนินทา
“ตั้งแต่คบกับพี่อั๋นมาก็หลายเดือนแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังมีคนโจมตีอุ้มอยู่เรื่อยๆ นะ ซึ่งอุ้มก็ไม่ได้เครียดอะไร มองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ มันทำให้ชีวิตมีสีสันมากขึ้น เพราะการคบกันของอุ้มกับพี่อั๋นมันราบเรียบมาก แทบไม่มีทะเลาะกันเลย มันก็น่าเบื่อนะ อันนี้พอมีข่าวแบบนี้ มีกอสซิปนั่นนี่ มันก็ขำๆดี มีประเด็นให้เราคุยกันมากขึ้น
อุ้มไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำพูดของคนอื่น เพราะคนอื่นก็คือคนอื่น เรื่องความรักมันอยู่ที่เราสองคน ถ้าเราแฮปปี้ คุยกันเข้าใจ อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข มันก็โอเคแล้ว ส่วนคนอื่นจะพูดอะไรก็ปล่อยเขาพูดไป ถ้าไม่ระรานหรือใส่ร้ายเราเกินไปก็ปล่อยผ่าน ปล่อยให้เขาโวยวายไปเอง
สำหรับคำวิพากษ์วิจารณ์ ถ้าเป็นในพื้นที่สาธารณะในคอมเมนต์ตามข่าวต่างๆ ก็ช่างเขา อุ้มไม่ไปนั่งอ่านพวกเกรียนคีย์บอร์ดให้หงุดหงิดหรอก แต่ถ้ามีคนเข้ามาก้าวก่ายในพื้นที่ส่วนตัวของอุ้ม อย่างในเฟซบุ๊ก ในไอจีเรา ถ้าเราชี้แจง อธิบายได้ ก็จะตอบไป พูดอย่างมีเหตุผลกับเขา แบบเคยโดนคอมเมนต์ว่า “ใส่ชุดอะไรเนี่ยะ” อุ้มก็จะเข้าไปตอบเขาเงียบๆ แบบ เชิญถามสไตลิสต์ค่ะ แท็กร้านไปให้ด้วยเลย หรืออย่างเคยมีคนแอดไลน์มาหาอุ้มว่า “ทำไมปล่อยให้ผู้ชายหลอกคะ” อุ้มถามเขากลับว่า “หลอกอะไรคะ” เขาก็เงียบไม่ตอบ คือเขาตอบไม่ได้ไง อุ้มก็ไม่สนใจปล่อยผ่าน
แต่ถ้าจะเข้ามาแบบด่ากราดเกรี้ยว ไม่มีเหตุผล ไร้สาระ ก็คงต้องบล็อกไป หรือถ้าใครทำอะไรที่มองว่ามันดูแล้วเกินกว่าเหตุ ทำให้เราเสื่อมเสีย อุ้มก็พร้อมที่จะออกมาตอบโต้เสมอ เราสวยสู้คนค่ะ ไม่ใช่สวยแบ๊ว ใสๆ เราดูแลสิทธิ์ของเราเอง อย่ามาข้ามเส้นกัน”
His Profile พ.ต.ท.อรรถพล อิทธโยภาสกุล
ใครๆ ก็คงเคยได้ยินข่าวดังของรองผู้กำกับหนุ่มคนนี้ แต่คงมีไม่กี่คนที่จะได้รู้จักตัวตนของเขา “รองอั๋น” อย่างแท้จริง ปัจจุบันนี้เขารับตำแหน่งรองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กองตรวจราชการ 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นจเรตำรวจ ดูแลในส่วนภาคตะวันออกทั้งหมด เป็นความรับผิดชอบใหม่ที่เขาก้าวเข้ามารับหน้าที่หลังจากต้องปฏิบัติหน้าที่ตำรวจในท้องที่มานานหลายปี
