>>วันนี้ Celeb Online จะพาคุณไปสำรวจห้องรับรองพิเศษสำหรับผู้โดยสาร Miracle Lounge ในสนามบินสุวรรณภูมิของเครือ Miracle Group (มิราเคิล กรุ๊ป) ที่เพิ่งคว้ารางวัลห้องรับรองพิเศษที่ดีที่สุดในเอเชียแปซิฟิกมาครองได้เป็นปีที่ 3 พร้อมทั้งพูดคุยกับคุณอนัคพล อิงคะกุล ผู้บริหารหนุ่มคนเก่งถึงเคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้ มิราเคิล เลานจ์ สามารถครองอันดับหนึ่งของการเป็นจุดพักผ่อนที่รู้ใจนักเดินทางมาได้อย่างยาวนาน
Miracle Group ภายใต้การบริหารของพ่อ-ลูก 2 เจเนอเรชัน คือ ดร.อัศวิน อิงคะกุล กับทายาท วิน-อนัคพล และเพิร์ลลี่-ลักษมีกานต์ ที่ช่วยกันดูแลธุรกิจมากมายในมือ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร ไปจนถึงบริการการจัดประชุมสัมมนา และอีกหนึ่งธุรกิจที่สำคัญคือ ห้องรับรองผู้โดยสารในสนามบินของมิราเคิล กรุ๊ป ครองความเป็นเจ้าตลาดมาตั้งแต่สนามบินดอนเมืองจนถึงสนามบินสุวรรณภูมิในปัจจุบันนี้
โดยล่าสุด Miracle Lounge (หรือในชื่อเดิม Louis’ Tavern First Class CIP Lounge) ห้องรับรองพิเศษสำหรับผู้โดยสารชั้น 1 Concourse G ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพิ่งคว้ารางวัลห้องรับรองพิเศษผู้โดยสารสายการบินที่ดีที่สุดในเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2016 จากการโหวตของสมาชิก Priority Pass จากกว่า 850 แอร์พอร์ตเลานจ์ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยได้เป็นปีที่ 3 แล้ว
ปัจจุบันนี้ มิราเคิล เลานจ์มีทั้งหมด 6 แห่งกระจายอยู่ทั่วสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีตั้งอยู่ใน Concourse A,C,F และ G ซึ่งแห่งที่ได้รับรางวัลคือที่ Concourse G ซึ่งเป็นเลานจ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนพื้นที่กว่า 1,500 ตารางเมตร แบ่งเป็น 2 ชั้นพร้อมรองรับทั้งผู้โดยสารบิสซิเนสคลาสและเฟิสต์คลาส โดยเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการอาหารและเครื่องดื่มนานาชนิดมาตรฐานโรงแรม มีบรรยากาศสบายๆ พร้อมมุมส่วนตัวสำหรับพักผ่อนหรือทำงาน ตลอดจนห้องอาบน้ำและห้องสูบบุหรี่ไว้บริการ
“ขณะที่เลานจ์รับรองผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเน้นจัดแบบให้รองรับลูกค้าได้เยอะ โต๊ะที่นั่งจึงติดกัน จนรู้สึกอึดอัด แต่ที่มิราเคิล เลานจ์ จะเน้นให้นั่งสบาย รู้สึกเป็นส่วนตัว หรืออย่างห้องอาบน้ำก็จัดเป็นห้องส่วนตัวไม่ใช่ห้องน้ำรวม ในห้องมีมุมแต่งตัวเรียบร้อย ให้คุณสะดวกสบายในการใช้งาน”
ไม่ว่าจะนั่งชิลพักผ่อนรอขึ้นเครื่องก็มีมุมโซฟานั่งสบาย หรือจะนั่งทำงานส่งนาทีสุดท้ายก่อนเดินทางก็มีโต๊ะทำงาน พร้อมมุมคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบไร้สาย ไปจนถึงห้อง VIP รับรองแขกพิเศษที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ เรียกได้ว่าพร้อมให้บริการทุกคน
“เราพยายามบริการทุกคนให้ได้ครบสมบูรณ์ที่สุด แม้กระทั่งผู้สูบบุหรี่ เราก็มีห้องสูบบุหรี่ที่กว้างขวางนั่งสบาย มองเห็นวิวรันเวย์ คือไม่ได้จะสนับสนุนให้คนสูบบุหรี่นะครับ แต่เพราะเราก็มีลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ ซึ่งต้องการการดูแลบริการเช่นกัน ไม่ใช่ต้องนั่งแบบอุดอู้อยู่ในห้องสูบบุหรี่ที่ทึบๆ แคบๆ”
ความครบครันของที่นี่รวมไปถึงเรื่องอาหารและเครื่องดื่มก็มีให้เลือกรับประทานกว่า 30 เมนูผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้ลิ้มลอง รวมไปถึงอาหารฮาลาล พร้อมกับมีบาร์พร้อมบาร์เทนเดอร์มืออาชีพไว้คอยบริการ
“เรื่องการบริการ ผมการันตีได้ว่าเราไม่น้อยหน้าที่ไหนๆ เพราะมิราเคิล กรุ๊ปเองก็มีธุรกิจโรงแรมเป็นอีกธุรกิจหลัก ดังนั้นเราจึงได้นำการบริการระดับมาตรฐานโรงแรมเข้ามาใช้ด้วยเพื่อตอบสนองความพึงพอใจของแขกที่มาใช้บริการให้ได้มากที่สุด...
