หญิงเก่งทายาทรุ่น 2 แห่ง “วิจิตรากรุ๊ป” เต้ย-นวณัฐ สุขะมงคล ผู้หลงรักและโปรดปรานกีฬาเรือใบยิ่งนัก เมื่อผู้เป็นแม่มอบที่ดินแปลงใหญ่ย่านบางนาให้พัฒนาโครงการวิจิตราธานี เธอจึงหยิบที่ดินส่วนหนึ่งประมาณ 70 ไร่ ขุดทะเลสาบให้เป็นศูนย์กลางการพักผ่อน และเป็นพื้นที่สำหรับเล่นและสอนเรือใบ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และสร้างความประทับใจแก่ผู้เล่นเรือใบแบบใกล้ชิด
นวณัฐ สุขะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มารวย เรียลเอสเตท จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิจิตรา ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ควบตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในกลุ่มวิจิตรา กรุ๊ป เป็นลูกคนที่ 3 ในจำนวน 6 คน ของ สุทิน และ วิจิตรา สุขะมงคล เติบโตมากับกิจการครอบครัว และเข้าไปช่วยดูแลถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 20 ปี โดยหลังเรียนจบปริญญาตรีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็เริ่มสะสมประสบการณ์ด้วยการช่วยงานทั่วไปของบริษัท พัฒนายนต์ชลบุรี จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของครอบครัว ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตรและการประมง
หลังชิมลางงานในทุกด้านแล้ว เธอก็ตกหลุมรักงานเรียลเอสเตท โดยมีหน้าที่สืบสานการนำที่ดินสะสมของ “วิจิตรา” ผู้เป็นแม่มาพัฒนาให้เกิดมูลค่าเพิ่ม อย่าง "บ้านมารวย" ภายใต้ บริษัท มารวยเรียลเอสเตท จำกัด ที่ก่อตั้งมานานกว่า 27 ปี รวมถึงพัฒนาและขยายโครงการอื่นๆ อาทิ วิจิตราธานี, เดอะรอยัลสามมุก, มารวย, วิกตอเรีย ไพรเวท ซิตี้ ที่ทุกโครงก็ล้วนเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เต้ยได้พูดถึงความสุขใจในการทำโครงการบ้านจัดสรรว่า ทุกโครงการที่ได้ทำนั้นเธอรักและชอบเหมือนกันหมด แต่ที่ปลื้มมากที่สุดคงเป็นโครงการบางนา-ตราด ซึ่งเป็นสถานที่นัดพบในวันนั้นมาก เพราะนอกจากจะเป็นโครงใหญ่แล้ว เธอสามารถเนรมิตทะเลสาบขึ้นมาตอบรับไลฟ์สไตล์สุดโปรดของลูกบ้านและเธอได้อีกด้วย
และยามที่ได้พูดถึงทะเลสาบ สีหน้าและแววตาของนักธุรกิจสาวคนนี้ดูสดใสและร่าเริงยิ่งหนัก เธอบอกว่า ไลฟ์สไตล์ส่วนตัวจะหมดเวลาไปกับกีฬาเกือบทุกประเภท เรียกได้เต็มปากว่าเป็นสปอร์ตเกิร์ล ซึ่งกีฬาแต่ละชนิดที่เธอชอบ ไม่เพียงแต่ใช้พละกำลังอย่างเดียว แต่ยังต้องอาศัยความรู้รอบตัวและเทคนิคไหวพริบ บวกกับความรู้ ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในกีฬานั้น
"จริงๆ แล้วชอบทุกอย่าง แต่ถ้าชอบมากคงเป็นเรือใบ อาจเป็นเพราะฝังใจมาตั้งแต่เด็ก ที่ได้เห็นภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เมื่อครั้งทรงเล่นเรือใบแล้วประทับใจ จนวันหนึ่งไปบาหลี เห็นเพื่อนเล่นก็ลองกระโดดลงหัดเล่นบ้าง ปรากฏว่าเป็นช่วงที่มีลม เราสามารถควบคุมเรือได้ บังคับให้เขาไปในทิศทางที่กำหนดได้ หลายคนก็อึ้ง จากนั้นเต้ยก็เล่นเรื่อยมา”