เส้นทางอาชีพตำรวจของรองอั๋นต้องบอกว่าเป็นเรื่องของโชคชะตา จากเด็กที่เคยใฝ่ฝันว่าเป็นหมอ กับ วิศวะ มาจับพลัดจับผลูสอบเข้านักเรียนนายร้อย
“ที่บ้านผมไม่มีใครทำงานด้านสายงานตำรวจ ทหารมาก่อนเลย พ่อทำงานรัฐวิสาหกิจ คุณแม่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นคนชลบุรี ผมเติบโตแถวภาคตะวันออกตลอด ก็เรียนหนังสือเหมือนเด็กปกติที่ฝันอยากเข้าคณะดังๆ เป็นแพทย์ หรือวิศวะ จนกระทั่งย้ายโรงเรียนมาเจอเพื่อนกลุ่มใหม่ที่เขาอยากไปสอบโรงเรียนนายร้อย อยากเป็นทหาร ตำรวจกัน ผมก็ตามไปสอบกับเขาด้วย ไม่ได้คิดอะไร สอบเล่นๆ ตามเพื่อน โดยผมเลือกเหล่าตำรวจ เพราะมันเป็นหน่วยที่เขาแย่งกันสอบเข้ามากสุด คะแนนสูงสุด ก็เลือกไปเพราะมันดูท้าทายดี
ผลออกมาว่าสอบติด แต่เพื่อนที่มาสอบได้กลับไม่ติด ซึ่งที่จริงติดแล้วไม่เอาก็มี แต่สำหรับผมมองว่ามันเป็นดวง ได้โอกาสมาก็ลองดูสักตั้ง ตอนนั้นก็ไม่ได้มองภาพตำรวจแบบเท่ เป็นฮีโร่อะไรนะ ก็มองว่าเป็นอีกอาชีพหนึ่ง แล้วพอเรียนก็สอบได้ที่ดีๆ มาโดยตลอด จนสุดท้ายแล้วจบปี 4 โรงเรียนนายร้อยได้คะแนนรวมเป็นที่หนึ่งของรุ่น มีชื่อสลักอยู่บนบอร์ด ก็ถือเป็นเกียรติประวัติที่น่าภาคภูมิใจ”
เกียรติประวัติความเก่งกาจของรองอั๋นไม่เพียงแค่นั้น เพราะหลังจากจบโรงเรียนนายร้อย เข้าทำงานเป็นตำรวจ เขาก็เลือกศึกษาเพิ่มเติม โดยลงเรียนควบ 2 ปริญญาไปพร้อมกับการทำงาน ทั้งปริญญาโทด้านอาชญวิทยา และปริญญาตรีด้านนิติศาสตร์
คุยกับรองอั๋นทั้งที จะไม่กล่าวถึงประเด็นที่ตกเป็นข่าวดังกับแฟนเก่าเมื่อต้นปีก่อนก็คงไม่ได้ โดยเขาพูดถึงเรื่องนี้ว่า “เรื่องมันก็ผ่านมาเป็นปีแล้ว ทางผมน่ะจบแล้วนะ นิ่งแล้ว ให้มันเป็นอดีตไป ถ้าพูดตรงๆ ตอนนั้นก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เพราะมันก็คือเรื่องความสัมพันธ์ของคนที่จบกันไป แต่กลายเป็นว่าพอมีสื่อนำเสนอออกไป ก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของคนที่ไม่เกี่ยวข้องจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์
มันก็เป็นสิ่งที่กระทบกับชีวิตผมมากนะครับ มีคนที่ยังเข้าใจผิดอยู่เยอะเลย แต่ผมเองก็ได้อธิบายไปทั้งหมดแล้วหาอ่านดูได้ หนังสือพิมพ์ลง รายการโทรทัศน์สัมภาษณ์ ผมทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว ชี้แจงข้อสงสัยทั้งหมดแล้ว ถ้าคนยังเข้าใจผิด หรือไม่เชื่อก็ทำอะไรไม่ได้