นอกจากนี้ผมก็คอยพัฒนาการบริการอยู่เสมอ อย่างทุกครั้งที่เดินทาง ผมจะได้เช็ก-อินที่สนามบินล่วงหน้านานมาก เพื่อใช้เวลาไปใช้บริการสำรวจเลานจ์อื่นๆ ในสนามบินต่างๆ ว่าเขาจัดยังไง ที่นั่งแบบไหน มีบริการอะไรบ้าง คือไปเก็บข้อมูลมาพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดนิ่ง”
โดยการพัฒนาก้าวต่อไปคือ มิราเคิล เลานจ์แห่งใหม่ของสนามบินสุวรรณภูมิที่จะเปิดที่ Concourse D ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้
“ที่ใหม่นี้จะเป็นเลานจ์ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด คือมากกว่า 3,000 ตารางเมตร เลานจ์นี้จะตั้งอยู่ตรงกลาง ที่พอเดินผ่านจุดตรวจ ตม. ก็จะพบเลย ที่นี่จะมีความพิเศษที่ Out Door เลานจ์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเลานจ์แบบกลางแจ้งในเทอร์มินัลแห่งแรกของโลกก็ว่าได้ โดยเป็นพื้นที่บริเวณสวนไผ่ตรงกลางระหว่างเทอร์มินอล ซึ่งเราจะจัดเป็นเลานจ์แบบนั่งชิลกลางธรรมชาติ ที่สามารถนั่งสูบบุหรี่ได้ด้วย
พร้อมด้วยบริการ Show Kitchen เปิดโชว์ให้เห็นการทำอาหารผ่านห้องกระจก ให้ทุกคนได้เพลิดเพลินไปกับอาหารอันอร่อยและสวยงามของคนไทย ซึ่งที่นี่ผมตั้งเป้าว่าจะสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้โดยสารทั่วโลกด้วยบริการที่แสนประทับใจและจะคว้ารางวัลห้องรับรองพิเศษผู้โดยสารสายการบินที่ดีที่สุดในโลกมาให้ได้”
นอกจากที่สุวรรณภูมิแล้ว ทางมิราเคิล กรุ๊ป ยังเพิ่มบริการที่สนามบินดอนเมือง โดยจะเปิดบริการเลานจ์ถึง 3 แห่ง คือในส่วนของเทอร์มินอลระหว่างประเทศ 2 แห่ง ในประเทศ 1 แห่ง พร้อมทั้งมี Magic Garden Food Hall และโรงแรมแนวใหม่ในชื่อ Sleep Box by Miracle นับเป็น Sleep Box แห่งแรกของประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 เทอร์มินอล 2 ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อเร็วๆ นี้
“ก้าวต่อไปเราก็มองถึงการขยายธุรกิจไปยังสนามบินอื่นๆ ในเมืองไทย ไม่ใช่เฉพาะที่กรุงเทพฯ เท่านั้น และจะพัฒนาระบบการบริการของเราให้แข็งแรง เพื่อต่อยอดไปจนถึงการขาย Know How ให้กับผู้ที่สนใจอยากทำธุรกิจนี้ในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป”
คุณสามารถเข้าใช้บริการของ Miracle Lounge ได้จากการรับสิทธิประโยชน์จากกว่า 50 สายการบิน รวมทั้งเอกสิทธิ์พิเศษของบัตรเครดิตชั้นนำ หรือขอใช้บริการแบบเป็นรายบุคคลในราคา 1,000 บาท (สามารถใช้บริการได้ 2 ชั่วโมง) สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2134-6263 :: Text by FLASH