ทิวทัศน์ของบึงขนาดใหญ่ที่เห็นจากบนฝั่ง ชวนให้เราหยุดนิ่งมองความเป็นไปของธรรมชาติ ภาพพานอรามาเบื้องหน้า เห็นหมู่เรือใบลำสวยหลายลำลอยคออยู่ริมฝั่งซึ่งเต้ยอธิบายถึงมนตร์เสน่ห์แห่งกีฬาโปรดของเธอว่า
“ทำให้ได้ผจญภัย สอนให้เรารู้จักธรรมชาติมากขึ้น เมื่อรู้จักแล้วเราจะอยู่กับเขาได้อย่างมีความสุข บางทีก็สอนให้เรารู้จักที่จะอดทน ต้องหยุดนิ่งเวลาไม่มีลม ทนรอจังหวะเวลาที่เหมาะสมแล้วโต้กลับ ซึ่งเราไม่อาจทำนายได้ว่าธรรมชาติจะเป็นอย่างไรต่อไป การแล่นเรือใบไม่ใช่อยู่ที่กำลังกายของผู้เล่นเพียงอย่างเดียว แต่ต้องใช้กำลังใจที่อยู่ภายในและต้องรู้จักใช้ธรรมชาติให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ความอดทนปนกล้าตรงนี้เป็นสิ่งจำเป็นในการตัดสินใจที่ดี บางครั้งเต้ยนำมาใช้ในการทำธุรกิจในปัจจุบัน”
นอกจากเรื่องกีฬาแล้ว ซีอีโอคนเก่งคนนี้ยังฝักใฝ่ธรรมะอย่างจริงจัง เนื่องจากได้พบกับท่านโกเอ็นก้า อาจารย์สายวิปัสนาชาวอินเดีย ที่ชี้ให้เธอเห็นหลักคำสอนพระพุทธเจ้า จนเต้ยสนใจศึกษาอย่างจริงจัง หลังได้ศึกษาธรรมะอย่างลึกซึ้งแล้ว เธอบอกว่าทำให้เข้าใจการใช้ชีวิตมากขึ้น และตอนนี้สิ่งที่เธอดีใจและเพิ่งปฏิบัติได้อย่างจริงจังนั่นคือ การเลิกเบียดเบียนชีวิตสัตว์ด้วยการทานมังสวิรัติ ซึ่งเริ่มขึ้นประมาณเดือนที่แล้ว หลังจากเพื่อนสาวเล่าให้เธอฟังว่า เข้าไปในร้านอาหารแล้วเดินไปเลือกล็อบสเตอร์ขนาดใหญ่เพื่อให้เชฟนำมาปรุงอาหาร แต่ล็อบสเตอร์ตัวที่เพื่อนของเธอหมายปอง กลับยกก้ามขึ้นมาในลักษณะเหมือนไหว้ขอชีวิต เมื่อได้ฟังก็รู่สึกสงสารทำให้ไม่อยากเบียดเบียนชีวิตสัตว์อีกต่อไป และยังทานเนื้อสัตว์ไม่ลง
“ยิ่งฟังเพื่อนเล่าเรื่องสัตว์ที่ต้องมาเป็นอาหารของมนุษย์ เรารู้สึกอินและพูดว่าจะไม่ทานเนื้อสัตว์อีก ตอนพูดเราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก รุ่งเช้าก็ลืม สั่งเนื้อทานตามปกติ แต่มันแปลกที่ครั้งนี้ทานเข้าไปอาเจียนมาหมด เป็นอย่างนี้ 2-3 มื้อ เพื่อนก็เลยทักว่า เป็นเพราะพูดแล้วไม่ทำตามหรือเปล่า ก็คิดได้ (หัวเราะ) เลยเลิกเด็ดขาด และเดี๋ยวนี้ก็ไม่เคยนึกอยากเลยนะคะ ปกติเป็นคนชอบเนื้อมาก เดินผ่านได้กลิ่นก็ไม่นึกอยากอีกเลยนะคะ”
นวณัฐ ในวัย 45 ปี ยังบอกอีกว่า ทุกวันนี้เธอมีความสุขกับชีวิตมาก เธอยอมรับว่าเธอโชคดีที่ได้พบเจอและผ่านประสบการณ์หลากหลายแง่มุม ทุกเรื่องทุกเหตุการณ์หล่อหลอมให้เธอได้แข็งแกร่ง มีหลายเรื่องที่ท้อแต่ไม่คิดถอย ทั้งยังเชื่อว่าหากได้สู้ได้ลองทำก็ย่อมสำเร็จได้อย่างแน่นอน
“เต้ยเชื่อมาตลอดว่า ใครก็ตามหากได้ทำในสิ่งที่รัก และรักในสิ่งที่ทำ เราจะทำสิ่งนั้นได้ดีแน่นอน” สาวหล่อกล่าวทิ้งท้ายก่อนจากกัน
เรื่อง เดียว
ภาพ ไผ่