มีหลายคนยุให้ผมฟ้อง ผมมองว่าเราเป็นผู้ชาย อีกฝ่ายก็เป็นผู้หญิง แถมเป็นผู้หญิงที่เราเคยคบ เคยมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ก็ยังอยากเก็บตรงนั้นไว้ ไม่อยากมานั่งมีเรื่องกัน ยิ่งในสังคมไทย ผู้ชายทำอะไรต้องระวังไม่งั้นก็โดนมองอีกว่ารังแกผู้หญิง ซึ่งที่จริงแล้วผมเองที่เป็นตำรวจ หรือใครที่เรียนกฎหมายมา มองก็รู้แล้วว่า ถ้าจะฟ้องนี่มันฟ้องได้หลายกระทงเลยนะ แต่ผมว่าทำไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก ถ้าคนที่เขาปักใจไม่เชื่อ ไม่ฟังข้อมูล มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรมาเปลี่ยนใจเขาได้หรอก เอาแค่รอบข้างผม ครอบครัว เพื่อนฝูงเข้าใจเราก็พอแล้ว คนอื่นเราไม่ต้องไปให้ความสำคัญอะไร”
:: ใช้ความจริงสยบข่าวฉาว
“ในช่วงแรกผมก็หงุดหงิดนะ มีนะไม่สบายใจ คืออยู่ดีๆ ตื่นมามีข่าวใหญ่เกี่ยวกับตัวเรา ทำให้คนเข้าใจผิด ผมไม่เคยไปเรียกขอเงินอะไรเขา ไม่มีการซื้อตำแหน่ง และไม่ได้มีมือที่สามด้วย เราเลิกรากันด้วยเหตุผลของเราสองคน แต่กลับถูกนำไปบิดเบือนให้เป็นประเด็นอื่น แล้วคนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้รู้ความจริงก็พูดกันไป วิจารณ์กันแบบไม่มีมูลอะไร ผมเคยได้ออกมาชี้แจ้งแล้ว ออกรายการสรยุทธ์แล้ว ลงข่าวก็แล้ว มีบางคนที่อ่านก็เข้าใจ แต่บางคนเขาก็ไม่ได้อ่านไง ด่าไปตามกระแส ใช้อารมณ์กันไปโดยไม่ได้ดูเหตุผลที่เราชี้แจ้ง ผมก็ไม่รู้จะไปตามแก้ข่าวยังไง เราทำทุกอย่างที่เต็มที่แล้ว
แต่ก็มีหลายคนที่เข้าใจความจริง ไม่ใช่จากที่ผมชี้แจ้งนะครับ กลายเป็นคนในอินเตอร์เน็ตที่ไม่ได้เกี่ยวของอะไรกับผมเลย เขามาช่วยจับผิด หาเหตุผล หาข้อเท็จจริง มาช่วยแก้ข่าวให้ผมก็มี อย่างพวกนักสืบพันทิพย์นี่เขาขุดกันจริงจังมากนะ แล้วพวกนี้รู้ลึก รู้จริงด้วยนะครับ ผมเข้าไปอ่านเองยังตกใจ คือด้วยข่าวมันเป็นข่าวใหญ่และมีประเด็นข้อมูลขัดแย้งกัน คนก็อยากรู้ความจริง บางคนอ่านข่าวแล้วรู้สึกว่ามันแปลกๆ ก็มาช่วยกันขุด ช่วยกันตรวจสอบ มาถกกัน ใครรู้อะไรมาก็ไปหาหลักฐานช่วยให้ความจริงปรากฏว่าผมไม่ได้ทำจริงอย่างที่อีกฝ่ายกล่าวหาเลย”
:: ความโด่งดังบนโลกโซเชียล
