xs
xsm
sm
md
lg

The Diamond Queen อัญรัตน์ พรประกฤต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)
 
แม้ไม่ได้ชื่นชอบ “เพชร” เป็นพิเศษเหมือนคนอื่น แต่เมื่อ "เพชร” เป็นดั่งลมหายใจของครอบครัว  อัญ-อัญรัตน์ พรประกฤต ทายาทคนโตแห่ง “ยูบิลลี่” จึงรับอาสายกทัพขยายแบรนด์เพชร ที่พ่อก่อตั้งจากรากฐานที่ปู่วางไว้ ให้กว้างใหญ่ พร้อมนำพา “ยูบิลลี่” ก้าวสู่ Global Brand ได้สำเร็จ และเมื่อใกล้ชิดเพชรเม็ดงามนานๆ เข้า ความคิดเดิมๆ ก็หายไป เดี๋ยวนี้เธอกลายเป็นคนที่ลุ่มหลงเพชรอย่างจริงจังอีกด้วย

 
อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) คลุกคลีและเติบโตมากับธุรกิจของครอบครัว ในวัยเด็กเธอวิ่งเล่นเข้า-ออกช่วยงานร้านเพชรของพ่อ (วิโรจน์ พรประกฤต) ย่านสะพานเหล็ก โดยมีหน้าที่หลักคือเช็ดตู้เพชร เปิด-ปิดประตู พร้อมเสิร์ฟน้ำชาต้อนรับลูกค้า ไม่มีโอกาสได้จับเพชร จึงไม่รู้สึกผูกพัน

เพราะใฝ่ผันอยากเป็นนักบัญชี เธอจึงเลือกเรียนปริญญาตรีบริหารธุรกิจ สาขาบัญชี ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ต่อด้วยปริญญาโท คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ความฝันก็หักเห เพราะขณะที่กำลังรอทำวิทยานิพนธ์ อัญก็เผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ในชีวิต ด้วยการมาช่วยงานรับผิดชอบโครงการเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งตรงนั้นเธอทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ตั้งแต่ดูเรื่องบัญชีรวมถึงคุณภาพสินค้า ที่ต้องชัดเจนตรงไปตรงมา จนในที่สุดก็นำพายูบิลลี่เข้าเป็นบริษัทมหาชนได้สำเร็จ เร็วกว่าแผนที่ผู้เป็นบิดากำหนดไว้

 
นั่นคือจุดพลิกผันที่ทำให้เธอเข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัว ที่มีมานานกว่า 90 ปี พร้อมลุยงานที่ยูบิลลี่อย่างเต็มตัว โดยความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับยูบิลลี่ในช่วงที่เธอเข้ามาช่วยงานพ่อ ตั้งแต่การจับบริษัทแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จ รวมถึงการคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง Global MOOT Corp Competition, Texas, USA รางวัล New Venture Championship, Oregon, USA ตลอดจนการได้ลิขสิทธิ์จำหน่าย “ฟอร์เอเวอร์มาร์ค” (FOREVERMARK) เพชรดังระดับตำนานที่งดงาม หายาก คัดสรรจากแหล่งที่ดีที่สุดจาก “เดอ เบียร์ส” (De Beers) แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของเธอได้เป็นอย่างดี

 
เสน่ห์ของผู้หญิงคนนี้นอกจากความสามารถแล้ว แนวคิดการใช้ชีวิตในแบบ “ผู้หญิงทำงาน” ก็น่าสนใจไม่น้อย หลายคนแยกงานออกจากชีวิตส่วนตัว แต่สำหรับอัญรัตน์แล้ว เธอบอกว่าไม่อาจแยกออกจากกันได้

“ชอบทำงานนะคะ แต่ไม่ได้หมายความว่าทำงานตลอดเวลา เพราะไม่เคยคิดว่า นี่เรากำลังทำงานหรือว่าไม่ได้ทำงาน มันเหมือนกับชีวิตที่เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แยกไม่ออกค่ะ อย่างเวลาอยู่ที่ออฟฟิศ เราก็สนุกกับงานจนเพลิน พอกลับบ้านเราก็คิดโน่นคิดนี่ที่เกี่ยวกับงานอีก หรือแม้กระทั่งเวลาออกกำลังกาย ก็ยังคิดอะไรได้อีกเยอะ งานทำให้เรามีสมาธิมากขึ้น”