“ผมค่อนข้างเข้าใจกับพฤติกรรมในโลกโซเชียลนะ การวิพากษ์วิจารณ์ หรือเกรียนคีบอร์ดอะไรพวกนี้ ผมโดนมาเยอะ โดนก่อนจะเป็นข่าวกับแฟนเก่าซะอีก เพราะผมมีคนรู้จักในโลกออนไลน์มานานแล้ว ตั้งแต่มีเพจรวบรวมตำรวจที่เขากรี๊ดๆ กัน แบบหมวดไฉไลอะไรทำนองนี้มาโดยตลอด มีคนแชร์ภาพผมในโซเชียลมีเดียมาหลายปีแล้ว ก็จะเคยชินกับคอมเมนต์ทั้งดีและร้ายมาโดยตลอด
ยิ่งพอมาเป็นข่าวดังคนก็วิจารณ์กันมากขึ้น รู้จริงบ้างไม่จริงบ้าง ผมก็อ่านบ้างถ้าเขามาเขียนในพื้นที่ของผม อะไรที่ชี้แจ้งได้เราก็ชี้แจ้งไป คอมเมนต์ในด้านลบผมจะเจอแค่ในโลกออนไลน์นะ แต่ในชีวิตจริงทุกคนที่เข้ามาคือมาดี แบบใช่ตำรวจในข่าวหรือเปล่าแล้วมาขอถ่ายรูป หรือให้กำลังใจ ไม่เห็นมีใครกล้าเข้ามาด่า มาโจมตีเหมือนที่พิมพ์เลย เขากล้าก็แค่ในตัวหนังสือ ก็ปล่อยเขาไปเถอะครับ”
:: โต้กระแสข่าวเลือกคบแต่ไฮโซ
“คนอาจจะเห็นว่าคนที่แล้วก็ไฮโซ อุ้มก็ไฮโซ แล้วก็มาหาว่าผมเกาะผู้หญิงเลือกคบแต่ไฮโซ ผมขอบอกตรงนี้เลยว่าไม่เคยเกาะใคร ผมคบใครผมออกให้ตลอด ไปเดทกันผมก็จ่ายตลอด ไม่เคยเรียกเงินหรือข้าวของอะไร ผมทำงานมาขนาดนี้ เลี้ยงดูตัวเองได้ครับ
แล้วประเด็นไฮโซนี่ ถ้าย้อนกลับไปดูแฟนผมคนก่อนหน้านี้ ก็มีทั้งสาวทำงานออฟฟิศธรรมดา ภรรยาเก่าก็แอร์โฮสเตส ไม่ได้เป็นคนเด่นดังอะไร มีแค่ 2 คนหลังที่นามสกุลดังมีชื่อเสียงในแวดวงสังคม แต่ที่ผมตัดสินใจคบกับเขาก็ไม่ใช่ว่าเพราะเขาเป็นไฮไซหรือไม่ ผมมองที่ตัวบุคคลมากกว่า ว่าเขาเป็นยังไง
แล้วผมก็ไม่เคยรู้สึกกลัวกับคำนี้นะ ไม่เคยรู้สึกด้อยหรือเกรงกับสถานะเขาด้วย ถ้ามีคนที่ดีถูกสเปก ผมก็กล้าจีบนะ ไม่เคยกลัวการลงสนาม เราให้เขาตัดสินใจ อย่าไปตัดสินใจแทนเขาว่าเราจะดีพอไหม จะเหมาะสมหรือเปล่า ผมยึดหลักว่าแสดงตัวตนออกไป เปิดเผยไปทุกอย่าง ถ้าเขาไม่สน พิจารณาแล้วไม่ผ่าน ก็ให้มันเป็นการตัดสินใจของเขาเอง ไม่ใช่ว่าเพราะเราไม่กล้าสู้ ไม่กล้าเดินหน้า” :: Text by FLASH
นายแบบ & นางแบบ :: พ.ต.ท.อรรถพล อิทธโยภาสกุล (@aun_pol) & รัสรินทร์ ชุมสาย ณ อยุธยา (@obeoom)
แต่งหน้า :: จีรวัฒน์ วรรธนะวิริยะกุล จากเครื่องสำอางนาร์ส (NARS) โทรศัพท์ 0-2252-6162
เครื่องแต่งกาย :: แบรนด์คอรัลลิสต์ (IG @coralist.swimwear) โทรศัพท์ 08-0605-6160
สถานที่ :: โรงแรมหัวหิน แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา โทรศัพท์ 0-3290-4666 เว็บไซต์ www.marriott.com/Hua_Hin
ประสานงาน :: พรรณพิมล แดงรัศมีโสภณ, สิริลักษณ์ เขตร์กุฎี