 
ความสามารถในความเป็นนักคิดของเธอนั้น มีอยู่คู่กับรูปลักษณ์ที่สดใสและกระฉับกระเฉง โดยเธอสะท้อนแนวคิดในการทำงานแต่ละวันว่า ทุกเช้าจะรีบมาทำงาน เพราะอยากใช้เวลาทำงานใน 1 วันให้มีประสิทธิภาพที่สุด เมื่อมาถึงก็จะเริ่มเช็กอีเมล อัปเดตงาน ประชุมคุยงานเกือบตลอดทั้งวัน “อัญจะเอาแนวคิดใหม่ที่เกิดจากการได้พบเห็นจากหนังสือ ดูทีวี รวมถึงการพูดคุยกับพนักงานในบริษัทมาคิดต่อยอด เวลาประชุมให้ทุกคนสามารถแชร์ไอเดียให้กัน และนำมาปรับใช้ในการตลาด เพราะคุณพ่อสอนมาโดยตลอดว่า ทุกสิ่งที่เราได้รับสามารถเอาเข้ามาเกี่ยวกับเราได้ถ้าเราคิดจะทำ”

 
เจ้าของแววตาสดใสและดูซุกซน ยังยอมรับอีกว่า จากเดิมที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องเพชรและเครื่องประดับมากนัก แต่เมื่อได้ทำงานตรงนี้และคลุกคลีกับเพชร ก็รู้สึกรักและสนุกกับการค้นหาเพชรเม็ดงามให้ลูกค้า โดยเพชรของเธอใช้ของเหมืองจากเมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerp) ประเทศเบลเยียม ซึ่งเป็นเหมืองขนาดใหญ่

จากคนที่เข้ามาทำธุรกิจเพชรเพราะความจำเป็น กลายมาเป็นรักเพชร สุดท้าย อัญจึงเป็นคอลเลกเตอร์สะสมเพชรไปเลย “มีหลายเม็ดที่สวยประทับใจ ก็มีเก็บไว้ทำเครื่องประดับส่วนตัวบ้าง แต่ชิ้นโปรดที่รักมากคงเป็นแหวนเพชร 3 กะรัต ที่คุณพ่อตั้งใจทำให้ลูกสาวในงานหมั้น ความโดดเด่นนอกจากอยู่ที่ตัวเพชร 3 กะรัตแล้ว ยังอยู่ที่ดีไซน์ที่คุณพ่อออกมาแบบให้เป็นเพชรเล็กๆ มาต่อกันเหมือนอิฐบล็อก เหมือนกับการประสานคนสองคนที่จะมาใช้ชีวิตร่วมกัน และยังมีความประณีตในงานฝีมือ เพราะด้านในของแหวนยังได้ทำให้ดูเรียบ ไม่เห็นรูเพชร ที่ปกติเรามักจะเห็นกัน นับเป็นแหวนที่มีคุณค่าทางจิตใจกับอัญมากค่ะ”

 
ส่วนอีก 2 ชิ้นที่รักมากพอๆ กันคือ แหวนเพชร ที่ได้เป็นขวัญจากเหมืองเพชรที่เธอเป็นลูกค้า “วงนี้เป็นเครื่องประดับชิ้นแรกๆ ที่อัญมีเก็บเลยค่ะ เป็นเพชรเม็ดเล็กมากๆ แต่ก็น้ำงามมากจริงๆ ความโดดเด่นนอกจากความใสของเพชรแล้ว เค้ายังเจียระไนได้สวยชนิดที่มาทำเป็นแหวนใส่ไปไหนมาไหน คนทักมากที่สุด เพราะคิดว่าเป็นเพชรเม็ดใหญ่ค่ะ ส่วนอีกชิ้นเป็นสร้อยข้อมือของที่ร้าน โดยเพชรแต่ละเม็ดหนัก 30 สตางค์ เส้นนี้อัญรักที่ดีไซน์เรียบง่าย เพชรไม่ใหญ่แต่เราเน้นเทคนิคดีไซน์ทำหนามเตยใหญ่ทำให้ดูเก๋ค่ะ”

นานกว่า 14 ปีแล้วที่ ยูบิลลี่ อยู่ภายใต้การดูแลของ “อัญรัตน์” แม้เธอจะบอกว่าเหนื่อยแต่ก็มีความสุข ยิ่งเมื่อเห็นลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน หรือแม้กระทั่งที่เคาน์เตอร์ ไม่ว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ แค่ลูกค้ามีความสุขเธอก็สุขใจแล้ว ก่อนจากกันเธอยังฝากแง่คิดดีๆ เรื่องการทำงานว่า “ถ้าเราคิดว่าเหนื่อยมันก็เหนื่อย หรือถ้าเราคิดว่าหนักมันก็หนัก แล้วจะไปคิดทำไม เพราะสุดท้าย เราต้องทำ ก็คือต้องทำ”

เรื่อง : วรกัญญา สมพลวัฒนา
ภาพ : วชิร สายจำปา

กำลังโหลดความคิดเห็น